ระนอง - 9 หน่วยงานในจังหวัดระนอง จัดพิธีลงนาม ในคู่มือปฏิบัติการและข้อตกลงร่วมกันในการคุ้มครองเด็ก ไม่ให้ถูกละเมิด
วันนี้ (26 ก.พ.) ที่โรงแรมรอยัลปริ๊นเซสระนอง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระนอง ร่วมกับองค์การยูนิเซฟแห่งประเทศไทย ได้จัดให้มีพิธีลงนามในคู่ปฏิบัติการและข้อตกลงร่วมกันในการคุ้มครองเด็กจังหวัดระนอง มี นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในพิธี ซึ่งมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน 9 หน่วยงานร่วมลงนาม
ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด อัยการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาระนอง โรงพยาบาลระนอง สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัด บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระนอง เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน
หน่วยงานดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องมีการประสานการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองเด็กอย่างเท่าเทียมกัน และครอบคลุมเด็กทุกคนในประเทศไทย โดยใช้วิธีทางสังคมสงเคราะห์มาเป็นกลไกสำคัญ ในการเข้าไปคุ้มครองช่วยเหลือและดูแลความเป็นไปของเด็กและครอบครัว
นางขวัญวงศ์ พิกุลทอง เลขานุการคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ กล่าวว่า ไม่มีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งที่จะทำงานเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็กให้ประสบความสำเร็จได้ แต่ทุกหน่วยงานต้องช่วยเหลือกัน ในปี 2546 รัฐบาลไทยจึงได้ออกพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก เพื่อมุ่งปกป้องเด็กทุกคนในประเทศไทยจากการถูกละเมิด ละเลยทอดทิ้งและแสวงหาประโยชน์ พร้อมทั้งมุ่งสร้างให้เกิดกระบวนการทำงาน เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่เด็กที่ประสบปัญหาได้อย่างทันท่วงที
นายกาย ทอมสโตน ที่ปรึกษาโครงการเพื่อการคุ้มครองเด็ก องค์การยูนิเซฟแห่งประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบันมีเด็กทั่วโลกที่ตกเป็นเหยื่อของการละเมิด ละเลยทอดทิ้ง และแสวงหาประโยชน์ โดยฝีมือของสมาชิกในครอบครัวหรือคนในชุมชน มีการใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกาย ทุบตี รวมถึงล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืน เด็กบางคนถูกละเลยทอดทิ้งโดยบุคคลที่ควรจะต้องให้การเลี้ยงดูเขา บ้างก็กลายเป็นเด็กเร่ร่อนต้องต่อสู้ฝ่าฟันอันตรายโดยลำพัง บ้างก็ถูกบังคับให้ทำงานที่อันตราย บ้างก็ถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ หรือตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ ซึ่งประเทศไทยก็มีแนวโน้มของความรุนแรงมากขึ้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า การดูแลคุ้มครองเด็กต้องดูให้ครอบคลุมทั้งหมดทั้งเด็กนักเรียน เด็กนอกโรงเรียน ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกหลอก ถูกล่อลวง โดยเฉพาะจังหวัดระนองมีเด็กต่างด้าวอยู่เป็นจำนวนมากไม่ทราบว่ากฎหมายฉบับนี้ให้ความคุ้มครองด้วยหรือไม่