สุราษฎร์ธานี - ผัวโหดโมโหเมียไม่ทำกับข้าวให้กิน เปิดฉากด่ากราด-ตบหน้า ก่อนควง .357 ยิงดับคาที่ต่อหน้าลูกสาววัย 13 ปี ตำรวจ สภ.ตะปาน สุราษฎร์ธานี เร่งล่าตัวแล้ว แต่ยังไร้วี่แวว
วันนี้ (1 เม.ย.) พ.ต.ต.ประพาส ทองสมุทร สารวัตรเวร สภ.บางมะเดื่อ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 93 ม.5 ต.ตะปาน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพิศ หนูแท้ ผกก.สภ.ตะปาน และ พ.ต.ท.บุญเลิศ เฮ็งโอภาสนัน์ รอง ผกก.ปป.พ.ต.ท.สงคราม วรรณะ รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาพุนพิน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอน พบ ด.ญ.อัญธิดา หนูมาก อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเคียนซา นั่งร่ำไห้กอดศพผู้ตาย ซึ่งนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนที่นอน ทราบชื่อ นางมลิวรรณ หนูมาก อายุ 39 ปี สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดคอปกสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว
มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357 บริเวณศีรษะ 1 นัด หน้าอก 1 นัด และหน้าท้อง 2 นัด ที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนขนาด .357 ตกอยู่ 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลท่าโรงช้าง
เบื้องต้นทราบว่ามือปืนที่ก่อเหตุ คือ นายเปรม ทองศรีทอง อายุ 37 ปี สามีผู้ตาย โดยหลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ 4 ประตู สีดำ จำหมวดอักษรไม่ได้ ทะเบียน 3948 นครศรีธรรมราช หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดตาม
เส้นทางที่คาดว่า คนร้ายจะใช้หลบหนี แต่ยังไร้วี่แวว
สอบสวน ด.ญ.อัญธิดา บุตรสาวผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนนั่งเล่นอยู่ภายในบ้านเพียงลำพัง ส่วนนางมลิวรรณ มารดา ไปนั่งพูดคุยกับเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง ระหว่างนั้นนายเปรม ได้ขับรถจากทำธุระข้างนอกกลับมาบ้าน ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวหลังบ้าน และเดินกลับออกมาอย่างอารมณ์เสีย พร้อมถามหาแม่ ด้วยน้ำเสียงดุดัน ก่อนที่นายเปรมจะเดินไปตามนางมลิวรรณ กลับมาบ้าน
ทั้งนี้ เมื่อมารดากลับมาถึงบ้าน นายเปรม ได้เปิดฉากด่าใส่ผู้ตายเป็นชุดใหญ่ เรื่องที่กลับมาบ้านแล้วไม่มีอะไรกิน จนมีปากเสียงโต้เถียงกันขึ้น ก่อนที่นายเปรม จะใช้มือตบหน้าผู้ตายอย่างแรง 2 ครั้ง หลังจากนั้นนายเปรม เดินออกไปที่รถกระบะ ซึ่งจอดไว้ที่หน้าบ้าน ส่วนมารดา เดินหลบมานั่งร้องไห้บนที่นอนที่เกิดเหตุกับตน
ปรากฏว่า ระหว่างที่มารดากำลังนั่งร้องไห้อยู่นั้น นายเปรมได้เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยมือถืออาวุธปืนมาด้วย ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงใส่แม่ 4 นัด ต่อหน้าต่อตาตน โดยไม่ได้ทำร้ายตนแต่อย่างใด หลังจากก่อเหตุนายเปรม ขับรถหลบหนีไป จึงไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ต.ประพาส ทองสมุทร สารวัตรเวร เจ้าของคดี กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นางมลิวรรณ ก่อนหน้านี้เป็นแม่หม้ายมีลูกติดกับสามีเก่า 1 คน คือ ด.ญ.อัญธิดา จนกระทั่งเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่นางมลิวรรณ จะตกลงปลงใจอยู่กินกับนายเปรม ซึ่งเป็นพ่อหม้าย โดยไม่ได้มีลูกกับนายเปรม
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่ามาจากเรื่องโกรธแค้นส่วนตัว และชู้สาว เนื่องจากทราบว่านายเปรม เป็นคนมีนิสัยอารมณ์ร้อน และขี้หึงห่วง ซึ่งที่ผ่านนายเปรมเคยมีปากเสียงทะเลาะกับผู้ตาย เกี่ยวกับเรื่องหึงห่วงผู้ตายที่ไปพูดคุยกับเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ จะได้สืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (1 เม.ย.) พ.ต.ต.ประพาส ทองสมุทร สารวัตรเวร สภ.บางมะเดื่อ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 93 ม.5 ต.ตะปาน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพิศ หนูแท้ ผกก.สภ.ตะปาน และ พ.ต.ท.บุญเลิศ เฮ็งโอภาสนัน์ รอง ผกก.ปป.พ.ต.ท.สงคราม วรรณะ รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาพุนพิน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอน พบ ด.ญ.อัญธิดา หนูมาก อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเคียนซา นั่งร่ำไห้กอดศพผู้ตาย ซึ่งนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนที่นอน ทราบชื่อ นางมลิวรรณ หนูมาก อายุ 39 ปี สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดคอปกสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว
มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357 บริเวณศีรษะ 1 นัด หน้าอก 1 นัด และหน้าท้อง 2 นัด ที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนขนาด .357 ตกอยู่ 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลท่าโรงช้าง
เบื้องต้นทราบว่ามือปืนที่ก่อเหตุ คือ นายเปรม ทองศรีทอง อายุ 37 ปี สามีผู้ตาย โดยหลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ 4 ประตู สีดำ จำหมวดอักษรไม่ได้ ทะเบียน 3948 นครศรีธรรมราช หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดตาม
เส้นทางที่คาดว่า คนร้ายจะใช้หลบหนี แต่ยังไร้วี่แวว
สอบสวน ด.ญ.อัญธิดา บุตรสาวผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนนั่งเล่นอยู่ภายในบ้านเพียงลำพัง ส่วนนางมลิวรรณ มารดา ไปนั่งพูดคุยกับเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง ระหว่างนั้นนายเปรม ได้ขับรถจากทำธุระข้างนอกกลับมาบ้าน ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวหลังบ้าน และเดินกลับออกมาอย่างอารมณ์เสีย พร้อมถามหาแม่ ด้วยน้ำเสียงดุดัน ก่อนที่นายเปรมจะเดินไปตามนางมลิวรรณ กลับมาบ้าน
ทั้งนี้ เมื่อมารดากลับมาถึงบ้าน นายเปรม ได้เปิดฉากด่าใส่ผู้ตายเป็นชุดใหญ่ เรื่องที่กลับมาบ้านแล้วไม่มีอะไรกิน จนมีปากเสียงโต้เถียงกันขึ้น ก่อนที่นายเปรม จะใช้มือตบหน้าผู้ตายอย่างแรง 2 ครั้ง หลังจากนั้นนายเปรม เดินออกไปที่รถกระบะ ซึ่งจอดไว้ที่หน้าบ้าน ส่วนมารดา เดินหลบมานั่งร้องไห้บนที่นอนที่เกิดเหตุกับตน
ปรากฏว่า ระหว่างที่มารดากำลังนั่งร้องไห้อยู่นั้น นายเปรมได้เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยมือถืออาวุธปืนมาด้วย ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงใส่แม่ 4 นัด ต่อหน้าต่อตาตน โดยไม่ได้ทำร้ายตนแต่อย่างใด หลังจากก่อเหตุนายเปรม ขับรถหลบหนีไป จึงไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ต.ประพาส ทองสมุทร สารวัตรเวร เจ้าของคดี กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นางมลิวรรณ ก่อนหน้านี้เป็นแม่หม้ายมีลูกติดกับสามีเก่า 1 คน คือ ด.ญ.อัญธิดา จนกระทั่งเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่นางมลิวรรณ จะตกลงปลงใจอยู่กินกับนายเปรม ซึ่งเป็นพ่อหม้าย โดยไม่ได้มีลูกกับนายเปรม
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่ามาจากเรื่องโกรธแค้นส่วนตัว และชู้สาว เนื่องจากทราบว่านายเปรม เป็นคนมีนิสัยอารมณ์ร้อน และขี้หึงห่วง ซึ่งที่ผ่านนายเปรมเคยมีปากเสียงทะเลาะกับผู้ตาย เกี่ยวกับเรื่องหึงห่วงผู้ตายที่ไปพูดคุยกับเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ จะได้สืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
