สัตวแพทย์เตือนคนเลี้ยงช้าง ลมหนาวโชยทำช้างป่วย-ล้มเฉียบพลัน

ลำปาง - สัตวแพทย์เตือนช่วงอากาศหนาวให้ดูแลช้างอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช้างที่เกิดใหม่หรือช้างที่ยังเล็ก ต้องสร้างความอบอุ่นให้แก่ช้างเพราะอากาศที่หนาวเย็นอาจทำให้ช้างป่วยและล้มโดยเฉียบพลันได้


นายสัตวแพทย์สิทธิเดช มหาสาวังกุล หัวหน้าฝ่ายโรงพยาบาลช้างของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ช่วงนี้คณะสัตวแพทย์ดูแลสุขภาพช้างเป็นพิเศษ เนื่องจากอากาศเริ่มหนาวเย็น โดยทั่วไปอยู่ที่ 20-22 องศาเซลเซียส

ส่วนศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยคาดว่าจะเย็นจัด เพราะตั้งอยู่กลางป่าที่อุดมสมบูรณ์ คณะสัตวแพทย์ต้องก่อกองไฟเพิ่มความอบอุ่นให้ช้างเพื่อป้องกันปัญหาช้างเจ็บป่วยและล้ม จากข้อมูลตั้งแต่ปี 2542 มีช้างล้มเพราะความหนาวเย็นแล้ว 6 เชือก ส่วนใหญ่เป็นช้างที่เจ้าของนำไปเลี้ยงทิ้งไว้ในป่า ไม่ดูแลสุขภาพของช้าง ทำให้ช้างปอดบวมและล้ม ซึ่งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยมีช้างอยู่ในความดูแลทั้งหมด 108 เชือก เป็นช้างท่องเที่ยว และช้างแสดง 68 เชือก มีช้างป่วยอยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลช้าง 14 เชือก ช้างแก่อีก 26 เชือก พักอยู่ที่ศูนย์บริบาลช้างบ้านปางหละ อำเภองาว จังหวัดลำปาง

ด้านนายสัตวแพทย์ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศได้หนาวเย็นกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพของช้างโดยเฉพาะช้างที่มีร่างกายอ่อนแอ ช้าเล็กหรือช้างที่ป่วยอยู่แล้วจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ อีกทั้งหญ้าก็เริ่มแก่มาก หากช้างรับประทานเข้าไปทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานลำบากก็ก่อให้เป็นโรคท้องอืดได้โดยเฉพาะหน้านี้จะมีช้างที่ป่วยเป็นโรคท้องอืดกันมากจึงต้องระวังในการนำหญ้ามาให้ช้างกินด้วย และต้องสร้างความอบอุ่นให้แก่ช้างโดยการก่อหรือสุมไฟใกล้โรงเลี้ยงช้างหรือไม่ก็นำผ้าใบมากางขึงโดยรอบเพื่อกันลมให้แก่ช้างด้วย

สำหรับโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้างมีช้างที่อยู่ในความดูแลกว่า 10 เชือก ซึ่งทั้งหมดได้ดูแลอย่างใกล้ชิดและฝากเตือนผู้เลี้ยงช้างว่าตอนกลางคืนไม่ควรนำช้างไปมัดไว้กลางแจ้งและในช่วงเช้าก็ไม่ควรอาบน้ำให้แก่ช้าง และใครที่มีช้างที่เกิดใหม่หรือยังเล็กอยู่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษเพราะอากาศที่หนาวเย็นจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูกช้างอย่างรวดเร็วและเป็นอันตรายด้วย