พัทลุง – จับพระธุดงค์อุบาทว์สำเร็จความใคร่ใส่หน้าเด็กชาย 8-10 ขวบ ชาวบ้านรวบตัวได้ก่อนจับสึกส่งตำรวจดำเนินคดี เผยพฤติกรรมก่อนหน้านี้ก็เคยกระทำอนาจารเด็กมาแล้วหลายคน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่าเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา นายอารมณ์ ไชยแก้ว พร้อมชาวบ้าน ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ประมาณ 50 คน ได้นำตัวพระกัลยารัตน์ ศิริวัณโน หรือนายวีรศักดิ์ ส่งแสง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 1 ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง พระธุดงค์ ที่มาปักกรดบำเพ็ญเพียรอยู่ในป่าใกล้เจดีย์ควนหินแท่น ต.โคกทราย อ.ป่าบอน มาให้พระครูสังวรณ์ ธรรมวารี เจ้าอาวาสวัดทุ่งนารี และเจ้าคณะอำเภอป่าบอน เพื่อให้ทำการสึกจากการเป็นพระโดยกลุ่มชาวบ้านอ้างว่า พระกัลยารัตน์กระทำอานาจารเด็กชาย อายุระหว่าง 8 -10 ปีในหมู่บ้าน 3 คน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ม.ค.51
โดยก่อนหน้าวันเกิดเหตุชาวบ้านเห็นพระกัลยารัตน์ ศิริวัณโน ธุดงค์มาปักกรดปฏิบัติธรรมบริเวณเจดีย์ควนหินแท่น ซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูงและเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยมีพฤติกรรมชอบใบ้หวยให้กับชาวบ้านด้วย จึงเกิดความศรัทธาเลื่อมใสและนิมนต์ลงมารับบิณฑบาตรบริเวณในหมู่บ้าน และให้ลูกหลานช่วยถือตามขึ้นไปส่งบริเวณเจดีย์
ปรากฏว่า พระกัลยารัตน์ ได้ล่อลวงเด็กชาย ที่ช่วยถืออาหารไปส่งให้เข้าไปในโรงธรรมเก่าบริเวณเจดีย์ โดยเรียกเด็กเข้าไปหาทีละคน โดยอ้างว่าให้เด็กนั่งสมาธิ หลับตา และอ้าปาก เมื่อเด็กทำตามก็สำเร็จความใคร่ใส่ปากเด็ก พร้อมข่มขู่ห้ามไม่ให้บอกใคร หากไม่เช่นนั้นจะเสกตะปูเข้าท้องทำให้เด็กๆ เกิดความกลัว และไม่กล้าไม่เล่าให้ใครฟัง
กระทั่งมาถึงเด็กคนล่าสุดเด็กทนไม่ได้ จึงไปเล่าให้ผู้ปกครอง และทำให้ชาวบ้านเกิดความโกรธแค้น จึงได้ออกติดตามตัวพระกัลยารัตน์ ดังกล่าว
จนกระทั่งล่าสุดชาวบ้านได้มาเจอพระกัลยารัตน์ ธุดงค์อยู่ในพื้นที่ ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จึงช่วยกันล้อมจับตัวนำมาส่งให้พระครูสังวรณ์ ธรรมวารี เจ้าคณะอำเภอป่าบอน ทำการสึกดังกล่าวซึ่งพระกัลยารัตน์ ศิริวัณโน หรือนายวีระศักดิ์ ยอมลาสิกขาบทแต่โดยดี ก่อนส่งตัวให้ พ.ต.ท.เมธาพงศ์ นาคปลัด พนักงานสอบสวน สภ.ป่าบอน เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป
สำหรับพพระกัลยารัตน์ ศิริวัณโน หรือนายวีระศักดิ์ ส่งแสง นั้นเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมาเคยถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในขณะกำลังลวนลามเด็กนักเรียนชาย-หญิง ประมาณ 7-8 คน แต่ไม่ถูกดำเนินคดีและกลับมาอนาจารเด็กอีกครั้งจนชาวบ้านจับสึกดังกล่าว