โค้งสุดท้ายเลือกนายก อบจ.ภูเก็ต คึกคักขุนพล ปชป.ลงพื้นที่ช่วย “อัญชลี” หาเสียง

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โค้งสุดท้ายเลือกนายก อบจ.ภูเก็ตคึกคักขุนพล ปชป.ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครในนามของพรรค “อัญชลี วานิช เทพบุตร” หาเสียงด้าน “ไพบูลย์ อุปัติศฤงค์” ลงพื้นที่เคาะประตูบ้านขอเสียงจากชาวภูเก็ต มั่นใจชาวภูเก็ตอยากเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ภูเก็ต ในโค้งสุดท้ายเป็นไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากการเลือกตั้งในครั้งนี้มีผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ภูเก็ต 1 คนด้วย คือ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร หมายเลข 1 อดีตนายก อบจ.ภูเก็ต สมัยที่แล้ว ที่ลงแข่งขันในนามของพรรคประชาธิปัตย์ และ นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ อดีต ส.ว.ภูเก็ต และนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์

โดยล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา ขุนพลจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ปชป.นายไตรรงค์ สุวรรณศีรี และแกนนำของพรรค ปชป.ได้ลงพื้นที่ภูเก็ตช่วย นางอัญชลี และผู้สมัคร ส.อบจ.ในนามของพรรคหาเสียง โดยเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่บริเวณเวทีกลางสะพานหิน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนชาวภูเก็ต ร่วมฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก

โดยขุนพลจากพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมดได้ฝากชาวภูเก็ตให้เลือก นางอัญชลี เข้ามาบริหารอบจ.ภูเก็ตอีกหนึ่งสมัย เพื่อให้ นางอัญชลี ได้สานงานต่อที่เป็นประโยชน์กับชาวภูเก็ต ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างผลงานที่เห็นเป็นรูปธรรมในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการศึกษา การท่องเที่ยว การพัฒนาคุณภาพการศึกษา ซึ่งทางพรรค ปชป.สนับสนุนการกระจายอำนาจสู่การปกครองส่วนท้องถิ่น

ด้าน นางอัญชลี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาของการสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ภูเก็ตในสมัยนี้ ตนถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีในเรื่องต่างๆ ที่ล้วนแต่ไม่เป็นความจริง โดยปล่อยข่าวให้ตนได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ตนได้รับค่าคอมมิชั่นจากการซื้อตึกโรงพยาบาลพญาไท 30 ล้านบาท มีผลประโยชน์ในบริษัทเจียรวานิช ที่เป็นคู่สัญญากับ อบจ.ภูเก็ต และอีกหลายเรื่องๆที่ไม่ต้องการให้ชาวภูเก็ตเลือกตนเป็นนายก อบจ.

“ไพบูลย์” เร่งลงพื้นที่หาเสียงโค้งสุดท้าย

ขณะที่ นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ผู้สมัครนายก อบจ.ภูเก็ต หมายเลข 2 กล่าวว่า จากการที่ได้ลงพบปะประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เสียงตอบรับที่ได้ ค่อนข้างมั่นใจ เพราะเป็นที่รู้จักของประชาชน จากผลงานการทำงานด้าน ส.ว.และการวางตัวที่เป็นกลางทางด้านการเมือง ไม่ได้เป็นนอมินีให้กับใคร ต่อต้านในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ประชาชนตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด

“ชาวภูเก็ตต้องการที่จะเปลี่ยนให้เป็นเป็นในทิศทางที่ตรวจสอบได้และอยากให้การบริหารงาน รับฟังปัญหา ประชาชนมีส่วนรวมสามารถทำงานร่วมกับองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่นอื่นๆ ได้ ไม่ทำงานแบบคนเดียว ในอนาคตผู้นำสามารถที่จะคุยปัญหาของประชาชนในจังหวัดภูเก็ตและร่วมแก้ไขได้ อบจ.ต้องเป็นผู้ที่ให้บริการประชาชน ส.อบจ.ต้องทำงานให้กับประชาชน ไม่ได้ทำงานให้นายก

ส่วนการหาเสียงในโค้งสุดท้ายนั้นจะเน้นการเร่งเคาะประตูตามบ้านลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และรับฟังปัญหาของแต่ละพื้นที่ ซึ่งเมื่อได้รับเลือกให้เป็นนายก จะได้แก้ไขปัญหาของแต่ละพื้นที่ได้อย่างเร่งด่วน ปัญหาเรื่องน้ำเสีย สิ่งแวดล้อม ซึ่ง อบจ.จะต้องเป็นผู้วางนโยบาย โดยจะต้องประสานงานร่วมกัน นำปัญหามาพูดคุยกันในความจริง เพราะแต่ละพื้นที่ ชุมชน มีปัญหาที่แตกต่างกัน งบประมาณที่ได้รับมาจะต้องมีความชัดเจน ประชาชนสามารถที่จะตรวจสอบได้

ในอนาคต อบจ.จะต้องเป็นหน่วยงานที่ประชาชนสามารถที่จะทราบข้อมูลข่าวสารไปพร้อมๆ กัน ซึ่งถ้ามีการประชุมสภา อบจ. ประชาชนสามารถที่จะรับฟังการถ่ายทอดสด สื่อมวลชนแขนงต่างๆ สามารถที่จะเข้าไปรับฟังในสภาได้ รวมทั้ง อบจ.จะต้องสามารถดึงงบประมาณ จากหน่วยงานอื่น เช่น สาธารณสุข คมนาคม รัฐมนตรีรับทราบปัญหาของจังหวัดภูเก็ต ไม่สามารถทำงานได้เพียงลำพัง จากที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ทำงานโดยต่างคนต่างทำ ทำให้โครงการใหญ่ไม่เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต เพราะว่าเราไม่สามารถคุยกันเองได้ ไม่ประชุมร่วมกัน

ส่วนโครงการที่ผ่านมา อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชานจะต้องมีการประสานงานทำอย่างต่อเนื่องเพราะว่าสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนจะต้องดำเนินการก่อน นอกจากนั้นจะต้องคิดโครงการใหม่ๆ หรือปรับปรุงทำให้ดีกว่าเดิม เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เช่น พื้นที่สีเขียว ถนนสวยงาม สาธารณสุขเคลื่อนที่ ศูนย์รับเรื่องราวท้องถิ่น เป็นต้น