มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ผนึกกำลัง TBMA พัฒนาหลักสูตรเศรษฐกิจฮาลาล ตอบโจทย์ตลาดผู้บริโภคกว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก มุ่งยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางการค้าฮาลาลระดับภูมิภาค เชื่อมั่นได้ประโยชน์ทุกหลักสูตรและทุกระดับ พร้อมติดอาวุธความรู้ให้นักศึกษา-ผู้ประกอบการ มั่นใจสร้างสินค้าและผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานโลก
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ สมาคมการค้าธุรกิจอุตสาหกรรมไทย เอเชียตะวันออกกลางและตลาดโลก (TBMA) เพื่อพัฒนาหลักสูตรขับเคลื่อนเศรษฐกิจฮาลาลในประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้ DPU เป็นศูนย์กลาง(Hub) การศึกษาฮาลาล และประเทศไทยเป็นฮับของเศรษฐกิจ
ฮาลาลในภูมิภาค โดยมี ดร. ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ดร. อาลี คาน รองเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ดร. มูหัมหมัดอามีน เจะหนุ ผู้อำนวยการสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย และคุณกัญญภัค ปรัชญากุลวรา นายก TBMA พร้อมด้วย ผู้บริหารและคณาจารย์ DPU ร่วมในพิธีลงนามความร่วมมือดังกล่าว ณ ห้องสุทธิเกตุ (7-1) อาคาร 7 ชั้น 1 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับ TBMA ในครั้งนี้ DPU เล็งเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจฮาลาลตลอดช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา ในฐานะสถาบันการศึกษาต้นน้ำที่มีบทบาทผลิตบุคลากรคุณภาพ เพื่อรองรับทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของเศรษฐกิจฮาลาล DPU จึงให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อร่วมกันยกระดับและส่งเสริมธุรกิจฮาลาลของไทยให้ได้มาตรฐานสากล ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ DPU พัฒนารายวิชาและหลักสูตรที่มีความหลากหลายได้ดีมากขึ้น และจะเป็นศูนย์กลางการศึกษาฮาลาลในอนาคต ทั้งจากการทำงานร่วมกับ TBMA และการส่งเสริมให้เกิดการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับเศรษฐกิจฮาลาล เพื่อนำความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่นักศึกษาและผู้ประกอบการที่สนใจ ให้รับรู้ถึงมาตรฐานและความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเศรษฐกิจฮาลาล อันจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนในทุกหลักสูตรและทุกระดับ อีกทั้งยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจฮาลาลของภูมิภาค
คุณกัญญภัค ปรัชญากุลวรา นายกสมาคม TBMA กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์ฮาลาล และพัฒนาหลักสูตรด้านฮาลาลที่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อนักศึกษา ผู้ประกอบการ และนักธุรกิจที่ต้องการความรู้ที่ถูกต้องในการดำเนินธุรกิจฮาลาล ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยสร้างบุคลากรคุณภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดมุสลิมโลก ซึ่งปัจจุบันมีผู้บริโภคกว่า 2,000 ล้านคน และคาดว่าจะก้าวขึ้นเป็นกลุ่มผู้บริโภคใหญ่ที่สุดของโลกภายใน 4 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ TBMA เชื่อมั่นในศักยภาพของ DPU ที่มีความพร้อมครอบคลุมทุกด้าน ว่าจะสามารถต่อยอดหลักสูตรและสร้างประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่ TBMA จะสนับสนุนการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำ และคาดหวังว่าจะช่วยสร้างบุคลากรไปสู่กลางน้ำ และปลายน้ำได้ในอนาคต เพื่อร่วมกันผลักดันผลิตภัณฑ์ฮาลาลของไทยสู่ตลาดโลก โดยอาศัยทั้งประสบการณ์ตรงของ TBMA และศักยภาพทางวิชาการของ DPU ในการสร้างหลักสูตรที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ผู้สนใจพัฒนาความรู้ด้านธุรกิจฮาลาลและต้องการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดมุสลิมทั่วโลก
ดร. อาลี คาน รองเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและธุรกิจที่จะประสานความร่วมมือ พลังความรู้ และบุคลากรสู่เวทีสากล การลงนามบันทึกความร่วมมือ ไม่เพียงสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางธุรกิจ แต่ยังเสริมสร้างศักยภาพประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางการค้าฮาลาลที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติ คณะกรรมการฯ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการพัฒนาที่สอดคล้องกับหลักคุณธรรม ความโปร่งใส มาตรฐานฮาลาล และมาตรฐานสากล เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมไทยโดยรวม หวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่น เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง และนำไปสู่การขยายเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ อันเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนในอนาคต เพราะสินค้าฮาลาลของไทยเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ การส่งออกเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ฮาลาลของไทย ได้รับการรับรองมากกว่า 2 แสนรายการ
ดร. มูหัมหมัดอามีน เจะหนุ ผู้อำนวยการสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับ DPU และ TBMA ในความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับธุรกิจและผลิตภัณฑ์ฮาลาลสำหรับผู้ประกอบการและนักศึกษาไทยในอนาคต ความร่วมมือนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการขยายศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากกลุ่มประเทศมุสลิมและตะวันออกกลางเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง และประเทศไทยมีศักยภาพที่จะผลักดันสินค้าและผลผลิตไปสู่ตลาดดังกล่าว เพื่อสร้างรายได้และความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ในการนี้ สถาบันฯ พร้อมให้การส่งเสริมและสนับสนุนด้านการรับรองผลิตภัณฑ์ฮาลาลอย่างเต็มที่