ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ใหญ่บ้านโคราชใจเด็ด ดวลปืนกับแก๊งลักสายไฟฟ้าเขื่อนลำพระเพลิง ช่วยตำรวจรวบคนร้ายไว้ได้ 4 ราย หนีลอยนวลไปได้ 3 ราย พร้อมของกลางเพียบ เผยแก๊งคนร้ายทำทีเป็นนักท่องเที่ยวมากางเต็นท์นอนพักก่อนฉวยโอกาสลงมือตัดสายไฟฟ้าใต้ดินช่วงกลางคืน
วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่บริเวณด้านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา พร้อม นายสุข แก้วสามัคคี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 บ้านโคกสะอาด ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งลักตัดสายไฟฟ้าของเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ได้ผู้ต้องหา 4 คน คือ นายปิยะพงษ์ พงษ์ทอง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234 หมู่ 16 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา, นายวิโรจน์ พรมดี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ 16 ต.หมูสี อ.ปากช่อง, นายเกรียงไกร พรมดี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 ม.16 ต.หมูสี อ.ปากช่อง และ นายปกิติ รัตตะกูล อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 365 หมู่ 16 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
พร้อมของกลางจำนวนมาก ประกอบด้วย สายไฟฟ้าสีดำขนาดใหญ่ 39 เมตร (สายไฟฟ้าใต้ดิน), สายไฟฟ้าสีขาว ฟ้า ดำ แดง จำนวน 2 ม้วน 8 เส้น, คีมตัดสายไฟฟ้าขนาดใหญ่, อีเตอร์สำหรับขุดพื้นหิน, ท่อแป๊ป, มีดพร้า, มีดคัตเตอร์, เหล็กเส้นเป็นรูปขอเกี่ยว, รถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2 คัน, เต็นท์นอน 1 หลัง และ มีดปลายแหลมทำจากใบเลื่อยตัดเหล็ก คิดเป็นมูลค่าสายไฟฟ้าที่คนร้ายตัดไปไม่น้อยกว่า 100,000 บาท
นายสุข แก้วสามัคคี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 บ้านโคกสะอาด ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว ซึ่งเป็นผู้ที่จับคนร้าย ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของเขื่อนลำพระเพลิงว่ามีคนร้ายมาลักลอบตัดสายไฟฟ้าใต้ดินของเขื่อนทำให้เกิดความเสียหายซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบที่ตนเองดูแลอยู่แล้ว เมื่อคืนวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนพร้อมหลานชาย คือ นายฉัตรชัย เชื้อกล้า อายุ 15 ปี จึงไปดักซุ่มอยู่บริเวณสันเขื่อนลำพระเพลิง พบมีกลุ่มคนร้ายประมาณ 7 คน มาทำทีเป็นนักท่องเที่ยวกางเต็นท์นอนอยู่ข้างสันเขื่อนและส่วนหนึ่งกำลังทำการขุดดินเพื่อตัดสายไฟฟ้า
“ผมจึงแสดงตัวเข้าควบคุมตัวพร้อมนำปืนที่มีอยู่ขึ้นมาข่มขู่คนร้ายไว้เพื่อให้ยอมมอบตัว พร้อมได้เรียกชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงเข้ามาช่วยในการจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้จำนวน 4 คน หนีไปได้ 3 คน และได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปักธงชัยเข้ามาจับตัวคนร้าย”
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ตนกำลังเดินทางออกจากที่เหตุเพื่อกลับบ้านได้มีรถยนต์กระบะสีดำยี่ห้อ วีโก้ วิ่งเข้ามาและยิงเข้าใส่ตน 2 นัด กระสุนถูกที่รถยนต์ของตนที่จอดอยู่ข้างๆ ตนจึงบอกหลานขึ้นรถและรีบขับรถหนี คนร้ายยังตามประกบมาจนเกือบถึงบ้านพักแล้วขับหลบหนีไป ซึ่งเรื่องนี้ตนได้แจ้งความไว้แล้ว
ด้าน พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กล่าวว่า จะตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่เข้ามายิงปืนใส่ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อหาตัวมาลงโทษ เนื่องจากทราบว่ากลุ่มคนดังกล่าวรู้จักกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เป็นอย่างดี คาดว่าไม่ใช่คนร้ายในแก๊งลักสายไฟฟ้า หรือการยิงปะทะกันครั้งนี้อาจจะเกิดจากความเข้าใจผิด ซึ่งจะทำการสืบสวนต่อไป
จากการตรวจปัสสาวะพบว่า กลุ่มคนร้ายที่ถูกจับกุมตัวทั้ง 4 คน มีสารเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) อยู่ในร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา 2 ข้อหา คือ “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร (สายไฟฟ้า) โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจัดกุม และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย”
ล่าสุด จากสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ว่า แก๊งร่วมขบวนการลักลอบตัดสายไฟฟ้าเขื่อนลำพระเพลิงครั้งนี้ ที่หลบหนีไปอีก 3 คน คือ นายชุน พรมดี, นายชาลี พรมดี และ นายบูรณ์ พรมดี ลูกชายนายชุน เป็นชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
