ปรากฎการณ์ “ไลฟ์สด เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ” เปลี่ยนแปลงการไลฟ์สดไปอย่างไรบ้าง จนถูกขนานนาม ว่า เจนนี่ ไลฟ์สด โมเดล วันนี้ มีคำตอบ และมาดูว่า คนทั่วไปที่ไม่ใช่อินฟลู ดารา ดัง เมื่อไหร่สด มีรายได้เท่าไหร่ และมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
ในช่วงนี้ กระแส การไลฟ์สดผ่าน Tiktok ของสาว “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ที่กำลังโด่งดัง จนกลายเป็นกระแสไวรัล จากการสร้างปรากฎการณ์ ไลฟ์สดที่สร้างยอดขายกว่า 500 ล้านบาท ในเวลาเพียงแค่ 5 วัน และคนดังบนโลกโซเชียลฯ รวมถึงนักแสดงชื่อดัง ต่างมุ่งตรงไปร่วมไลฟ์สดที่บ้านของเธอ
ดาราชื่อดัง ร่วมไลฟ์สดกับ สาวเจนนี่ มีออเดอร์ กันเท่าไหร่
โดยจากการที่เหล่าคนดังไปร่วมไลฟ์สด กับสาวเจนนี่ ที่ผ่านมา แต่ละคนสร้างยอดขายกันอย่างหลักล้าน ไปจนถึงหลักสิบล้าน ช่วงเวลา เพียงไม่กี่ชั่วโมง เริ่มต้นจากยอดขายสูงสุดของ ดาราสาวเบอร์หนึ่งของเมืองไทย “อั้ม พัชราภา” สร้างยอดขาย 60 ล้านบาท ตามมาด้วย สาวนักร้องชื่อดัง กระแต อาร์สยาม ยอดขาย 31 ล้านบาท และตามมาด้วย การคอลแล็ป ของ หนิง ปณิตา -ชิน ชินวุฒิ และ เจฟฟี่เดอะเฟรซ สร้างยอดขายรวม 23 ล้านบาท
และตัวพ่อวงการนางงาม ณวัฒน์ อิสรไกรศรี ทำยอดขายวันนั้นไปถึง 20 ล้านบาท ตามด้วย ดารานักแสดงตลกชื่อดัง แจ็ค แฟนฉันไม่พลาดรวมแจมไลฟ์สด ยอดขายไปถึง 19 ล้านบาท ก็ยังมีคนดัง อื่นๆ เนยโชติกา ป๋อ ณัฐวุฒิ ทั้งสองคน มียอดขายคนละกว่า 6 ล้านบาท ต้นหอม มาคอลแล็ป กับ ทางน้ำ รพีภัทร ทำยอดขายกันไป คนละกว่า 5 ล้านบาท และอ้อม สุชา มียอดขายกว่า 4 ล้านบาท และยังมีนักแสดงอื่นๆ อีกหลายคน ที่ทำยอดขายกันหลักล้านบาท กับการร่วมไลฟ์สดขายของกับ สาวเจนนี่
ล่าสุด อาจารย์เชียง กัดไม่ปล่อย ได้ออกมาวิเคราะการไลฟ์สดของเจนนี่ ทางช่อง เฟสบุ๊ก Reel ว่า มันกลายเป็นต้นแบบใหม่ของ ดารา อินฟลู การขายผ่านไลฟ์สด ในยุคต่อไป เรียกได้ว่าเป็นกลายเป็น "เจนนี่ ไลฟ์ โมเดล" ได้เลยครั้งนี้ เพราะมีการเปลี่ยนรูปแบบการไลฟ์สดจากแบบเดิมที่มานั่งพูดคนเดียว หรือขายของตัวเอง แบบซ้ำเดิมๆ ทุกวัน ก็เปลี่ยนมาเป็นการขายของคนอื่นๆ ในช่องตัวเองและมีรายได้เพิ่ม
อาจารย์เชียงกัดไม่ปล่อย วิเคราะห์ ออกมาข้อดังนี้
- เริ่ม จาก “ขายของตัวเอง” สู่ “พิธีกรขายของคนอื่น” เจนนี่ไม่ใช่แค่แม่ค้าออนไลน์ แต่เธอเปลี่ยนบทบาทเป็น “พิธีกรรายการขายของ” พูดคุยกับเจ้าของสินค้าแบบเพื่อนคุยกัน ถามจุดเด่นสินค้าแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ยัดเยียด
- ผู้ชมรู้สึกเหมือนดูรายการทีวีมากกว่าการขายของ — สนุก ดูเพลิน และน่าเชื่อถือกว่าเดิม
- ปรับราคาใหม่ ตัดสินใจง่ายขึ้น จากค่าจ้าง 200,000 บาท/ชั่วโมง เหลือเพียง 50,000 บาทต่อ 5 นาที SME แบรนด์เล็ก ๆ เข้าถึงได้ เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องคิดเยอะ เพราะ “ราคานี้ซื้อการมองเห็นและยอดขายได้ทันที”
- ทำคอนเทนต์ต่อยอดได้ หลังไลฟ์ เจนนี่ให้เจ้าของแบรนด์นำคลิปไปตัดต่อโพสต์ต่อได้เลย
ไม่หวง ไม่ปิดกั้น — เพราะรู้ว่าคอนเทนต์หนึ่งชิ้นสร้างมูลค่าได้อีกหลายรอบ นี่คือแนวคิด “หนึ่งไลฟ์ สร้างสิบคลิป”
- ใช้การ Collab ดึงคนดู ไม่ต้องพูดคนเดียว ไม่ต้องขายคนเดียว แต่ใช้ “พลังของการร่วมมือ” เช่น เชน ธนา collab กับพี่แม คนดูพุ่งกว่า 20,000 คน ยอดขายแตะหลักล้าน AI TikTok ก็จดจำหน้าคนดัง ทำให้คลิปดันแรงขึ้นอีก
- สินค้าหลากหลาย = คอนเทนต์หลากรส แทนที่จะพูดของเดิมซ้ำ ๆ การเปิดรับสินค้าอื่น ๆ มาขาย ทำให้มีเรื่องให้เล่า มีสีสัน มีความหลากหลาย ผู้ชมไม่เบื่อ เหมือนรายการที่มีแขกรับเชิญใหม่ทุกวัน
- โมเดลรายได้ 3 ช่องทาง
1. ขายสินค้าของตัวเอง
2. ค่าจ้างไลฟ์สดจากแบรนด์อื่น (หลักหมื่น / 5-10นาที)
3. ค่าคอมมิชชั่น 1–15% จากยอดขาย
นี่คือโมเดลที่ทั้งได้เงินสด ได้คอนเทนต์ และได้ยอดขาย — พร้อมกัน
- ผลกระทบในวงการ เม พรีมายา เริ่มเปิดรับแบรนด์อื่นมาไลฟ์สด ที่เคยขายแค่เม็ดตุ๊ป ก็เปิดรับสินค้าเพิ่ม อินฟลูคนอื่นเริ่มปรับตาม
สรุป “เจนนี่ ไลฟ์ โมเดล” ไม่ได้แค่ขายของ แต่สร้างระบบใหม่ของวงการไลฟ์สด ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์เจ้าของแบรนด์ได้ยอด อินฟลูได้รายได้ คนดูได้ความรู้และความสนุก
การไลฟ์สดผ่านช่องทาง Tiktok มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
ครั้งนี้ ได้มีเจ้าของบัญชี IG ใช้ชื่อ trakantung ได้ออกมาพูดถึง รายได้จากการไลฟ์สดขายสินค้าของตนเอง ผ่านช่องทาง Tiktok ผ่านคลิปReel ว่า ตนเองขายถ้วยชามที่ทำจากไม้ ในราคาใบละ 200 บาท โดยการไลฟ์สดผ่านช่องทาง Tiktok โดยการไลฟ์สดในครั้งนั้น มีออเดอร์อยู่ที่ 55,000 บาท ซึ่งหลายคนมองว่า เป็นยอดขายที่เยอะ ไลฟ์แค่วันเดียวมีรายได้เกือบ ครึ่งแสน แต่จริง พอหักค่าใช้จ่ายออกไปเหลือแค่หมื่นกว่าบาท ไม่ได้เยอะอะไร
โดยได้ออกมาพูดถึง ค่าใช้จ่ายและรายได้ ว่า การไลฟ์สดแต่ละครั้งจริงจะมีออเดอร์ที่ยกเลิก ยิ่งขายได้ออเดอร์เยอะ สัดส่วนการยกเลิกมันก็เยอะ เช่น กัน และในครั้งนี้ มีออเดอร์ ที่ยกเลิกอยู่ที่ 5,000 บาท และมีค่าใช้จ่ายในการไลฟ์สดรวมๆ แล้วอยู่ที่ 8,439 บาท
สำหรับค่าใช้จ่ายในการไลฟ์สด ช่องทาง Tiktok มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนช้างสูง ยกเลิกออเดอร์ 5,000 บาท ค่าธรรมเนียม แบ่งเป็น ค่าคอมมิชั่น 2,676 บาท ค่าธรรมเนียม Tiktok 1,576 บาท คลิปเอาไปลงต่อ Affiliate Markting 99 บาท ค่าจัดส่งฟรี โปรร่วมกับTiktok 2,652 บาท และค่าไลฟ์โค้ช ที่ต้องจ่าย Tiktok อีก 1,433 บาท ซึ่งหักค่าใช้จ่ายต่างแล้ว เหลือประมาณ 41,260 บาท และเมื่อหักค่าต้นทุนสินค้า จำนวน 25,000 บาท เหลือประมาณ 16,620 บาท และหักค่าแพ็คของ และ VAT 7% 3,500 บาท เหลือสุดท้ายเน็ตๆ ประมาณ 13,120 บาท
ทั้งนี้ จะเห็นว่า ค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ เอาจริงเหลือไม่ได้เยอะ ที่ผ่านมา มีคนมาขายตัดราคา ขายเหลือ 150 บาท 160 บาท หรือ 180 บาท ซึ่งต้นทุนสินค้าเท่าไหร่ ก็จะเหลือไม่กี่บาท ไม่คุ้มค่าเหนื่อย สุดท้าย ก็เลิกไป เพราะขนาดเราขายราคาเต็ม ใบละ 200 บาท ยังเหลือไม่เยอะ ใครที่ขายราคาถูก ถ้าออเดอร์ไม่เยอะจริงก็อยู่ยาก