ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต รวบแก๊งฉกสร้อยคอทองคำและมือถือได้ 5 คน หลังก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 9 ครั้ง
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (23 ม.ค.) พ.ต.อ.ณต เศวตเลข ผกก.สภ.ภูเก็ต ได้แถลงจับกุมแก๊งวิ่งราวทรัพย์และชิงทรัพย์ ว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.จักขณ์ ตารมณ์ย์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.พงษ์นรินทร์ สุทิน สว.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต ร.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย และ ร.ต.อ.เจษฎา จันทร์พุ่ม รอง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมพวก ได้จับกุมผู้ต้องหาก่อคดีวิ่งราวทรัพย์และชิงทรัพย์ได้ทั้งหมด 5 คน
โดยจับกุม นายประสิทธิ์ หรือ เอก อินทชูด อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/1 ม.4 ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นายบี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นายโอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และ นายศักดิ์ชัย หรือ บอล เจริญสุข อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ซ.2 ถ.อนุภาษภูเก็ตการ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยกล่าวร่วมกันชิงทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์โดยใช้พาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิด
พ.ต.อ.ณต กล่าวอีกว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหาแก๊งนี้จะวิ่งราวกระเป๋า สร้อยคอทองคำ และชิงทรัพย์ในท้องที่ สภ.เมืองภูเก็ต จำนวนหลายครั้ง ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหารับว่าได้ร่วมกันกระทำผิดมาแล้ว 9 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งจะสลับกันจับคู่ก่อเหตุ ขึ้นอยู่กับในช่วงนั้นผู้ต้องหาคนใดต้องการใช้เงิน ในการกระทำผิดจะมีการกระทำผิดด้วยกัน 3 แบบ คือ
1.ผู้ต้องหาจะเลือกผู้เสียหาย โดยการเฝ้าติดตามจากร้านค้า หรือสถานที่ต่างๆ เมื่อพบว่าผู้เสียหายมีสร้อยคอทองคำ หรือกระเป๋าถือที่คาดว่าจะมีทรัพย์สินมาก เมื่อผู้เสียหายขับขี่รัถจักรยานยนต์ออกไปที่เปลี่ยว ก็จะขับรถประชิดและชากสร้อยคอทองคำแล้วหลบหนีไป
2.ผู้ต้องหาจะขับรถจักรยานยนต์ตระเวนหาผู้เสียหาย ที่สวมสร้อยคอทองคำ เมื่ออยู่ในที่เปลี่ยว หรือคนไม่พลุกพล่านก็เข้าไปตีสนิทและพูดคุยด้วย เมื่อสบโอกาสก็จะกระชากสร้อยคอทองคำทันที และวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนติดเครื่องรอหลบหนีไป
3.ผู้ต้องหาจะขับรถตระเวนแล้วเข้าไปตีสนิทขอดูโทรศัพท์มือถือ เมื่อได้โอกาสก็จะพาวิ่งหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ไปทันที และในบางครั้งผู้ต้องหายังใช้อาวุธหรือโชว์อาวุธในการก่อเหตุด้วย เมื่อได้ทรัพย์มาก็จนำไปขายและแบ่งเงินกัน ในบางครั้งทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือก็จำไปแลกกับยาบ้านำมาเสพกัน
พ.ต.อ.ณต กล่าวอีกว่า แก๊งที่จับได้ทั้งหมดในวันนี้เป็นเด็กที่อยู่บริเวณสะพานร่วม ยังเหลืออีกประมาณ 5-6 คน ที่ยังไม่สามารถจับกุมได้ และสร้อยคอทองคำที่ได้มาก็จะนำไปขายให้กับร้านทองในบริเวณนั้น ซึ่งทางตำรวจได้ขอหมายศาลจังหวัดภูเก็ตทำการจับกุมเจ้าของร้านทองมาดำเนินคดีดังกล่าวแล้วด้วย
