ศูนย์ข่าวภูเก็ต – แบงก์เอสเอ็มอี สาขาภูเก็ต เผยปี 50 ปล่อยสินเชื่อให้ SMEs ได้แค่ 152 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าครึ่งหนึง เหตุเน้นแก้ปัญหาหนี้ NPL ที่สามารถลดได้ถึงครึ่งหนึ่ง คาดปีนี้ยอดปล่อยกู้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ล่าสุดได้ลูกค้ารายใหญ่ด้านอาหารและเรือโดยสารไปเกาะต่างๆ แล้วเกือบ 100 ล้านบาท
นายขวัญชัย รัตนญาติ ผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สาขาภูเก็ต เปิดเผยถึงการปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย หรือเอสเอ็มอี ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตลอดปี 2550 ว่า ธนาคารเอสเอ็มอี สาขาภูเก็ตได้ปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในภูเก็ตไปทั้งสิ้น 31 ราย วงเงินสินเชื่อทั้งหมด 152.03 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของเป้าหมายที่วางไว้ 300 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากในปี 2550 ธนาคารเอสเอ็มอี มีนโยบายที่จะแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL มากกว่าการปล่อยสินเชื่อ จึงทำให้การปล่อยสินเชื่อในปีที่แล้วต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม จากการที่ตลอดทั้งปี 2550 ธนาคารเน้นการแก้ไขปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ทำให้สาขาภูเก็ตสามารถที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้ NPL ได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง โดยเมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2549 สาขาภูเก็ตมีหนี้ NPL ทั้งสิ้น 274 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.30 ของสินเชื่อทั้งหมด แต่เมื่อสิ้นปี 2550 หนี้ NPL ลดลงเหลือ 148 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.07 สามารถแก้หนี้ได้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งหนี้ NPL ของสาขาภูเก็ตต่ำกว่าเกณฑ์ของธนาคารที่ภาพรวมอยู่ที่ร้อยละ 43
“ลูกค้าที่เป็นหนี้ NPL ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเดิมๆ ที่มีการยื่นขอกู้มานานแล้ว ด้วยการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งเมื่อธุรกิจที่ยื่นกู้กับทางธนาคารเติบโตขึ้น บางรายได้ขยายการลงทุนเพิ่มในธุรกิจที่ไม่ถนัด จึงส่งผลกระทบมาถึงธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ด้วย บางรายเป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิ ส่วนสินเชื่อที่ปล่อยในปี 2550 ที่ผ่านมา ไม่มีปัญหาเรื่อง NPL เลย” นายขวัญชัย กล่าวและเผยต่อว่า
ในปี 2551 ธนาคารยังไม่ได้มอบเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อแต่อย่างใด เพราะยังมุ่งเน้นในการแก้ปัญหาหนี้ NPL ต่อไปอีกหนึ่งปี แต่สาขาภูเก็ตได้ตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อตลอดทั้งปีไว้ที่ 35 ราย วงเงินสินเชื่อ 200 ล้านบาท ทั้งนี้ จะเน้นไปยังธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่เป็นธุรกิจหลักของภูเก็ต รวมทั้งธุรกิจอื่นๆ ที่ทางเอสเอ็มอีต้องการสินเชื่อ ซึ่งคิดว่ายอดการปล่อยสินเชื่อตลอดปีนี้ น่าที่จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากความต้องการสินเชื่อด้านท่องเที่ยวของภูเก็ตยังมีอยู่สูง
“ขณะนี้สาขาภูเก็ตได้ส่งการขออนุมัติสินเชื่อไป ให้สำนักงานใหญ่พิจารณาที่เป็นลูกค้ารายใหญ่รายเดิมที่เคยปล่อยสินเชื่อมาแล้วและไม่มีปัญหา NPL แล้ว 2 ราย ที่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับอาหารจำนวน 25 ล้านบาท และธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ที่เป็นเรือโดยสารนำนักท่องเที่ยวไปยังเกาะพีพี เกาะสิมิลัน จำนวน 3 ลำ ซึ่งเป็นเรือที่นำระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ ในวงเงินสินเชื่อที่ขอทั้งสิ้น 50 ล้านบาท”
นอกจากนี้ ก็จะเป็นกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่วงเงินกู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท กระจายอยู่ในธุรกิจต่างๆด้านการท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ซึ่งโดยนโยบายของธนาคารเอสเอ็มอี ต้องการที่จะปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้ารายย่อยที่ไม่มีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุน มากกว่าที่จะปล่อยให้แก่ลูกค้ารายใหญ่ๆ ที่มีธนาคารพาณิชย์ให้บริการสินเชื่ออยู่แล้ว
