ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เผย สถานการณ์เหตุความไม่สงบรายวันคลี่คลายลง ทำให้มีการขอจดทะเบียนการค้าเพิ่มขึ้นจำนวน 33 แห่ง และประชาชน นักท่องเที่ยว มั่นใจหลั่งไหลไปเที่ยวงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยจำนวนมาก ตลอดจนส่งผลดีต่อการลงทุนด้านที่ดินเพิ่มขึ้น
นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยในระหว่างเดินทางเข้าเยี่ยมข้าราชการใน จ.ปัตตานี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยระบุว่า สถานการณ์ในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยรวมนั้นดีขึ้นซึ่งมีตัวชี้วัดหลายอย่าง เช่น การจัดงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวที่ผ่านมา มีประชาชนและนักท่องเที่ยวไปร่วมงานมากขึ้นกว่า 1 หมื่นคน จากเดิมที่มีผู้ร่วมงานแค่หลักพัน
ในส่วนของภาคธุรกิจในพื้นที่ ก็มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน จะเห็นได้จากมีการขอจดทะเบียนการค้าเพิ่มขึ้นจำนวน 33 แห่งโดยเฉพาะกิจการที่มีลูกจ้าง 15 คนขึ้นไป ในขณะที่ภาวะตลาดที่ดินก็กระเตื้องขึ้นเช่นเดียวกัน โดยมีสัดส่วนของชาวไทยพุทธเข้ามาซื้อขายที่ดินเพิ่มขึ้นและมีสัดส่วนมากกว่าชาวมุสลิม
ที่สำคัญ มีอัตราการย้ายข้าวของประชาชนใน จ.ปัตตานี เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนในพื้นที่เริ่มมีความมั่นใจในความปลอดภัย และเชื่อมั่นในมาตรการต่างๆ ของรัฐ อย่างไรก็ตามสถานความรุนแรง ที่ยังคงมีอยู่โดยเฉพาะการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ไม่ได้ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายแต่อย่างใด ซึ่งทุกฝ่ายยังคงเดินหน้าลงพื้นที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง
นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยในระหว่างเดินทางเข้าเยี่ยมข้าราชการใน จ.ปัตตานี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยระบุว่า สถานการณ์ในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยรวมนั้นดีขึ้นซึ่งมีตัวชี้วัดหลายอย่าง เช่น การจัดงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวที่ผ่านมา มีประชาชนและนักท่องเที่ยวไปร่วมงานมากขึ้นกว่า 1 หมื่นคน จากเดิมที่มีผู้ร่วมงานแค่หลักพัน
ในส่วนของภาคธุรกิจในพื้นที่ ก็มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน จะเห็นได้จากมีการขอจดทะเบียนการค้าเพิ่มขึ้นจำนวน 33 แห่งโดยเฉพาะกิจการที่มีลูกจ้าง 15 คนขึ้นไป ในขณะที่ภาวะตลาดที่ดินก็กระเตื้องขึ้นเช่นเดียวกัน โดยมีสัดส่วนของชาวไทยพุทธเข้ามาซื้อขายที่ดินเพิ่มขึ้นและมีสัดส่วนมากกว่าชาวมุสลิม
ที่สำคัญ มีอัตราการย้ายข้าวของประชาชนใน จ.ปัตตานี เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนในพื้นที่เริ่มมีความมั่นใจในความปลอดภัย และเชื่อมั่นในมาตรการต่างๆ ของรัฐ อย่างไรก็ตามสถานความรุนแรง ที่ยังคงมีอยู่โดยเฉพาะการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ไม่ได้ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายแต่อย่างใด ซึ่งทุกฝ่ายยังคงเดินหน้าลงพื้นที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง
