นครศรีธรรมราช – ล่าระทึกช้างพลายตกมัน อาละวาดข้ามอำเภอ ชาวสวนยางหวิดดับก่อนเจอลูกซอง-ลูกดอกยาสลบหมดฤทธิ์
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (21 ก.พ.) นายสัตวแพทย์เชาวลิต ธานีโต ปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ม.6 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีช้างพลายขนาดใหญ่ตกมัน อาละวาดไล่ทำร้ายชาวบ้าน และทำลายทรัพย์สินได้รับความเสียหาย จากนั้นจึงสั่งการให้ น.สพ.พรภิรมย์ ฟุ้งตระกูล ปศุสัตว์อำเภอขนอม ซึ่งเป็นสัตวแพทย์อาสามูลนิธิเพื่อนช้างภาคใต้ พร้อมด้วยอุปกรณ์ปืนลูกดอกยาสลบและเครื่องเวชภัณฑ์ที่จำเป็นเข้าควบคุมช้าง
ในที่เกิดเหตุนั้นพบว่า เป็นชุมชนที่อยู่ติดกับเทือกเขาหลวง ที่กั้นระหว่าง อ.พรหมคีรี และ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ชาวบ้านกว่า 200 คนได้รวมตัวกันในอาการตื่นตระหนก ก่อนที่จะมีการวางแผนเข้าไล่ต้อนช้างออกมาอยู่ในที่เหมาะสม เพื่อยิงยาสลบควบคุมตกมัน
หลังจากที่ชาวบ้านได้ช่วยกันไล่ต้อนออกมาจากป่า โดยการใช้เสียงปืนช้างได้เตลิดออกมาวิ่งไปตามถนน หันไปไล่ทำร้ายชาวบ้านที่ขับรถจักรยานยนต์ตามช้างกว่า 30 คัน กระเจิงไปคนละทิศละทางแต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินเสียหาย
นายสัตวแพทย์พรภิรมย์ ได้ยิงยาสลบเข้าไป 1 นัด แต่ช้างเชือกดังกล่าวยังไม่คลายอาการคุ้มคลั่ง ยังคงวิ่งเตลิดเข้าไปในสวนผลไม้และสวนยางของชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านในละแวกดังกล่าวต่างเก็บตัวเงียบภายในบ้าน ส่วนช้างได้ถูกยิงยาสลบซ้ำอีก 1 นัด จนสิ้นฤทธิ์อยู่ในอาการสงบลงไปยืนแช่น้ำในลำธาร โดยมีสภาพบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองไป 2 นัดบริเวณซอกคอเลือดโชก
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลกับชาวบ้านในพื้นที่ พบว่า มีผู้บาดเจ็บเนื่องจากถูกช้างดังกล่าวทำร้าย 2 รายทราบชื่อเพียง 1 รายคือนายถาวร ราชกิจจา อายุ 45 ปี อยู่ 137 ม.6 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช อยู่ในสภาพร่างกายบอบช้ำอย่างหนัก และพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พรหมคีรี
นายถาวร เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ เที่ยงคืนได้ไปกรีดยางในสวนยาง ได้เจอกับช้างเชือกดังกล่าวไล่ทำร้ายจนกระเด็นตกไปในลำห้วย แต่ช้างไม่ได้ไล่ตามกระทืบซ้ำจึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่ได้กระทืบรถจักรยานยนต์พังเสียหายไป 1 คัน จากนั้นได้เตลิดเข้าไปในหมู่บ้านและได้ถูกชาวบ้านยิงสกัด ด้วยอาวุธปืนลูกซองจนเตลิดเข้าไปในป่า
ต่อมา นายสุรินทร์ บ้างสุกล อายุ 57 ปี อยู่ ต.เขาพระ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ได้แสดงตัวเป็นเจ้าของช้างพลายเชือกดังกล่าวเดินทางมาถึง พร้อมด้วยควาญช้างได้นำอุปกรณ์เรียกว่า “ตีปลอก” เข้าไปสวมระหว่างขาหน้าขวากับขาหลังซ้าย เพื่อป้องกันอาการคุ้มคลั่งของช้าง เข้าไปสวมช้างที่ยืนสงบนิ่งอยู่ในลำห้วย
นายสุรินทร์ กล่าวว่า ช้างเชือกนี้ชื่อว่า “พลายไข่หีด” ตนได้ซื้อมาจากชาวบ้านในละแวกเดียวกันกับที่เกิดเหตุ และนำไปเลี้ยงดูอย่างดีที่ อ.พิปูนได้กว่า 4 ปีแล้ว ซึ่งเมื่อหลายวันก่อนได้เห็นอาการของพลายไข่หีดเริ่มตกมันจึงได้ใช้โซ่ล่ามอย่างดี
แต่ปรากฏว่า ด้วยกำลังอันมหาศาลพลายไข่หีด ได้ดึงโซ่จนขาด แล้วเตลิดหนีเข้าป่า โดยตนเองและควาญได้ตามตัวมาสิบกว่าวันแล้วล่าสุดเมื่อ 3 วัน ที่ผ่านมาพลายไข่หีดได้ไล่ทำร้ายตนเอง และควาญจนกระเจิงไปแล้วรอบหนึ่ง โดยไม่นึกว่าจะเดินข้ามเขามาอาละวาดข้ามภูเขา ซึ่งเข้าใจว่าพลายไข่หีดคงจะจำถิ่นที่อยู่อาศัยเก่าได้ จึงเดินข้ามภูเขามา
ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นตนขอรับผิดชอบทั้งหมด และรอให้ยากล่อมประสาทหมดฤทธิ์และจะนำรถบรรทุกมาบรรทุกช้างกลับไปดูแลอย่างใกล้ชิด
นายสัตวแพทย์ พรภิรมย์ ฟุ้งตระกูล ปศุสัตว์อำเภอขนอม ในฐานะสัตวแพทย์อาสามูลนิธิเพื่อนช้างประจำภาคใต้ กล่าวว่า อยากฝากเตือนให้ผู้เลี้ยงช้างต้องได้เข้าใจธรรมชาติช้าง และศึกษาชีวิตช้างให้ละเอียด เพราะการตกมันของช้างเป็นสิ่งที่น่ากลัวและควบคุมไม่ได้ เจ้าของต้องตระหนักว่า ถ้าช้างตกมันต้องสวมปลอกทุกครั้งอย่าประมาทล่ามแต่โซ่อย่างเดียว และ อย่านำช้างทำงานขณะที่ช้างตกมัน ซึ่งเจ้าของช้างบางรายมักเข้าใจผิดว่าช้างตกมันแรงจะดี ประมาทนำมาใช้งานจนในที่สุดไม่สามารถควบคุมได้ และเป็นอันตรายในที่สุด
สำหรับพลายไข่หีดนี้ เป็นช้างที่ตนเองเคยดูแลมาตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งเป็นช้างอยู่ละแวกแถวนี้ก่อนที่เจ้าของจะขายต่อออกไป เป็นช้างที่ฉลาด มีไหวพริบ เจ้าของจะต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการดูแลเป็นอย่างยิ่ง