นครศรีธรรมราช – ‘เทพไท’ หักเหลี่ยม ‘สมัคร’ พลาดตกหลุมพรางตัวเอง ดันโบ้ยสื่อสับวิตกจริตกลัวปฏิวัติเหตุสารตกค้างในใจ หยันซ้ำไม่สนนายกฯ หน้าใหม่อยู่ไม่ทันเก่า-แต่กลัวหน้าหนามากกว่า
ที่ จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ (31 มี.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีออกมากุข่าวถึงเรื่องของการปฏิวัติ ว่าประเด็นนี้นายสมัครกำลังพยายามที่จะโยนความผิดให้กับคนอื่นโดยเฉพาะสื่อ และกำลังใช้ความเป็นอดีตนักโต้วาทีมาตอบโต้สื่อ โดยอ้างว่าเป็นเพราะสื่อได้ขุดหลุมให้นายสมัครตกหลุมพราง แต่ข้อเท็จจริงที่ได้ติดตามมาโดยตลอด เรื่องที่เกิดขึ้นแท้จริงเป็นเรื่องที่นายสมัครขุดหลุมขึ้นมาเองแล้วตกหลุมที่ตัวเองขุด เมื่อรู้ตัวจึงโยนจึงโบ้ยไปให้คนอื่นไม่ยอมรับความจริง
ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า หลายครั้งที่นายสมัครมีพฤติกรรมเช่นนี้เช่นเรื่องของบ่อนกาสิโนว่าจะตั้งใน 1 ปี 4 ปีจะได้เห็นแน่นอน แต่เมื่อถูกกระแสสังคมต่อต้านและเท่าทัน นายสมัครกลับอ้างว่ามีเพียงการเขียนจดหมายมา และเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกันในเรื่องของการปฏิวัติเป็นเพียงแค่ใบปลิว เมื่อสังคมออกมาต่อต้านเรียกร้องให้รับผิดชอบ แล้วจึงโยนต่อไปว่าเป็นเพราะนักข่าวเป็นการแสดงออกถึงการไม่รับความจริง พฤติกรรมเยี่ยงผู้ร้ายปากแข็ง
“เรื่องกระแสข่าวการปฏิวัติ เป็นเรื่องที่ตกค้างอยู่ในใจของนายสมัครตลอดมา ทั้งนี้เพราะในอดีตนายสมัครได้ดีเพราะการปฏิวัติมาโดยตลอด ครั้งที่เป็น มท.1 เป็นผลพวงมาจากการปฏิวัติและเหตุการณ์ 6 ตุลา ครั้งที่เป็นรองนายกในสมัยรัฐบาล พลเอกสุจินดา ได้มาเพราะการปฏิวัติของ รสช.วันนี้มาดัดจริตด่า คมช.เป็นเผด็จการเพียงแค่เพราะไม่ได้ประโยชน์จาก คมช.แต่เพราะได้ประโยชน์จากระบอบทักษิณ จึงเกิดภาพหลอนเก่าๆ กลัวการปฏิวัติ”
นายเทพไท กล่าวต่อว่า เห็นได้จากวันที่กลับมาจากเวียดนามแถลงข่าวโดยมี ผบ.ทบ.อยู่ใกล้ๆ แล้วชี้นิ้วไปที่ ผบ.ทบ.ว่าคนนี้คนเดียวถ้าจะปฏิวัติ วันนี้ไปไหนมาไหนจะต้องหนีบ ผบ.ทบ.ไปด้วยตลอดเวลาทั้งที่ข้อเท้จจริงทราบอยู่แล้วว่า ผบ.ทบ.ได้ปฎิเสธทั้งส่วนตัวและผ่านสื่อว่าจะไม่มีการปฏิวัติ ทั้งนี้เห็นว่าการปฏิวัติมีหรือไม่มีนั้นกฎเกณฑ์ของสังคมไม่สามารถควบคุมได้ ภูมิคุ้มกันของรัฐบาลมีอย่างเดียวคือรัฐบาลต้องซื่อสัตย์ ไม่สร้างความระหองระแหงแตกแยกในสังคม ถ้าทำได้อย่างนี้ไม่ต้องกลัวการปฏิวัติแม้ว่าจะเป็นภาพหลอนที่ติดอยู่ในใจของนายสมัครตลอดมา
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงการออกอาการเบื่อหน่ายของนายสมัครผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร ว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นนั้นเป็นพฤติกรรมกรรมที่เป็นการบ่นอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่พูดถึงว่าจะเป็นนายกฯ หน้าใหม่ไม่ทันเก่านั้น แท้จริงแล้วไม่สำคัญเป็นนายกใหม่หรือเก่าหรือไม่จะไม่อยู่จนถึงเก่า ถ้าเก่าแล้วทำงานไม่ดีก็ไม่ควรอยู่หรือถ้าใหม่แล้วไม่ได้เรื่องก็ไม่ควรอยู่เหมือนกัน เช่นเดียวกับรัฐบาลจะเก่าจะใหม่ไม่สำคัญห่วงอย่างเดียวว่าจะไม่ใช่นายกหน้าใหม่หรือเก่า หรือรัฐบาลหน้าเก่าหน้าใหม่ กลัวว่าจะเป็นหน้าหนาเสียมากกว่า กลัวตรงนี้
ที่ จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ (31 มี.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีออกมากุข่าวถึงเรื่องของการปฏิวัติ ว่าประเด็นนี้นายสมัครกำลังพยายามที่จะโยนความผิดให้กับคนอื่นโดยเฉพาะสื่อ และกำลังใช้ความเป็นอดีตนักโต้วาทีมาตอบโต้สื่อ โดยอ้างว่าเป็นเพราะสื่อได้ขุดหลุมให้นายสมัครตกหลุมพราง แต่ข้อเท็จจริงที่ได้ติดตามมาโดยตลอด เรื่องที่เกิดขึ้นแท้จริงเป็นเรื่องที่นายสมัครขุดหลุมขึ้นมาเองแล้วตกหลุมที่ตัวเองขุด เมื่อรู้ตัวจึงโยนจึงโบ้ยไปให้คนอื่นไม่ยอมรับความจริง
ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า หลายครั้งที่นายสมัครมีพฤติกรรมเช่นนี้เช่นเรื่องของบ่อนกาสิโนว่าจะตั้งใน 1 ปี 4 ปีจะได้เห็นแน่นอน แต่เมื่อถูกกระแสสังคมต่อต้านและเท่าทัน นายสมัครกลับอ้างว่ามีเพียงการเขียนจดหมายมา และเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกันในเรื่องของการปฏิวัติเป็นเพียงแค่ใบปลิว เมื่อสังคมออกมาต่อต้านเรียกร้องให้รับผิดชอบ แล้วจึงโยนต่อไปว่าเป็นเพราะนักข่าวเป็นการแสดงออกถึงการไม่รับความจริง พฤติกรรมเยี่ยงผู้ร้ายปากแข็ง
“เรื่องกระแสข่าวการปฏิวัติ เป็นเรื่องที่ตกค้างอยู่ในใจของนายสมัครตลอดมา ทั้งนี้เพราะในอดีตนายสมัครได้ดีเพราะการปฏิวัติมาโดยตลอด ครั้งที่เป็น มท.1 เป็นผลพวงมาจากการปฏิวัติและเหตุการณ์ 6 ตุลา ครั้งที่เป็นรองนายกในสมัยรัฐบาล พลเอกสุจินดา ได้มาเพราะการปฏิวัติของ รสช.วันนี้มาดัดจริตด่า คมช.เป็นเผด็จการเพียงแค่เพราะไม่ได้ประโยชน์จาก คมช.แต่เพราะได้ประโยชน์จากระบอบทักษิณ จึงเกิดภาพหลอนเก่าๆ กลัวการปฏิวัติ”
นายเทพไท กล่าวต่อว่า เห็นได้จากวันที่กลับมาจากเวียดนามแถลงข่าวโดยมี ผบ.ทบ.อยู่ใกล้ๆ แล้วชี้นิ้วไปที่ ผบ.ทบ.ว่าคนนี้คนเดียวถ้าจะปฏิวัติ วันนี้ไปไหนมาไหนจะต้องหนีบ ผบ.ทบ.ไปด้วยตลอดเวลาทั้งที่ข้อเท้จจริงทราบอยู่แล้วว่า ผบ.ทบ.ได้ปฎิเสธทั้งส่วนตัวและผ่านสื่อว่าจะไม่มีการปฏิวัติ ทั้งนี้เห็นว่าการปฏิวัติมีหรือไม่มีนั้นกฎเกณฑ์ของสังคมไม่สามารถควบคุมได้ ภูมิคุ้มกันของรัฐบาลมีอย่างเดียวคือรัฐบาลต้องซื่อสัตย์ ไม่สร้างความระหองระแหงแตกแยกในสังคม ถ้าทำได้อย่างนี้ไม่ต้องกลัวการปฏิวัติแม้ว่าจะเป็นภาพหลอนที่ติดอยู่ในใจของนายสมัครตลอดมา
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงการออกอาการเบื่อหน่ายของนายสมัครผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร ว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นนั้นเป็นพฤติกรรมกรรมที่เป็นการบ่นอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่พูดถึงว่าจะเป็นนายกฯ หน้าใหม่ไม่ทันเก่านั้น แท้จริงแล้วไม่สำคัญเป็นนายกใหม่หรือเก่าหรือไม่จะไม่อยู่จนถึงเก่า ถ้าเก่าแล้วทำงานไม่ดีก็ไม่ควรอยู่หรือถ้าใหม่แล้วไม่ได้เรื่องก็ไม่ควรอยู่เหมือนกัน เช่นเดียวกับรัฐบาลจะเก่าจะใหม่ไม่สำคัญห่วงอย่างเดียวว่าจะไม่ใช่นายกหน้าใหม่หรือเก่า หรือรัฐบาลหน้าเก่าหน้าใหม่ กลัวว่าจะเป็นหน้าหนาเสียมากกว่า กลัวตรงนี้
