เปิดกรุ อส.รุ่นแรก รปภ.รถไฟหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก

สงขลา – “อธิบดีกรมการปกครอง” เยี่ยม อส.รุ่นแรก 200 นาย ก่อนออกปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยรถไฟหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ร่วมกับ ทหาร-ตร.-ตชด.

วันนี้ (22 ม.ค.) เวลา 09.00 น.ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน จังหวัดสงขลา ที่ 1 ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา นายกองเอก วิชัยศรีขวัญ อธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอำนวยการกองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน เดินทางไปตรวจเยี่ยมสมาชิก อส.กองร้อยบังคับการ และบริการส่วนหน้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่หลักในการรักษาความปลอดภัยประจำขบวนรถไฟเส้นทางหาดใหญ่-สุไหงโกลก 200 กว่านาย รุ่นแรกที่พร้อมออกปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับ ตำรวจ ทหาร และ ตชด.

สำหรับสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เป็นกองกำลังประจำถิ่นที่สำคัญของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้รับการฝึกเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้เพิ่มกรอบอัตรากำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำขบวนรถไฟ ตั้งแต่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา ถึงสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและดูแลความปลอดภัยขบวนรถไฟตลอดเส้นทาง

นายกองเอก วิชัยศรีขวัญ อธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอำนวยการกองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กล่าวว่า “สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนในปัจจุบันที่ทำงานอย่างจริงจังและชัดเจนจะเป็น อส.ในพื้นที่ภาคใต้ ที่เข้าไปช่วยเหลือทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ในการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ของตัวเอง”

ขณะนี้ได้มีการขยายงานเพิ่มขึ้น โดยจัดตั้งสมาชิกกอง อาสารักษา ดินแดนประจำรถไฟรุ่นแรก บรรจุไปแล้ว 200 กว่าคนเพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและดูแลความปลอดภัยขบวนรถไฟตลอดเส้นทางจากสถานีรถไฟหาดใหญ่ ถึงสถานีรถไฟสุไหลโก-ลก

นอกจากนี้ ในส่วนของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา จะมี อส.ประจำอยู่ทุกหมู่บ้านๆ ละอย่างต่ำ 6 คน เชื่อว่า บุคคลเหล่านี้เป็นผู้ที่รู้พื้นที่ดี เป็นญาติพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เป็นผู้ที่ผ่านการฝึกให้มีระเบียบวินัยและได้ฝึกการต่อสู้ การใช้อาวุธมาเป็นอย่างดีและสามารถดูแลช่วยเหลือประชาชน ร่วมกับฝ่ายตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองได้เป็นอย่างดี

โดยได้เน้นย้ำให้ อส.ทุกคนตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเต็มกำลังความสามารถมีความรักความสามัคคี มีระเบียบวินัยและนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกฯที่ผ่านมาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่