นราธิวาส - โจรใต้ลอบวางระเบิด 3 จุด ป่วนอำเภอสุไหงปาดี แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเนื่องจากระเบิดทำงานไม่ครบวงจร
เมื่อเวลา 07.10 น.วันนี้ (22 ก.พ.) ร.ต.ท.กิตติวัฒน์ จันตา ร้อยเวร สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณกระถางต้นไม้หน้า บริษัทพิธานพาณิชย์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ตั้งอยู่เขตเทศบาลตำบลปะลุรู ซึ่งห่างจากโรงพยาบาลสุไหงปาดี ประมาณ 50 เมตร
จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ขวัญดี ฉิมพลี ผกก.สภ.สุไหงปาดี พ.ต.ท.อำนวย ชูสงค์ ผบ.ร้อย ตชด.447 และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตชด.447 บ้านเจาะวา อ.สุไหงปาดี รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกระถางต้นไม้ที่ตั้งไว้บริเวณหน้าร้านถูกอนุภาพของระเบิดที่คนร้ายได้นำมาซุกไว้ได้รับความเสียหาย พร้อมด้วยชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 กิโลกรัมจุดชนวนด้วยรีโมตคอนโทรล ตกกระจายเกลื่อนพื้นเป็นบริเวณ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บรวบรวมหลักในที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 2 ลูกซ้อน เจ้าหน้าที่จึงได้ยกกำลังไปตรวจสอบ พบว่าร้านดังกล่าวเป็นร้านขายรองเท้าและเสื้อผ้า เลขที่ 4 ม.1 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนจารุเสถียร ห่างจากจุดเกิดเหตุแรก ประมาณ 900 เมตร
โดยมีนายชัยโรจน์ เหล่านัฐวุฒิกุล อายุ 63 ปี เป็นเจ้าของ และเมื่อตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้แฝงตัวนำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในท่อแป๊ปเหล็กทรงกลม หนัก 1 กิโลกรัมยาว 5 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาปลุกจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอด ไปวางไว้ใต้ชั้นวางสินค้าภายในร้าน ส่งผลทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากระเบิดทำงานไม่ครบวงจร
ต่อมาเมื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ 2 แล้วเสร็จเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบจุดระเบิดสุดท้าย ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุที่ 2 ประมาณ 200 เมตรเป็นร้านขายของชำซึ่งตั้งอยู่ริมถนนทางไปน้ำตกฉัตรวาริน เลขที่ 472 ม.1 ต.ปะลุรู โดยมีนายกิตติทัต จุลกศิลป์ อายุ 31 ปี เป็นเจ้าของ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าคนร้ายได้นำระเบิดแบบและขนาดเดียวกันกับจุดที่ 2 ไปวางซุกไว้ในถุงยางเส้นสำหรับรัดของใต้ชั้นวางของภายในร้าน และเกิดระเบิดขึ้นทำให้ทรัพย์สินภายในร้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เนื่องจากระเบิดทำงานไม่ครบวงจร
ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่หลังจากในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นจับกุมสมาชิกแนวร่วมและยึดของกลางซึ่งเป็นอุปกรณ์ประกอบระเบิดได้เป็นจำนวนมาก
เมื่อเวลา 07.10 น.วันนี้ (22 ก.พ.) ร.ต.ท.กิตติวัฒน์ จันตา ร้อยเวร สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณกระถางต้นไม้หน้า บริษัทพิธานพาณิชย์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ตั้งอยู่เขตเทศบาลตำบลปะลุรู ซึ่งห่างจากโรงพยาบาลสุไหงปาดี ประมาณ 50 เมตร
จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ขวัญดี ฉิมพลี ผกก.สภ.สุไหงปาดี พ.ต.ท.อำนวย ชูสงค์ ผบ.ร้อย ตชด.447 และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตชด.447 บ้านเจาะวา อ.สุไหงปาดี รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกระถางต้นไม้ที่ตั้งไว้บริเวณหน้าร้านถูกอนุภาพของระเบิดที่คนร้ายได้นำมาซุกไว้ได้รับความเสียหาย พร้อมด้วยชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 กิโลกรัมจุดชนวนด้วยรีโมตคอนโทรล ตกกระจายเกลื่อนพื้นเป็นบริเวณ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บรวบรวมหลักในที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 2 ลูกซ้อน เจ้าหน้าที่จึงได้ยกกำลังไปตรวจสอบ พบว่าร้านดังกล่าวเป็นร้านขายรองเท้าและเสื้อผ้า เลขที่ 4 ม.1 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนจารุเสถียร ห่างจากจุดเกิดเหตุแรก ประมาณ 900 เมตร
โดยมีนายชัยโรจน์ เหล่านัฐวุฒิกุล อายุ 63 ปี เป็นเจ้าของ และเมื่อตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้แฝงตัวนำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในท่อแป๊ปเหล็กทรงกลม หนัก 1 กิโลกรัมยาว 5 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาปลุกจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอด ไปวางไว้ใต้ชั้นวางสินค้าภายในร้าน ส่งผลทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากระเบิดทำงานไม่ครบวงจร
ต่อมาเมื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ 2 แล้วเสร็จเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบจุดระเบิดสุดท้าย ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุที่ 2 ประมาณ 200 เมตรเป็นร้านขายของชำซึ่งตั้งอยู่ริมถนนทางไปน้ำตกฉัตรวาริน เลขที่ 472 ม.1 ต.ปะลุรู โดยมีนายกิตติทัต จุลกศิลป์ อายุ 31 ปี เป็นเจ้าของ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าคนร้ายได้นำระเบิดแบบและขนาดเดียวกันกับจุดที่ 2 ไปวางซุกไว้ในถุงยางเส้นสำหรับรัดของใต้ชั้นวางของภายในร้าน และเกิดระเบิดขึ้นทำให้ทรัพย์สินภายในร้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เนื่องจากระเบิดทำงานไม่ครบวงจร
ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่หลังจากในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นจับกุมสมาชิกแนวร่วมและยึดของกลางซึ่งเป็นอุปกรณ์ประกอบระเบิดได้เป็นจำนวนมาก
