ตรัง – “ผบก.ตรัง” แถลงจับผู้ต้องหาปาหินใส่ขบวนรถไฟ จนเป็นเหตุให้มีคนเจ็บเย็บ 20 เข็ม สลดทั้งหมดเป็นยังนำหน้าด้วย “ด.ช.” อ้างใช้ขวดเหล้าปา เลียนแบบข่าวในทีวี พ่อผู้เสียหายอึ้ง! ผู้ต้องหาเป็นเด็กล้วนๆ
วันนี้ (7 ม.ค.) เวลา 12.30 น. พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายสมพร สถิตย์ภูมิ นายอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.รัษฎา ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีขว้างปาขวดและก้อนหิน ใส่ขบวนรถไฟขบวนที่ 84 สายตรัง-กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 18.12 น.วันที่ 6 มกราคม 2551 บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 12 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง
จนเป็นเหตุให้ นายบุญธเนศ หาญทะเล อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ซึ่งบ้านเดิมเป็นชาวจังหวัดตรัง และเป็นบุตรชายของ นายบุญธรรม หาญทะเล เจ้าของเกาะไหงวิลล่า ธุรกิจรีสอร์ตรายใหญ่ของจังหวัดตรังได้รับบาดเจ็บที่หน้าผากต้องเย็บถึง 20 เข็ม
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัษฎา จับกุมได้มีทั้งหมด 5 คน โดยเป็นเด็กชายซึ่งมีอายุ 8 ขวบ จำนวน 2 คน และ 10 ขวบ 11 ขวบ 12 ขวบ อย่างละ 1 คน ซึ่งทั้งหมดกำลังเรียนหนังสืออยู่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-6 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งพื้นที่ตำบลควนเมา อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง
ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันใช้ขวดเหล้า ก้อนหิน และก้อนดิน ขว้างปาใส่ขบวนรถไฟสายดังกล่าวจริง แต่เป็นการเล่นร่วมกันเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีเจตนาร้ายกับผู้โดยสารบนขบวนรถไฟแต่อย่างใด เนื่องจากเลียนแบบจากข่าวที่เห็นจากทางโทรทัศน์
พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ถือเป็นอุธาหรณ์สำหรับผู้ปกครองทุกคน ที่ควรเพิ่มความระมัดระวัง และดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งในส่วนของคดีนั้นคงต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาแก่เด็กทั้ง 5 คนว่าร่วมกันพยายามฆ่า ส่วนการดำเนินคดีนั้นจะเป็นเช่นไร ก็ต้องไปตามกระบวนการกฎหมาย
นายสุทิน วีรสุข อายุ 33 ปี 1 ในผู้ปกครองของเด็กทั้ง 5 คน เล่าว่า เมื่อช่วงกลางคืนของวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ตนได้ยินหลานชายของตนได้เล่าให้เด็กคนอื่นๆ ใกล้บ้านฟังว่าตนเองนั้นได้ไปเล่นปาก้อนหินและขวดใส่ขบวนรถไฟซึ่งมีความสนุกมาก จึงได้เรียกมาสอบถามและตักเตือนโดยไม่รู้ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว และได้ทำโทษด้วยการตีหลานชายเป็นจำนวนหลายครั้งก่อนสั่งให้เข้านอน และมาทราบเรื่องตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามมาจับกุมยังบ้านพัก ซึ่งรู้สึกเสียใจต่อกระกระทำของหลานตนเองในครั้งนี้เป็นอย่างมาก โดยที่ไม่เคยคาดคิดเลยว่าหลานชายตนเองจะทำนิสัยเช่นนี้ได้
นายสุทิน เล่าอีกว่า บ้านของตนเองกับที่เกิดเหตุนั้นอยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร ซึ่งเป็นช่วงบริเวณหลังบ้าน โดยเป็นป่ารกข้างทางรถไฟ และบริเวณหน้าจะอยู่ตดกับถนนหลวง จึงมักสั่งห้ามไม่ให้ลูกหลานออกไปวิ่งเล่นหน้าบ้าน ดังนั้น บริเวณหลังบ้านซึ่งอยู่ใกล้กับริมทางรถไฟ จึงเป็นที่เล่นของเด็กๆ แต่ก็ไม่คิดว่าหลานจะมีความซนได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งต้องแล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีต่อไป และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากต่อผู้เสียหายและญาติๆ
นายบุญธรรม หายทะเล บิดาของนายบุญธเนศ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ในครั้งแรกต้องการที่จะเอาผิดแก่ผู้กระทำให้ถึงที่สุด แต่เมื่อมาพบกับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ปรากฏว่าเป็นเด็กเล็กๆ ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร และพูดไม่ออกจริงๆ ซึ่งก็คงแล้วแต่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป