กระบี่ - ผู้ประกอบการโรงแรมอ่าวนางโวย ประปาไม่ยอมให้ติดมิเตอร์ใช้น้ำ อ้างขาดแคลน ไม่สามารถอนุญาตให้ติดได้ ด้านรองนายก อบจ.แนะ หากไม่สามารถบริหารจัดการเองได้ควรเปิดเป็นแฟรนไชส์ให้เอกชนทำแทน
นายธรรมศักดิ์ ภูพันธ์วิวัฒน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการด้านโรงแรมที่พักหลายรายในย่านอ่าวนาง ต.อ่าวนาง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด ว่า หลังจากที่ได้เข้าไปขอติดตั้งมิเตอร์ใช้น้ำจากการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดกระบี่ ก็ได้รับคำตอบว่าในช่วงนี้ไม่สามารถอนุญาตติดตั้งให้ได้ เนื่องจากน้ำที่จ่ายอยู่ปัจจุบันมีไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการเกิดความเดือดร้อนเนื่องจาก ไม่สามารถที่จะนำน้ำไปใช้เพื่อการประกอบธุรกิจได้
รองนายก อบจ.ได้เปิดเผยด้วยว่า สำหรับปัญหาการขาดแคลนน้ำ ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันมานานหลายปีมากแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ตนเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ ซึ่งเวลาได้ผ่านมาประมาณ 8 ปี แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ซึ่งก่อนนั้นก็ได้มีพูดคุยกันให้หาที่สำรองแหล่งน้ำ รวมทั้งการนำน้ำจากเขื่อนเชี่ยวหลานมาใช้ เพื่อแก้ปัญหาการแคลนน้ำในจังหวัดกระบี่ แต่จนถึงขณะนี้ก็ไม่มีการดำเนินการไดๆซึ่งตนก็เข้าใจการทำงานของรัฐว่า มีขั้นตอนมากมาย แต่ก็ควรที่จะหาทางแก้ปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ
“สำหรับจังหวัดกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ความต้องการใช้น้ำก็ต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนเหตุผลที่ไม่ให้ติดตั้งมิเตอร์เพิ่มแค่อ้างว่าน้ำไม่พอ ไม่ใช่เหตุผลที่ฟังได้ ผมอยากเห็นการแก้ปัญหา ไม่ใช่การแก้ตัว เพราะในแต่ละปี น้ำฝนที่ตกลงมาถูกปล่อยลงทะเลไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย มีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ ในบางพื้นที่มีท่อน้ำแตก แต่เมื่อชาวบ้านแจ้งให้เข้าไปแก้ไข กว่าประปาจะเข้าไปก็ใช้เวลาหลายวัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นการสูญเสียน้ำอีกทางหนึ่ง หากว่าเป็นของเอกชนก็คงจะถูกเลิกจ้างไปแล้ว”
นายธรรมศักดิ์ ได้กล่าวอีกว่า ตนขอแนะนำว่า หากทางประปาไม่สามารถบริหารจัดการได้ ก็ควรจะให้เอกชนเข้าไปบริหารจัด เหมือนอย่างกับหน่วยงานบางหน่วยงานที่ปัจจุบันได้เปิดเป็นแฟรนไชส์ ให้เอกชนเข้าไปบริหารจัดการ ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และประปาเองก็เหมือนกัน
ทั้งนี้ หากว่ายังเป็นอยู่อย่างนี้ก็ควรจะเปิดเป็นแฟรนไชส์ ให้เอกชนเข้าไปจัดการ ซึ่งตนเชื่อว่าการบริหารจัดการคงดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเมื่อน้ำไม่พอไม่ให้ติดตั้งมิเตอร์ แล้วผู้ที่จะมาขอใช้ที่หลังก็คงจะไม่ได้ใช้น้ำ ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนไปทั่วหน้าในอนาคตอันใกล้ คงจะไม่ใช่แต่บริเวณอ่าวนางเท่านั้น ในเขตเทศบาลเมืองก็เช่นเดียวกัน ปัจจุบันบางจุดก็ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำไม่ค่อยไหลด้วยแล้ว
นายธรรมศักดิ์ ภูพันธ์วิวัฒน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการด้านโรงแรมที่พักหลายรายในย่านอ่าวนาง ต.อ่าวนาง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด ว่า หลังจากที่ได้เข้าไปขอติดตั้งมิเตอร์ใช้น้ำจากการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดกระบี่ ก็ได้รับคำตอบว่าในช่วงนี้ไม่สามารถอนุญาตติดตั้งให้ได้ เนื่องจากน้ำที่จ่ายอยู่ปัจจุบันมีไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการเกิดความเดือดร้อนเนื่องจาก ไม่สามารถที่จะนำน้ำไปใช้เพื่อการประกอบธุรกิจได้
รองนายก อบจ.ได้เปิดเผยด้วยว่า สำหรับปัญหาการขาดแคลนน้ำ ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันมานานหลายปีมากแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ตนเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ ซึ่งเวลาได้ผ่านมาประมาณ 8 ปี แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ซึ่งก่อนนั้นก็ได้มีพูดคุยกันให้หาที่สำรองแหล่งน้ำ รวมทั้งการนำน้ำจากเขื่อนเชี่ยวหลานมาใช้ เพื่อแก้ปัญหาการแคลนน้ำในจังหวัดกระบี่ แต่จนถึงขณะนี้ก็ไม่มีการดำเนินการไดๆซึ่งตนก็เข้าใจการทำงานของรัฐว่า มีขั้นตอนมากมาย แต่ก็ควรที่จะหาทางแก้ปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ
“สำหรับจังหวัดกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ความต้องการใช้น้ำก็ต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนเหตุผลที่ไม่ให้ติดตั้งมิเตอร์เพิ่มแค่อ้างว่าน้ำไม่พอ ไม่ใช่เหตุผลที่ฟังได้ ผมอยากเห็นการแก้ปัญหา ไม่ใช่การแก้ตัว เพราะในแต่ละปี น้ำฝนที่ตกลงมาถูกปล่อยลงทะเลไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย มีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ ในบางพื้นที่มีท่อน้ำแตก แต่เมื่อชาวบ้านแจ้งให้เข้าไปแก้ไข กว่าประปาจะเข้าไปก็ใช้เวลาหลายวัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นการสูญเสียน้ำอีกทางหนึ่ง หากว่าเป็นของเอกชนก็คงจะถูกเลิกจ้างไปแล้ว”
นายธรรมศักดิ์ ได้กล่าวอีกว่า ตนขอแนะนำว่า หากทางประปาไม่สามารถบริหารจัดการได้ ก็ควรจะให้เอกชนเข้าไปบริหารจัด เหมือนอย่างกับหน่วยงานบางหน่วยงานที่ปัจจุบันได้เปิดเป็นแฟรนไชส์ ให้เอกชนเข้าไปบริหารจัดการ ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และประปาเองก็เหมือนกัน
ทั้งนี้ หากว่ายังเป็นอยู่อย่างนี้ก็ควรจะเปิดเป็นแฟรนไชส์ ให้เอกชนเข้าไปจัดการ ซึ่งตนเชื่อว่าการบริหารจัดการคงดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเมื่อน้ำไม่พอไม่ให้ติดตั้งมิเตอร์ แล้วผู้ที่จะมาขอใช้ที่หลังก็คงจะไม่ได้ใช้น้ำ ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนไปทั่วหน้าในอนาคตอันใกล้ คงจะไม่ใช่แต่บริเวณอ่าวนางเท่านั้น ในเขตเทศบาลเมืองก็เช่นเดียวกัน ปัจจุบันบางจุดก็ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำไม่ค่อยไหลด้วยแล้ว
