กระบี่ - จังหวัดกระบี่กำหนดปิดอ่าว อนุรักษ์พันธุ์ปลา ในฤดูปลามีไข่ และวางไข่ เลี้ยงลูก ระหว่างวันที่ 15 เมษายน – 15 มิถุนายน 2551
นายแสน ศรีงาม หัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลฝั่งอันดามันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า บริเวณพื้นที่อ่าวพังงา ซึ่งครอบคลุม พื้นที่จังหวัดกระบี่ด้วย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแพร่ขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำเศรษฐกิจมากมายหลายชนิด โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีคุณค่า และมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ มีการวางไข่แพร่พันธุ์ อาศัยเลี้ยงตัวในวัยอ่อน และเจริญเติบโตในบริเวณดังกล่าว ระหว่างเดือนเมษายน – มิถุนายน ของทุกปี
เพื่ออนุรักษ์พันธ์ปลาดังกล่าวไม่ให้สูญพันธุ์ทางกรมประมงจึงได้กำหนดปิดอ่าวในฤดูปลาที่มีไข่และวางไข่เลี้ยงลูกฝั่งทะเลอันดามัน ในเขตพื้นที่กำหนดของจังหวัดกระบี่ เริ่มตั้งแต่ปลายแหลมสัก อ.อ่าวลึก ลากเส้นตรงถึงเหนือสุดเกาะยาวน้อย เลียบฝั่งตะวันออกของเกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จนถึงปลายแหลมด้านทิศใต้เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา และลากเส้นตรง ถึงเกาะปิดะนอก อ.เมือง จ.กระบี่ จากจุดบิดะนอก ลากเส้นตรงไปถึงด้านใต้สุดเกาะลันตาใหญ่ แล้วลากเส้นตรงถึงจุดปากคลองแบ่งเขตจังหวัดกระบี่ และจังหวัดตรัง ท้องที่อำเภอคลองท่อม รวมเนื้อที่ 2,067 ตารางกิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน – 15 มิถุนายน 2551
โดยเขตพื้นที่ที่กล่าวมาห้ามทำการประมงด้วยอวนลากทุกประเภททุกขนาด ที่ใช้กับเรือกล อวนประเภทล้อมจับทุกชนิด และอวนติดตาขนาดช่องตาเล็กกว่า 47 เซนติเมตร หากฝ่าฝืน มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และริบเครื่องมือทำการประมง และนอกจากนี้ก็ฝากไปยังชาวประมงพื้นบ้านที่จับปลาอยู่ตามริมชายฝั่ง อย่าใช้อวนที่มีขนาดช่องตาเล็กเกินไปด้วย เพราะจะทำให้สัตว์น้ำชนิดต่างๆเสียหายไปด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ไช่ปริมาณที่มากก็ตาม
นายแสน ศรีงาม หัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลฝั่งอันดามันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า บริเวณพื้นที่อ่าวพังงา ซึ่งครอบคลุม พื้นที่จังหวัดกระบี่ด้วย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแพร่ขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำเศรษฐกิจมากมายหลายชนิด โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีคุณค่า และมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ มีการวางไข่แพร่พันธุ์ อาศัยเลี้ยงตัวในวัยอ่อน และเจริญเติบโตในบริเวณดังกล่าว ระหว่างเดือนเมษายน – มิถุนายน ของทุกปี
เพื่ออนุรักษ์พันธ์ปลาดังกล่าวไม่ให้สูญพันธุ์ทางกรมประมงจึงได้กำหนดปิดอ่าวในฤดูปลาที่มีไข่และวางไข่เลี้ยงลูกฝั่งทะเลอันดามัน ในเขตพื้นที่กำหนดของจังหวัดกระบี่ เริ่มตั้งแต่ปลายแหลมสัก อ.อ่าวลึก ลากเส้นตรงถึงเหนือสุดเกาะยาวน้อย เลียบฝั่งตะวันออกของเกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จนถึงปลายแหลมด้านทิศใต้เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา และลากเส้นตรง ถึงเกาะปิดะนอก อ.เมือง จ.กระบี่ จากจุดบิดะนอก ลากเส้นตรงไปถึงด้านใต้สุดเกาะลันตาใหญ่ แล้วลากเส้นตรงถึงจุดปากคลองแบ่งเขตจังหวัดกระบี่ และจังหวัดตรัง ท้องที่อำเภอคลองท่อม รวมเนื้อที่ 2,067 ตารางกิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน – 15 มิถุนายน 2551
โดยเขตพื้นที่ที่กล่าวมาห้ามทำการประมงด้วยอวนลากทุกประเภททุกขนาด ที่ใช้กับเรือกล อวนประเภทล้อมจับทุกชนิด และอวนติดตาขนาดช่องตาเล็กกว่า 47 เซนติเมตร หากฝ่าฝืน มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และริบเครื่องมือทำการประมง และนอกจากนี้ก็ฝากไปยังชาวประมงพื้นบ้านที่จับปลาอยู่ตามริมชายฝั่ง อย่าใช้อวนที่มีขนาดช่องตาเล็กเกินไปด้วย เพราะจะทำให้สัตว์น้ำชนิดต่างๆเสียหายไปด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ไช่ปริมาณที่มากก็ตาม