กระบี่ - อุทยานฯผวา เรียกชาวบ้านประชุมด่วน หาทางออกเก็บค่าบริการเข้าอุทยานฯ หลังป้อมเก็บเงินถูกเผา พร้อมขยายเวลาจัดเก็บออกไปอีก
วันนี้ (1 เม.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ นายเชษฐ พวงจิตร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ประชุมร่วมกับผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านตำบลอ่าวนาง กว่า 20 คน เพื่อหาทางออกในเรื่องของการจัดเก็บค่าบริการเข้าอุทยานฯ ที่จะมีการเริ่มจัดเก็บในวันนี้ อัตรา ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
ผู้ที่จะได้รับการยกเว้นค่าบริการ คือ บุคคลที่มีอายุ ต่ำกว่า 3 ปี พระภิกษุ สามเณร และผู้สูงอายุ ที่มีอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยจะเริ่มเก็บตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2251 และสถานที่ที่จะเพิ่มจุดจัดเก็บ จำนวน 2 จุด คือ บริเวณถนนสาย 4202 ระหว่างบ้านคลองแห้ง-หาดนพรัตน์ธารา และบริเวณถนนสาย 4203 ระหว่างหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง แต่ได้เกิดเหตุป้อมยามเก็บค่าบริการ บริเวณจุดระหว่างบ้านคลองแห้ง-หาดนพรัตน์ธารา ถูกไฟเผาเสียก่อนซึ่งคดียังไม่มีความคืบหน้า ทางอุทยานฯจึงหาทางออกด้วยการเรียกชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่นประชุม
ในที่ประชุมก็ได้มีการนำเรื่องการจัดเก็บค่าบริการเข้าอุทยานฯเข้ามาพูดคุย ซึ่งก็ได้มีมติร่วมกันว่าสำหรับคนในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ ผู้ประกอบการและชาวบ้านที่ต้องเดินทางเข้าพื้นที่อุทยานฯ จะไม่มีการจัดเก็บค่าบริการ และจะขยายวันจัดเก็บออกไปอีกเป็นวันที่ 5 เมษายน 51 แต่มติดังกล่าวจะไม่มีการประกาศ เนื่องจากเป็นเพียงข้อตกลงร่วมกันเท่านั้น เพราะจะไปขัดกฎหมายของอุทยานฯที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ให้มีการจัดเก็บ ซึ่งทุกคนก็พอใจ
ด้าน นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับการเรียกเก็บค่าเข้าอุทยานบริเวณดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะจุดนั้นอยู่บนถนนและชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางถึงแม้ว่าจะมีเส้นทางอื่นเลี่ยงก็ตาม เพราะด้วยศักยภาพของหาดนพรัตน์ธาราเอง ไม่รู้จะเก็บค่าบริการไปเพื่ออะไร เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ยังไม่มี เอาเปรียบนักท่องเที่ยวและประชาชนเกินไป
วันนี้ (1 เม.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ นายเชษฐ พวงจิตร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ประชุมร่วมกับผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านตำบลอ่าวนาง กว่า 20 คน เพื่อหาทางออกในเรื่องของการจัดเก็บค่าบริการเข้าอุทยานฯ ที่จะมีการเริ่มจัดเก็บในวันนี้ อัตรา ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
ผู้ที่จะได้รับการยกเว้นค่าบริการ คือ บุคคลที่มีอายุ ต่ำกว่า 3 ปี พระภิกษุ สามเณร และผู้สูงอายุ ที่มีอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยจะเริ่มเก็บตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2251 และสถานที่ที่จะเพิ่มจุดจัดเก็บ จำนวน 2 จุด คือ บริเวณถนนสาย 4202 ระหว่างบ้านคลองแห้ง-หาดนพรัตน์ธารา และบริเวณถนนสาย 4203 ระหว่างหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง แต่ได้เกิดเหตุป้อมยามเก็บค่าบริการ บริเวณจุดระหว่างบ้านคลองแห้ง-หาดนพรัตน์ธารา ถูกไฟเผาเสียก่อนซึ่งคดียังไม่มีความคืบหน้า ทางอุทยานฯจึงหาทางออกด้วยการเรียกชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่นประชุม
ในที่ประชุมก็ได้มีการนำเรื่องการจัดเก็บค่าบริการเข้าอุทยานฯเข้ามาพูดคุย ซึ่งก็ได้มีมติร่วมกันว่าสำหรับคนในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ ผู้ประกอบการและชาวบ้านที่ต้องเดินทางเข้าพื้นที่อุทยานฯ จะไม่มีการจัดเก็บค่าบริการ และจะขยายวันจัดเก็บออกไปอีกเป็นวันที่ 5 เมษายน 51 แต่มติดังกล่าวจะไม่มีการประกาศ เนื่องจากเป็นเพียงข้อตกลงร่วมกันเท่านั้น เพราะจะไปขัดกฎหมายของอุทยานฯที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ให้มีการจัดเก็บ ซึ่งทุกคนก็พอใจ
ด้าน นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับการเรียกเก็บค่าเข้าอุทยานบริเวณดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะจุดนั้นอยู่บนถนนและชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางถึงแม้ว่าจะมีเส้นทางอื่นเลี่ยงก็ตาม เพราะด้วยศักยภาพของหาดนพรัตน์ธาราเอง ไม่รู้จะเก็บค่าบริการไปเพื่ออะไร เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ยังไม่มี เอาเปรียบนักท่องเที่ยวและประชาชนเกินไป
