ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เอ็นจีโอภาคใต้จับตาการจัดตั้งรัฐบาลจาก 6 พรรค ลั่นเตือนพรรคชาติไทยทำตามเงื่อนไข 5 ข้อที่สัญญาก่อนเข้าร่วมรัฐบาล “หมัก” แต่หากพบว่ามีการบิดพลิ้วไม่ปฎิบัติตามที่ลั่นจะถูกติดตามและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
ท่าทีขององค์กรการเมืองภาคประชาชนในภาคใต้ภายหลังการแถลงจัดตั้งรัฐบาล 6 พรรค ภายใต้ชื่อรวมพลังเพื่ออนาคตที่สดใส ขับเคลื่อนประเทศไทยพ้นวิกฤต นายเอกชัย อิสระทะ ในฐานะผู้ประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ กล่าวว่า องค์กรการเมืองภาคประชาชนในภาคใต้เริ่มมีการรวมตัวพูดคุยกันเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของการจัดตั้งรัฐบาล 6 พรรคโดยเฉพาะการฟอร์มทีมรัฐบาลหลังจากนี้ ทั้งการแต่งตั้งรัฐมนตรี รวมทั้งนโยบายของรัฐบาลว่าจะออกมาอย่างไร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ คตส.และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน รัฐบาลชุดนี้จะมีท่าทีอย่างไร ซึ่งหากมีการก้าวก่ายการทำงานหรือยุบ คตส.หรือมีการนิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จะเจอกับการเคลื่อนไหวต่อต้านของกลุ่มองค์กรภาคประชาชนในภาคใต้ทันที
แต่สิ่งที่กลุ่มการเมืองในภาคใต้เฝ้าจับตามองมากที่สุดคือบทบาทของพรรคชาติไทยภายใต้เงื่อนไข 5 ข้อที่ประกาศออกมาก่อนเข้าร่วมรัฐบาล คือการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การเคารพและไม่ละเมิดประธานองคมนตรี ไม่มีการล้างแค้นกลุ่มต่างๆ ที่มีส่วนต่อต้าน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีการยุบ คตส. และคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากไม่ปฏิบัติไปตามที่ประกาศไว้องค์กรการเมืองภาคประชาชนในภาคใต้ก็จะพุ่งเป้าเคลื่อนไหวกดดันพรรคชาติไทยเป็นอันดับแรก เพราะเท่ากับเป็นข้อต่อรองที่เลื่อนลอยไร้สัจจะ อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าจับตาหลังจากนี้คือกฎหมายสำคัญหลายเรื่อง เช่น พ.ร.บ.ความมั่นคง รัฐบาลชุดนี้มีทีท่าทีอย่างไร
นายเอกชัย กล่าวว่า การที่จะเคลื่อนไหวในเรื่องใดเกี่ยวกับการเมืองหลังจากนี้ จะต้องรอดูหน้าหน้าของรัฐบาลชุดรวมทั้งนโยบายต่างๆ ว่าจะทำเพื่อประโยชน์ของชาติตามที่ประกาศไว้จริงหรือไม่ หรือมุ่งที่จะลบล้างความผิดให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือทำเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง จากนั้นค่อยมาว่ากัน
ท่าทีขององค์กรการเมืองภาคประชาชนในภาคใต้ภายหลังการแถลงจัดตั้งรัฐบาล 6 พรรค ภายใต้ชื่อรวมพลังเพื่ออนาคตที่สดใส ขับเคลื่อนประเทศไทยพ้นวิกฤต นายเอกชัย อิสระทะ ในฐานะผู้ประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ กล่าวว่า องค์กรการเมืองภาคประชาชนในภาคใต้เริ่มมีการรวมตัวพูดคุยกันเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของการจัดตั้งรัฐบาล 6 พรรคโดยเฉพาะการฟอร์มทีมรัฐบาลหลังจากนี้ ทั้งการแต่งตั้งรัฐมนตรี รวมทั้งนโยบายของรัฐบาลว่าจะออกมาอย่างไร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ คตส.และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน รัฐบาลชุดนี้จะมีท่าทีอย่างไร ซึ่งหากมีการก้าวก่ายการทำงานหรือยุบ คตส.หรือมีการนิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จะเจอกับการเคลื่อนไหวต่อต้านของกลุ่มองค์กรภาคประชาชนในภาคใต้ทันที
แต่สิ่งที่กลุ่มการเมืองในภาคใต้เฝ้าจับตามองมากที่สุดคือบทบาทของพรรคชาติไทยภายใต้เงื่อนไข 5 ข้อที่ประกาศออกมาก่อนเข้าร่วมรัฐบาล คือการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การเคารพและไม่ละเมิดประธานองคมนตรี ไม่มีการล้างแค้นกลุ่มต่างๆ ที่มีส่วนต่อต้าน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีการยุบ คตส. และคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากไม่ปฏิบัติไปตามที่ประกาศไว้องค์กรการเมืองภาคประชาชนในภาคใต้ก็จะพุ่งเป้าเคลื่อนไหวกดดันพรรคชาติไทยเป็นอันดับแรก เพราะเท่ากับเป็นข้อต่อรองที่เลื่อนลอยไร้สัจจะ อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าจับตาหลังจากนี้คือกฎหมายสำคัญหลายเรื่อง เช่น พ.ร.บ.ความมั่นคง รัฐบาลชุดนี้มีทีท่าทีอย่างไร
นายเอกชัย กล่าวว่า การที่จะเคลื่อนไหวในเรื่องใดเกี่ยวกับการเมืองหลังจากนี้ จะต้องรอดูหน้าหน้าของรัฐบาลชุดรวมทั้งนโยบายต่างๆ ว่าจะทำเพื่อประโยชน์ของชาติตามที่ประกาศไว้จริงหรือไม่ หรือมุ่งที่จะลบล้างความผิดให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือทำเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง จากนั้นค่อยมาว่ากัน