xs
xsm
sm
md
lg

คนร้ายกระชากกระเป๋าเงินสาวใหญ่ 8 หมื่นหน้าแบงก์กรุงศรีฯ ตรัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตรัง – คนร้ายดักรอหน้าธนาคาร ขณะเหยื่อนำเงินร่วม 8 หมื่นบาท มาฝากธนาคาร ก่อนเข้ากระชากกระเป๋า เชิดเงินหลบหนีลอยนวล

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (10 ม.ค.) ศูนย์วิทยุ 191 สภ.อ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ บริเวณหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา ถนนกันตัง ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชา และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ตรวจสอบที่เกิดเหตุและติดตามจับกุมตัวคนร้าย รวมทั้ง พ.ต.ท.ณัฐภาคย์ นุ้ยโดด สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองตรัง

ผู้เสียหาย คือ นางสาวอัจรี สิ้มใต้ยิ้น อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/3 หมู่ที่ 1 ถนนสิเกา-ควนกุน ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา กำลังรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการที่ตื่นตระหนก

นางสาวอัจรี ผู้เสียหาย เล่าว่า ในขณะที่เกิดเหตุตนกำลังจะนำเงินสดจำนวนกว่า 80,000 บาท ซึ่งอยู่ภายในกระเป๋าถือ โดยหนีบกระเป๋าใบดังกล่าวไว้ใต้แขนขวา เพื่อที่จะนำเข้าไปฝากธนาคาร

จากนั้นคนร้ายซึ่งจำได้ว่า จอดรถจักรยานยนต์รออยู่บริเวณปากซอยด้านข้างธนาคาร โดยคนร้ายมีรูปร่างท้วม สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ และสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

ต่อมาคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ที่ยังคงติดเครื่องยนต์อยู่ มาจอดที่บริเวณด้านหน้าธนาคาร ในช่วงจังหวะที่ตนกำลังจะก้าวขึ้นบันไดขั้นแรกของธนาคารพอดี คนร้ายก็ตรงเข้ามากระชากกระเป๋าเงิน แล้วผลักตนล้มลงคว่ำหน้าลงกับพื้น แล้ววิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไป ตามเส้นทางถนนสายท่ากลาง

นางอัจรี เล่าอีกว่า โดยปกติในทุกวันตนกับสามีจะนำเงินสดจำนวนไม่ต่ำว่า 30,000 บาท มาฝากที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาตรัง ซึ่งแต่ละวันสามีจะเป็นคนนำเงินมาฝาก ส่วนตนจะซื้อของอยู่ในตลาดสดเทศบาลนครตรัง แต่ในวันนี้ได้ผลัดเปลี่ยนกับสามี โดยให้สามีซื้อของในตลาดและคอยอยู่ที่รถ ซึ่งจอดไว้บริเวณหลังตลาดสดเทศบาล ส่วนตนเดินทางจากที่จอดรถ ซึ่งห่างจากธนาคารประมาณ 300 เมตร เพื่อนำเงินจำนวนดังกล่าวมาฝากธนาคาร โดยไม่คาดว่าจะมีคนร้ายดักรอก่อเหตุอยู่แล้ว

พ.ต.ท.ณัฐภาคย์ นุ้ยโดด สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายไล่ติดตามบุคคลต้องสงสัย แต่ยังไร้วี่แวว เนื่องจากคนร้ายได้สวมหมวกกันน๊อคแบบเต็มใบ จึงทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถจดจำใบหน้าของคนร้ายได้

อย่างไรก็ตาม คาดว่า คนร้ายน่าจะเป็นบุคคลที่รู้จักความเคลื่อนไหวของผู้เสียหาย และเฝ้าติดตาม โดยคอยจังหวะเมื่อสบโอกาสก่อเหตุทันที หรือไม่อาจเป็นคนร้ายที่ทราบความเคลื่อนไหวของทางธนาคาร เนื่องจากในช่วงนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำธนาคารได้ลาพักร้อน จึงเป็นช่วงจังหวะที่น่าจะก่อเหตุ โดยมาดักรอเหยื่อทั่วไป เมื่อพบเหยื่อที่น่าสนใจจึงรีบลงมือโดยทันที ซึ่งขณะนี้กำลังค้นประวัติผู้ต้องสงสัย ที่เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในทุกพื้นที่มาแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น