กระบี่ - อบต.อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ได้เรือขนขยะมูลค่า 25 ล้านบาท บรรทุกขยะได้ 25 ตัน เพื่อวิ่งขนขยะที่เกาะพีพีแล้ว เผยที่ผ่านมาขาดทุนปีละ 4 ล้านบาท
นายพันคำ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อ่าวนาง ได้รับมอบเรือขนถ่ายขยะจากกรมการส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น 1 ลำ กว้าง 5 เมตร ยาว 19 เมตร มูลค่า 25 ล้านบาท สามารถบรรทุกขยะได้เที่ยวละประมาณ 25 ตัน ซึ่งทาง อบต.อ่าวนาง จะได้นำไปวิ่งขนถ่ายขยะจากเกาะพีพี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของ อบต.ขึ้นมาทิ้งที่หลุมฝังกลบของเทศบาลเมืองกระบี่
นายพันคำ กล่าวอีกว่า สำหรับขยะที่อยู่บนเกาะพีพี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ ต.อ่าวนาง และจังหวัดกระบี่ ที่ทาง อบต.อ่าวนาง ต้องจัดเก็บขนขึ้นมาทำการฝังกลบบนฝั่ง เฉลี่ยอยู่ที่วันละประมาณ 20 ตัน ซึ่งถือว่าเป็นขยะที่มีจำนวนค่อนข้างมาก และคาดว่า ในอนาคตหากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี คาดว่า จำนวนขยะคงจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งขยะที่มาจากผู้ประกอบการ ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อยู่ที่เกาะพีพี
การจัดเก็บขยะจากเกาะพีพี มาทิ้งบนฝั่ง ที่ผ่านมาทาง อบต.ต้องรับภาระการขาดทุนมาตลอด เนื่องจากสามารถเก็บค่าธรรมเนียมในการเก็บขน จากผู้ประกอบการและชาวบ้าน ได้ประมาณ 100,000 บาท/เดือนเท่านั้น แต่ค่าใช้จ่ายจริงในการเก็บขนขยะจนถึงหลุมฝังกลบ ทาง อบต.ต้องเสียค่าใช้จ่าย/เดือน ประมาณ 500,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นภาระที่ทาง อบต.ต้องแบกรับมาตลอด แต่ต่อไปนี้ ทาง อบต.จะเปลี่ยนวิธีการเก็บค่าธรรมเนียมใหม่ โดยจะไม่มีการเหมาจ่ายเหมือนที่ผ่านมา
โดยจะคิดราคาขยะ ทั้งจากผู้ประกอบการและประชาชน หากว่าเป็นขยะที่ได้ทำการคัดแยกแล้ว ทาง อบต.จะคิดค่าเก็บในราคากิโลกรัมละ 3 บาท แต่หากว่าขยะที่ไม่มีการคัดแยกก็จะจัดเก็บในราคากิโลกรัมละ 5 บาท แต่การจัดเก็บในอัตราดังกล่าวก็จะต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดกันอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะนำมาปฏิบัติ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการและชาวบ้านมากเกินไป แต่ตนมองว่าราคาดังกล่าวน่าจะเหมาะสมแล้ว
นายก อบต.อ่าวนาง ได้กล่าวตอนท้ายว่า สำหรับค่าธรรมเนียมในการเก็บขนขยะจากเกาะพีพี ที่ผ่านมา ทาง อบต.อ่าวนางได้ว่าจ้าง ทางเอกชนขนถ่าย และต้องยอมรับว่า อบต.ต้องรับภาระการขาดทุนมาทุกปี ปีละประมาณ 4 ล้านบาท แต่เมื่อได้เรือลำใหม่ ที่เป็นของ อบต.เอง ก็จะต้องมีการบริหารจัดการกันใหม่เพื่อ อบต.จะได้ไม่ต้องแบกรับภาระมากนัก โดยต้องปรับเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บตามอัตราข้างต้น ขยะแยก 3 บาท ไม่แยก 5 บาท เพื่อลดภาระขาดทุนลง
นายพันคำ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อ่าวนาง ได้รับมอบเรือขนถ่ายขยะจากกรมการส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น 1 ลำ กว้าง 5 เมตร ยาว 19 เมตร มูลค่า 25 ล้านบาท สามารถบรรทุกขยะได้เที่ยวละประมาณ 25 ตัน ซึ่งทาง อบต.อ่าวนาง จะได้นำไปวิ่งขนถ่ายขยะจากเกาะพีพี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของ อบต.ขึ้นมาทิ้งที่หลุมฝังกลบของเทศบาลเมืองกระบี่
นายพันคำ กล่าวอีกว่า สำหรับขยะที่อยู่บนเกาะพีพี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ ต.อ่าวนาง และจังหวัดกระบี่ ที่ทาง อบต.อ่าวนาง ต้องจัดเก็บขนขึ้นมาทำการฝังกลบบนฝั่ง เฉลี่ยอยู่ที่วันละประมาณ 20 ตัน ซึ่งถือว่าเป็นขยะที่มีจำนวนค่อนข้างมาก และคาดว่า ในอนาคตหากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี คาดว่า จำนวนขยะคงจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งขยะที่มาจากผู้ประกอบการ ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อยู่ที่เกาะพีพี
การจัดเก็บขยะจากเกาะพีพี มาทิ้งบนฝั่ง ที่ผ่านมาทาง อบต.ต้องรับภาระการขาดทุนมาตลอด เนื่องจากสามารถเก็บค่าธรรมเนียมในการเก็บขน จากผู้ประกอบการและชาวบ้าน ได้ประมาณ 100,000 บาท/เดือนเท่านั้น แต่ค่าใช้จ่ายจริงในการเก็บขนขยะจนถึงหลุมฝังกลบ ทาง อบต.ต้องเสียค่าใช้จ่าย/เดือน ประมาณ 500,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นภาระที่ทาง อบต.ต้องแบกรับมาตลอด แต่ต่อไปนี้ ทาง อบต.จะเปลี่ยนวิธีการเก็บค่าธรรมเนียมใหม่ โดยจะไม่มีการเหมาจ่ายเหมือนที่ผ่านมา
โดยจะคิดราคาขยะ ทั้งจากผู้ประกอบการและประชาชน หากว่าเป็นขยะที่ได้ทำการคัดแยกแล้ว ทาง อบต.จะคิดค่าเก็บในราคากิโลกรัมละ 3 บาท แต่หากว่าขยะที่ไม่มีการคัดแยกก็จะจัดเก็บในราคากิโลกรัมละ 5 บาท แต่การจัดเก็บในอัตราดังกล่าวก็จะต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดกันอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะนำมาปฏิบัติ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการและชาวบ้านมากเกินไป แต่ตนมองว่าราคาดังกล่าวน่าจะเหมาะสมแล้ว
นายก อบต.อ่าวนาง ได้กล่าวตอนท้ายว่า สำหรับค่าธรรมเนียมในการเก็บขนขยะจากเกาะพีพี ที่ผ่านมา ทาง อบต.อ่าวนางได้ว่าจ้าง ทางเอกชนขนถ่าย และต้องยอมรับว่า อบต.ต้องรับภาระการขาดทุนมาทุกปี ปีละประมาณ 4 ล้านบาท แต่เมื่อได้เรือลำใหม่ ที่เป็นของ อบต.เอง ก็จะต้องมีการบริหารจัดการกันใหม่เพื่อ อบต.จะได้ไม่ต้องแบกรับภาระมากนัก โดยต้องปรับเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บตามอัตราข้างต้น ขยะแยก 3 บาท ไม่แยก 5 บาท เพื่อลดภาระขาดทุนลง