สุราษฎร์ธานี - เกิดเหตุ 4 คนร้ายควงปืนกลอูซี่ บุกปล้นร้านทองกลางตลาดเคียนซา แต่พลาดท่าถูกพี่ชายเจ้าของร้านยิงสู้ ดับคาที่ 1 ราย ส่วนที่เหลือหลบหนีไปได้ สอบประวัติเคยก่อคดีปล้นมาอย่างโชกโชน ล่าสุดตำรวจเผย คนร้ายหลบหนีออกพื้นไปที่แล้ว 1 ราย เร่งไล่ล่าที่เหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ (20 มี.ค.) ร.ต.ท.ชาคริช อินทรักษ์ ร้อยเวร สภ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุปล้นร้านทองที่ห้างทองแม่ดี เลขที่ 44 ถ.ปลายหริก ม.2 ต.เคียนซา มีคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย และที่เหลืออีก 3 คน ใช้รถยนต์กระบะขับหลบหนีไปเส้นทางถนนเซาเทิร์นซีบอร์ด สายกระบี่-กาญจนดิษฐ์ จึงวิทยุสกัดเส้นทางหลบหนี พร้อมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุร้านทองแม่ดี และร้านมาดีเฟอร์นิเจอร์ ขายอุปกรณ์ไฟฟ้า พบปลอกกระสุนปืนลูกซอง และปลอกกระสุนปืน .38 กระจายอยู่ทั่วบริเวณจำนวนกว่า 20 ปลอก ที่ประตูกระจกร้านทองแตกกระจาย และที่ตู้ทองถูกทุบแตก โดยคนร้ายได้กวาดสร้อยคอทองไปจำนวนหนึ่ง ภายในร้านพบซองกระสุนปืนกลขนาด 86 (อูซี่) ของคนร้ายตกอยู่ 1 อัน มีกระสุนเต็มรังเพลิง ส่วนหน้าร้านมีอาวุธปืน .38 ของคนร้ายตกอยู่ 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนภายในร้านมาดีเฟอร์นิเจอร์ ข้างร้านทอง พบศพคนร้ายชื่อ นายธวัช วงษ์เสถียร อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.1 ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี สวมหมวกไหมพรมปิดใบหน้า เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ ทับด้วยเสื้อแขนยาวลายพรางทหาร กางเกงขายาวสีดำ สวมถุงมือสีน้ำตาล ทั้ง 2 ข้างนอนหงาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ที่ใบหน้าเละ มือขวากำอาวุธปืนกลมือ 86 (อูซี่) ไว้ ส่วนมือซ้ายถือสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึงไว้ 1 เส้น
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนางมณฑกานต์ บุญทอง อายุ 35 ปี เจ้าของร้าน นั่งอยู่กับ น.ส.ทิพยวิมล แสงนิจ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.7 ต.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี เป็นญาติมาช่วยขายทองกำลังยืนอยู่หลังร้าน คนร้ายทั้ง 4 คนได้ขับรถยนต์กระบะมาจอดที่หน้าร้าน จาก 2 คนร้ายได้ถืออาวุธปืนสงคราม และปืนสั้นบุกเข้าไปในร้าน
ส่วนอีก 2 คนคุมเชิงอยู่ที่รถ พร้อมติดเครื่องเตรียมพร้อม เมื่อนางมณฑกานต์ และ น.ส.ทิพยวิมล เห็นคนร้ายถืออาวุธเข้ามาจึงวิ่งหลบหนีเข้าประตูด้านข้างร้านมาดีเฟอร์นิเจอร์ ขณะที่นายวัฒนชัย วงศ์ประไพ อายุ 45 ปี เจ้าของร้านทองนั่งดูทีวีวงจรปิดอยู่ภายในร้านมาดีเฟอร์นิเจอร์ เห็นคนร้ายบุกเข้าปล้นจึงหยิบปืนลูกซอง 5 นัด ออกมายืนคอยคนร้ายอยู่หน้าร้าน เมื่อคนร้ายหยิบทองออกจากตู้ใส่กระเป๋าที่เตรียมมาเพื่อวิ่งออกจากร้าน แต่ออกไม่ได้ เพราะติดประตูไฟฟ้า คนร้ายจึงกระโดดถีบพร้อมใช้ด้ามปืนกระแทกกระจกจนแตก 1 ในคนร้ายวิ่งออกมาจากร้านทองจึงเกิดดวลปืนกันขึ้นระหว่างนายวัฒนชัยกับคนร้าย คนร้ายได้รับบาดเจ็บ แต่ถูกคนร้ายที่คอยคุมเชิงอยู่ที่รถได้นำตัวขึ้นรถกระหลบหนีไปได้ นายวัฒนชัยยิงไล่หลังไปอีก 2 นัด กระสุนถูกกระจกด้านหลัง และยางล้อด้านซ้ายลมรั่ว
ส่วนคนร้ายอีกคนได้วิ่งตามนางมณฑกานต์มาจนเจอกับนายยงค์ พี่ชายที่ถือปืนลูกซองยาว 5 นัดเตรียมพร้อมอยู่ในร้าน คนร้ายได้ส่ายปืนเพื่อยิงใส่นายยง แต่แมกฯ กระสุนตกจึงถูกนายยงค์ยิงสวนจนเสียชีวิตคาที่
เวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่นำกำลังออกติดตามจนพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ตอนครึ่ง รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์ ติดทะเบียนด้านหน้า ปง-4283 กรุงเทพฯ
ด้านหลังติดป้ายทะเบียน ปง-8409 สุราษฎร์ธานี ของคนร้ายจอดทิ้งไว้ริมถนนเซาเทิร์นซีบอร์ด (กระบี่-กาญจนดิษฐ์) บ้านท่าเรือ ม.3 ต.ทรัพย์ทวี อ.บ้านนาเดิม ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร มีรอยกระสุนที่กระจกหลังทะลุด้านหน้า ข้างรถด้านซ้ายมีรูกระสุนปืนหลายรู ล้อหลังด้านซ้ายถูกยิงยางระเบิด ภายในเบาะนั่งซ้ายด้านหน้ามีรอยเลือด
หลังกิดเหตุ พล.ต.ต.พิสัณห์ กุจดิลก รอง ผบช.ภ.8 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ร้านทองสามารถบันทึกภาพคนร้ายที่รอดชีวิตไว้ได้ ส่วนคนร้ายที่เสียชีวิตเป็นคนในพื้นที่ อ.บ้านนาเดิม และมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี มีการสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า และใส่ถุงมือ
ใช้เวลาก่อเหตุไม่เกิน 2 นาที แต่โชคดีเจ้าของร้านมีการเตรียมตัวป้องกันเหตุเป็นอย่างดี ส่วนการติดตามไล่ล่าคนร้าย สั่งการให้ชุดสืบสวนภาค 8 ร่วมกับชุดสืบสวนจังหวัด และพื้นที่ติดตามไล่ล่าคนร้ายอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้พื้นที่จังหวัดใกล้เคียงตั้งจุดสกัด พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทุกโรงพยาบาล และคลินิก สถานีอนามัยทุกแห่ง
ที่คาดว่า คนร้านที่บาดเจ็บจะเข้ารักษาตัว ส่วนประวัติผู้ตายตรวจสอบพบว่า เคยก่อคดีปล้นร้านยางพาราแผ่น และเพิ่งพ้นโทษมาประมาณ 2 ปี ขณะที่เจ้าหน้าที่กองวิทยาการ จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บพยานหลักฐาน และเกล็ดเลือดของคนร้ายที่หลบหนีได้ เพื่อส่งไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อติดตามกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
เวลาต่อมา นางเยื้อน เขียวพันธ์ อายุ 68 ปี แม่ผู้ตาย และนางรัชนี วงษ์เสถียร อายุ 49 ปี พี่สาวผู้ตายได้เดินทางมาดูศพ พร้อมระบุว่าผู้ตายเป็นนักพนัน ล่าสุดนำรถกระบะของญาติไปจำนำในบ่อนเขตอำเภอบ้านนาสาร และไม่ได้เจอกันมาหลายวันแล้ว
ล่าสุด พ.ต.อ.ชินวัฒน์ เปรมสง่า ผกก.สภ.เคียนซา เปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายได้หลบหนีออกจากพื้นที่มุ่งหน้าเข้าเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว โดยมีพรรคพวกนำรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีเทา ซึ่งเป็นรถรับซื้อน้ำยางสดพาหลบหนีไป
