นครศรีธรรมราช - อากาศร้อนจัดวันเดียวเกิดเหตุฆ่าตัวตาย 3 รายซ้อน รายแรกยิงตัวตาย อีก 2 รายผูกคอตาย
เมื่อเวลา 00.30 น.วันนี้ (24 มี.ค.) พ.ต.ท.วชิระพันธ์ เกื้อแก้ว สารวัตรเวร สภ.ขนอม นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่า มีเหตุยิงตัวตายที่บ้านเลขที่ 25/2 ม.1 ต.ท้องเนียน อ.ขนอม จึงพร้อมด้วย แพทย์และมูลนิธิประชาร่วมใจรุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบศพผู้ตายนอนตายกลางลานบ้าน มีอาหารและขวดเหล้า วางอยู่เกลื่อนกระจาย ทราบผู้ตายชื่อ นายกำพล บำรุงวงศ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159/170 ม.5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนปากกา บรรจุกระสุนขนาด .22 เข้าบริเวณขมับขวา 1 นัด อยู่ในชุดสวมเสื้อแขนสั้นสีขาว กางเกงขาก๊วยสีขาว ข้างศพมีอาวุธปืนปากกาวางอยู่ 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายจีรวุฒิ ลีบุญ อายุ 45 ปี ซึ่งอาศัยอยู่บ้านดังกล่าวให้การว่า นายกำพล ผู้ตายได้เดินทางจากกรุงเทพฯ มาหาตนที่บ้านพักที่เกิดเหตุเพื่อจะมาหางานทำ แต่ยังหางานทำไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุนายกำพล กับตนได้ซื้อเหล้าและกับแกล้มมานั่งกินตั้งแต่ตอนกลางวันจนกระทั่งเมาทั้งคู่
ระหว่างนั่งดื่มเหล้า นายกำพล มักจะพูดจาน้อยใจว่าเครียดที่หางานทำไม่ได้ พอตนนั่งเผลอนายกำพล ก็ชักอาวุธปืนปากกาออกมาจ่อยิงขมับขวาจำนวน 1 นัด จนล้มฟุบสิ้นใจตายคาที่ทันทีต่อหน้าตน หลังตั้งสติได้ตนจึงรีบแจ้งตำรวจให้มาชันสูตรศพดังกล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 07.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.สมศักดิ์ ธานีรัตน์ สารวัตรเวร สภ.เมือง นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายที่สวนเงาะ ม.1 ต.นาทราย อ.เมือง จึงพร้อมด้วยแพทย์และมูลนิธิใต้เต็กตึ้งรุดไปพิมพ์ลายนิ้วมือศพยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพผู้ตายทราบชื่อนายธีระพงศ์ รักธรรม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 ม.1ต.นาทราย อ.เมือง นครศรีธรรมราช ใช้เชือกไนล่อนผูกกับกิ่งต้นเงาะ โดยสวมกางเกงชั้นในเพียงตัวเดียว โดยมีผ้าโสร่งตกอยู่ใต้ศพ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมง สภาพลิ้นจุกปาก
จากการสอบสวนทราบว่า นายธีระพงศ์ ผู้ตายมีอาชีพเป็นช่างก่อสร้าง ก่อนเกิดเหตุได้หายออกจากบ้านตั้งแต่กลางดึกคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งเช้ามาคนไปพบเป็นศพผูกคอตายในสวนเงาะหลังบ้านดังกล่าว
ส่วนสาเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า อาจจะมาจากโรคประสาทหลอน ซึ่งก่อนหน้านี้ นายธีระพงศ์ ผู้ตายเคยติดสารระเหยงอมแงม จนทำให้ประสาทกลับ และจะเครียดตลอดเวลา ทำให้ตัดสินใจปลิดชีพตัวเองด้วยการผูกคอตายดังกล่าว
และรายสุดท้าย เมื่อเวลา 08.40 น.วันนี้ (24 มี.ค.) พ.ต.ท.ประพฤติ พูนศักดิ์ สารวัตรเวร สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายในบ้านเลขที่ 101 ม.3 ต.ท่าดี อ.ลานสกา รับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วยแพทย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิไต้เต็กตึ้งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบศพผู้ตาย คือ นายเยื้อน ยอดโรจน์ อายุ 81 ปี อยู่บ้านที่เกิดเหตุ ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอแขวนกับขื่อบ้าน อยู่ในชุดเสื้อแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขาสามส่วนสีเทา ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1-2 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่จึงนำศพลงมาจากขื่อเพื่อชันสูตรต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า นายเยื้อน ผู้ตายเคยป่วยหนักไปหาหมอและถูกผ่าตัดสมอง หลังจากรักษาหายเป็นปกติก็มาอยู่กับลูกหลานที่บ้านเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน นายเยื้อน ก็ได้ผูกคอตายดังกล่าว ส่วนสาเหตุญาติระบุว่ามาจาก นายเยื้อน เครียดที่ตนเองเป็นภาระให้กับลูกหลาน และคิดผูกคอตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ญาติช่วยเหลือไว้ได้ กระทั่งมาผูกคอตายอีกครั้งและเสียชีวิตในที่สุด
เมื่อเวลา 00.30 น.วันนี้ (24 มี.ค.) พ.ต.ท.วชิระพันธ์ เกื้อแก้ว สารวัตรเวร สภ.ขนอม นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่า มีเหตุยิงตัวตายที่บ้านเลขที่ 25/2 ม.1 ต.ท้องเนียน อ.ขนอม จึงพร้อมด้วย แพทย์และมูลนิธิประชาร่วมใจรุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบศพผู้ตายนอนตายกลางลานบ้าน มีอาหารและขวดเหล้า วางอยู่เกลื่อนกระจาย ทราบผู้ตายชื่อ นายกำพล บำรุงวงศ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159/170 ม.5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนปากกา บรรจุกระสุนขนาด .22 เข้าบริเวณขมับขวา 1 นัด อยู่ในชุดสวมเสื้อแขนสั้นสีขาว กางเกงขาก๊วยสีขาว ข้างศพมีอาวุธปืนปากกาวางอยู่ 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายจีรวุฒิ ลีบุญ อายุ 45 ปี ซึ่งอาศัยอยู่บ้านดังกล่าวให้การว่า นายกำพล ผู้ตายได้เดินทางจากกรุงเทพฯ มาหาตนที่บ้านพักที่เกิดเหตุเพื่อจะมาหางานทำ แต่ยังหางานทำไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุนายกำพล กับตนได้ซื้อเหล้าและกับแกล้มมานั่งกินตั้งแต่ตอนกลางวันจนกระทั่งเมาทั้งคู่
ระหว่างนั่งดื่มเหล้า นายกำพล มักจะพูดจาน้อยใจว่าเครียดที่หางานทำไม่ได้ พอตนนั่งเผลอนายกำพล ก็ชักอาวุธปืนปากกาออกมาจ่อยิงขมับขวาจำนวน 1 นัด จนล้มฟุบสิ้นใจตายคาที่ทันทีต่อหน้าตน หลังตั้งสติได้ตนจึงรีบแจ้งตำรวจให้มาชันสูตรศพดังกล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 07.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.สมศักดิ์ ธานีรัตน์ สารวัตรเวร สภ.เมือง นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายที่สวนเงาะ ม.1 ต.นาทราย อ.เมือง จึงพร้อมด้วยแพทย์และมูลนิธิใต้เต็กตึ้งรุดไปพิมพ์ลายนิ้วมือศพยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพผู้ตายทราบชื่อนายธีระพงศ์ รักธรรม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 ม.1ต.นาทราย อ.เมือง นครศรีธรรมราช ใช้เชือกไนล่อนผูกกับกิ่งต้นเงาะ โดยสวมกางเกงชั้นในเพียงตัวเดียว โดยมีผ้าโสร่งตกอยู่ใต้ศพ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมง สภาพลิ้นจุกปาก
จากการสอบสวนทราบว่า นายธีระพงศ์ ผู้ตายมีอาชีพเป็นช่างก่อสร้าง ก่อนเกิดเหตุได้หายออกจากบ้านตั้งแต่กลางดึกคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งเช้ามาคนไปพบเป็นศพผูกคอตายในสวนเงาะหลังบ้านดังกล่าว
ส่วนสาเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า อาจจะมาจากโรคประสาทหลอน ซึ่งก่อนหน้านี้ นายธีระพงศ์ ผู้ตายเคยติดสารระเหยงอมแงม จนทำให้ประสาทกลับ และจะเครียดตลอดเวลา ทำให้ตัดสินใจปลิดชีพตัวเองด้วยการผูกคอตายดังกล่าว
และรายสุดท้าย เมื่อเวลา 08.40 น.วันนี้ (24 มี.ค.) พ.ต.ท.ประพฤติ พูนศักดิ์ สารวัตรเวร สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายในบ้านเลขที่ 101 ม.3 ต.ท่าดี อ.ลานสกา รับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วยแพทย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิไต้เต็กตึ้งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบศพผู้ตาย คือ นายเยื้อน ยอดโรจน์ อายุ 81 ปี อยู่บ้านที่เกิดเหตุ ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอแขวนกับขื่อบ้าน อยู่ในชุดเสื้อแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขาสามส่วนสีเทา ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1-2 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่จึงนำศพลงมาจากขื่อเพื่อชันสูตรต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า นายเยื้อน ผู้ตายเคยป่วยหนักไปหาหมอและถูกผ่าตัดสมอง หลังจากรักษาหายเป็นปกติก็มาอยู่กับลูกหลานที่บ้านเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน นายเยื้อน ก็ได้ผูกคอตายดังกล่าว ส่วนสาเหตุญาติระบุว่ามาจาก นายเยื้อน เครียดที่ตนเองเป็นภาระให้กับลูกหลาน และคิดผูกคอตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ญาติช่วยเหลือไว้ได้ กระทั่งมาผูกคอตายอีกครั้งและเสียชีวิตในที่สุด