ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.กองปราบลุยภูเก็ตกวาดจับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง หลังสืบทราบมีแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจำนวนมาก
วันนี้ (21 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง ผกก.สป.8 กองบังคับการกองปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ในสังกัด จำนวน 8 นาย ออกสกัดจับแรงงานต่างด้าวชาวพม่า เขตพื้นที่ อ.ถลาง หลังสืบทราบว่า ในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มีแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ไม่มีใบอนุญาตทำงานลักลอบแฝงตัวอยู่ตามแคมป์คนงานต่างๆ เป็นจำนวนมาก
จากการระดมกวาดล้างในครั้งนี้ สามารถสกัดจับรถรับ-ส่งแรงงานต่างด้าวได้ จำนวน 3 คัน แรงงานต่างด้าวทั้งชาย และหญิง ร่วม 38 คน บริเวณสี่แยกดุสิต-ลากูน่า ถ.โตกโตนด ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมคนขับรถทั้ง 3 คัน ประกอบด้วย นายล้วน หงส์เรืองรอง อยู่บ้านเลขที่ 78 ม.2 ต.ทับลาน อ.ตาพระราม จ.สระแก้ว คนขับรถ 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 80-6609 ภูเก็ต
นายอุดม กราบทูล อยู่บ้านเลขที่ 29/3 ม.2 ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา คนขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน บด-2125 ภูเก็ต และนายวิทูล สร้อยสวัสดิ์ อยู่บ้านเลขที่ 273/2 ม.15 ต.วังพิกุล อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ คนขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนทอง ตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน บน-3204 เพชรบูรณ์
จากนั้น จึงนำตัวทั้งหมดมาทำการสอบสวน พร้อมทำทะเบียนประวัติ ที่ สภ.เชิงทะเล ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวทั้งหมดมีใบอนุญาตทำงานเพียง 3 คน และจากการสอบสวนคนขับรถทั้ง 3 คน เบื้องต้นทราบว่า ได้รับการว่าจ้าง จากบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เชิงทะเล ให้มารับแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ไปส่งยังไซต์งานในพื้นที่ ต.เชิงทะเล และพื้นที่ใกล้เคียง โดยไม่ทราบว่า แรงงานต่างด้าวทั้งหมด มีใบอนุญาตทำงานถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง ผกก.สป.8 กองบังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า การลงมาดำเนินการกวาดล้างจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่ครั้งนี้ ได้ประสานให้ตำรวจพื้นที่ทราบแล้ว
ทั้งนี้ สืบทราบว่า พื้นที่ จ.ภูเก็ต มีแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ทั้งที่มีใบอนุญาตทำงาน และไม่มีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน จะแฝงตัวอยู่ในกลุ่มที่มีใบอนุญาตตามแคมป์ที่พักต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งนายจ้างบางรายก็ไม่นำไปลงทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะเกรงว่าจะเสียค่าใช้จ่ายสูง แม้ที่ผ่านมาทางราชการจะเปิดโอกาสให้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีการฝ่าฝืนอย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญ จ.ภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติ หากกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ก่อปัญหาอาชญากรรมขึ้น ก็จะเกิดปัญหาซ้ำซ้อน เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เหมือนกับที่เคยเกิดเหตุการณ์ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หลายครั้งที่แรงงานต่างด้าวชาวพม่า ก่อปัญหาอาชญากรรมกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แล้วติดตามจับกุมตัวไม่ได้ เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่า แรงงานคนที่ก่อเหตุ ชื่ออะไร ทำงานอยู่กับนายจ้างคนใด
อย่างไรก็ตาม บางครั้งแม้จะไม่ทราบชื่อแรงงานที่ก่อเหตุ เพียงจำรูปพรรณสัณฐานได้ ก็สามารถนำไปเปรียบเทียบกับจำนวนแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนไว้ ก็จะทราบได้ทันทีว่า เป็นใคร ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้งหมดที่จับกุมได้ในครั้งนี้ จะขยายผลเพื่อติดตามตัวนายจ้างมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
