สุราษฎร์ธานี -3 ผู้ต้องหาคดี “ฆ่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง” โร่มอบตัวตำรวจ หลังถูกกดดันอย่างหนัก หวั่นถูกวิสามัญ แฉ! ให้กำนันดังที่ นครศรีธรรมราช คุ้มครอง อ้างถูกผู้ใหญ่บ้านตัวการรุกป่าป้ายความผิด ด้านผู้การฯ สุราษฎร์ธานี รายงาน ผบช.ภ.8 เตรียมกวาดล้างใหญ่
วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุธีรา อ่อนสด ผกก.สภ.ท่าชนะ พ.ต.ท.ปัญญา นิรัตติมานนท์ รอง ผกก.ป.สภ.ท่าชนะ ร่วมสอบปากคำ และรับมอบตัวผู้ต้องหาคดี “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา ที่ 63,64,65/2551 ลงวันที่ 12 มี.ค.2551
ประกอบด้วย นายชำนาญ คำวงศ์ อายุ 45 ปี, นายจารึก บูรพา อายุ 31 ปี และ นายบุญธรรม ใจดี อายุ 39 ปี ทั้งหมดเป็นราษฎรพื้นที่หมู่ 24 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนสงครามยิง นายสุธาตรี สงสมอ อายุ 30 ปี พนักงานราชการตำแหน่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ทำหน้าที่ หน.หน่วยพิทักษ์อุทยาน กก.1 (ไทรเก้าโคน) เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2551 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธ
ทั้งนี้ นายชำนาญ คำวงศ์ 1 ในผู้ต้องหา กล่าวระหว่างการสอบสวนปากคำ ว่า ผู้ที่ก่อเหตุเป็นผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งในพื้นที่ และกลุ่มพวกตนถูกใส่ร้าย และโยนความผิดให้ ตลอดเวลาก็อยู่ในพื้นที่ จนกระทั่งมาทราบว่า ตกเป็นผู้ต้องหาถูกออกหมายจับ จึงได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ขณะที่ พ.ต.อ.สุธีรา อ่อนสด ผกก.ท่าชนะ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำพยานหลายปากต่างให้การยืนยันว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้ลงมือ โดยขณะเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บน-4858 สุราษฎร์ธานี เป็นยานพานะ และเมื่อศาลออกหมายจับ ได้ร่วมกันเข้าตรวจค้นปิดล้มหมู่บ้าน หมู่ 24 ต.ประสงค์ เพื่อติดตามจับกุม
แต่ปรากฏว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไหวตัวหลบหนีออกนอกพื้นที่ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 มี.ค.2551 ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภ.8 ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจไล่ล่า เข้าร่วมกับ ตำรวจ สภ.ท่าชนะ เข้าสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้พากันแยกย้ายหลบหนีอยู่ในพื้นที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช โดยหลบซ่อนตัวอยู่กับกำนันผู้กว้างขวางคนหนึ่ง จนเมื่อเจ้าหน้าที่เข้ากดดัน จึงพากันหลบหนีเข้าพื้นที่ จนกระทั่งเข้ามอบตัวดังกล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท ผบก.ภ.8 กล่าวว่า แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานชิ้นสำคัญที่มัดตัวคนร้ายได้ ส่วนอาวุธปืนสงคราม ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้น ยังอยู่ในพื้นที่ และคาดว่า มีอยู่ประมาณ 10 กระบอก ซึ่งตนจะได้รายงานไปยัง พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภ.8 เพื่อประสานไปยังชุดเฉพาะกิจของ บช.ภ.8 ในการเข้าดำเนินการกวาดล้างจับกุมต่อไป
