บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ประกอบไปด้วยบ่อปลา บ่อกุ้ง รายล้อมด้วยต้นมะพร้าวน้ำหอม เล้าไก่ โคกระบือ โรงผลิตน้ำตาลมะพร้าว สวนผักออร์แกนิค ร้านอาหาร และกำลังจะขยับขยายสำหรับพื้นที่โรงงาน จำนวนเตาเผา การเติบโตไปโมเดิร์นเทรด และตลาดต่างประเทศกับ “ปลาวัน Farm to Table” ทั้งหมดนี้ คุณยุ้ย ณัฐสุดา จั่นบางยาง เจ้าของร้านและผู้ฟูมฟักธุรกิจ Farm to Table ยอมรับว่าการเติบโตแบบก้าวกระโดดครั้งนี้เพราะการพาแบรนด์เข้าไปอยู่ในโลก 'ไลฟ์คอมเมิร์ซ'
หลังจบป.6 ไม่ได้เรียนต่อ เพราะค้นพบตัวเองได้เร็ว ตัดสินใจลุยธุรกิจแบบ Lifelong Learning ทำไปเรียนรู้ไป
เกษตรกรคืออาชีพดั้งเดิมของครอบครัวคุณยุ้ย ภาพความชินตาตั้งแต่จำความได้คือบ้านที่มีบ่อปลานิล บ่อกุ้ง ที่นา และปัญหาโดนกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง สมาชิกในครอบครัวแพ้สารเคมีที่ใช้ทำการเกษตร สภาพดินเสื่อมโทรมลงจนเริ่มกระทบผลผลิต เมื่อจบชั้นประถม 6 คุณยุ้ยจึงตัดสินใจไม่เรียนต่อในระบบแต่เริ่มบทเรียนใหม่นอกห้องเรียน ในวิชาที่เธอมั่นใจว่าจะได้ใช้ทั้งชีวิต
นอกจากการลงมือทำจริงแล้ว เธอตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฝึกงานผู้นำเยาวชนเกษตรกรไทยในประเทศญี่ปุ่น ความรู้และการฝึกหัดจากที่นั่นทำให้เธอสามารถพลิกฟื้นที่ดินจากการใช้สารเคมีสู่สวนออร์แกนิคได้ และเริ่มทำธุรกิจของตัวเองที่สามารถตัดพ่อค้าคนกลางออกไปจากวงจรได้
“ปลาและกุ้งจากสวนของเราแทบจะไม่มีความเสี่ยงจากโรคเพราะเราเลี้ยงแบบธรรมชาติ เราให้พวกเขาใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ แทนที่จะขายส่งไปยังตลาดร้านค้า เรานำปลามาเผาแล้วขายเอง ซึ่งได้กระแสตอบรับดีจากลูกค้า จึงขยายเป็นร้านอาหาร
เราเพิ่มเมนูจากวัตถุดิบคุณภาพจากสวนของเราให้ลูกค้า สิ่งที่ต้องคิดต่อมาคือชื่อที่จะให้ลูกค้าเรียกเราไปตลอด จึงนำจุดเริ่มต้น และชื่อสมาชิกครอบครัวมาเป็นไอเดียตั้งชื่อร้าน “ปลา” คือ “ปลานิล” ผลผลิตแรกที่ทำให้ร้านตั้งตัวได้ และ “วัน” มาจากชื่อคุณแม่ที่หาเลี้ยงชีพครอบครัวด้วยการทำสวน รวมกันเป็น “ปลาวัน Farm to Table”
“มองทุกอย่างให้เป็นโอกาส” แนวคิดเกษตรกรยุคใหม่ในสภาวะโลกร้อน
แม้จับทางการทำธุรกิจได้แล้ว แต่สภาพสิ่งแวดล้อมในช่วงหลายสิบปีนี้ก็สร้างความท้าทายให้กับธุรกิจคุณยุ้ยไม่น้อย ภาวะโลกร้อนกระทบต่อผลผลิตจากธรรมชาติ แต่การมองเห็นโอกาสและเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบที่ใครๆ อาจมองข้าม บวกกับการปรับตัวตามสภาพอากาศและฤดูกาลช่วยให้ธุรกิจโตต่อเนื่องได้
“อากาศร้อนทำให้มะพร้าวติดลูกยาก เราเลยหันมาเปิดตลาดขายน้ำจากช่อดอกมะพร้าวแทนเนื่องจากต้นมะพร้าวออกดอกตลอดเวลา ยุ้ยก็คุยกับเกษตรกรที่รู้จักกัน ให้ข้อมูลว่าสิ่งนี้ทำรายได้ได้ดี ขณะที่บ่อปลา บ่อกุ้ง ก็มีความเสี่ยงที่น้ำจะเสียเร็วขึ้น หรือติดโรค เราจึงลดความหนาแน่นจำนวนปลาและกุ้งที่เลี้ยงในบ่อ จาก 1,500 ตัว/ไร่ เหลือ 1,000 ตัว
ส่วนผักสดเราก็เลื่อนไปปลูกช่วงฤดูหนาวแทน เพราะอากาศที่ร้อนทำให้แมลงเยอะ ทำให้ผลผลิตออกมาไม่ดีเท่าที่ควร ในฝั่งธุรกิจร้านอาหาร เราก็ปรับรูปแบบบริการให้เข้ากับ takeaway มากขึ้น รวมถึงการขายผัก ขายเนื้อสัตว์ต่างๆ จากสวนเรา และสวนอื่นๆ ในละแวกร้าน”
การมองเห็นโอกาสและการปรับตัวทำให้ธุรกิจฟาร์มของคุณยุ้ยใช้เวลาไม่นานก็คืนทุนได้ บ่อกุ้งคืนทุนภายใน 3 เดือนแรก บ่อปลานิลใช้เวลา 1 ปี น้ำตาลมะพร้าวคืนทุนภายใน 5 เดือน ส่วนร้านอาหารรวมค่าปลูกสร้างและอุปกรณ์ต่างๆ รวม 3 ปี
กระแสตอบรับ Farm to Table บนโลกออนไลน์พุ่งด้วย 'คอนเทนต์ที่จริงใจ'
“เป็นเกษตรกรยุคปัจจุบันจะมีความรู้แค่เรื่องเกษตรไม่ได้ เราต้องพรีเซนต์ร้านให้เป็นด้วย เราเคยลงทุนกับการยิงแอดบนโซเชียลมีเดียแต่ผลตอบรับไม่ได้ดีเท่าที่ควร จนมาเปิดร้านบน TikTok Shop เมื่อสามปีที่แล้วทำให้คนรู้จักแบรนด์เรามากขึ้น ปัจจุบันเราสื่อสารกับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มนี้ 100% และทำให้รายได้ต่อปีเพิ่มขึ้น 25 เปอเซ็นต์”
คุณยุ้ยได้แรงบันดาลใจจากการเข้าร่วมโครงการที่ประเทศญี่ปุ่นที่เกษตรกรทำงานตั้งแต่ ‘ต้นน้ำถึงปลายน้ำ’ ผู้บริโภคจะเห็นกระบวนการที่มาของวัตถุดิบตั้งแต่ต้นทางจนจัดเสิร์ฟลงจาน คุณยุ้ยจึงมาปรับให้เข้าธุรกิจของตนผ่านการไลฟ์ โดยนำเสนอกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำที่น่าสนใจ รวมถึง tips and tricks ต่างๆในการทำการเกษตรและทำธุรกิจโดยไม่หวงความรู้ ทำให้ลูกซื้อตัดสินใจซื้อสินค้าอย่างรวดเร็วกว่าซื้อตรงจากหน้าร้าน
“ยุ้ยเรียนหนังสือไม่สูง อาศัยการเรียนรู้ด้วยตนเอง คนอาจไม่ได้เห็นค่าตรงนี้ แต่ TikTok Shop ทำให้เรามีตัวตน คนเริ่มเข้ามาดูจากความอยากรู้ ยุ้ยลงคอนเทนต์ 2-3 คลิปคนก็เริ่มติดตามและชื่นชมคอนเทนต์ของเรา เราจึงเริ่มถ่ายคลิปตามสวนต่างๆ ทั่วประเทศที่รู้จักผ่านโครงการ Young Smart Farmer ทั่วประเทศ
เราให้ความรู้ในสิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้ พอลูกค้ารู้สนใจก็ไปอุดหนุนผลผลิตและเข้าถึงวัตถุดิบคุณภาพที่สวนเหล่านั้นกันมากขึ้น นั่นทำให้ยุ้ยยิ่งรู้สึกว่าเรามี ‘คุณค่า’ ที่ช่วยเหลือคนอื่น และทำให้ครอบครัวภูมิใจ”
ธุรกิจที่ไม่ได้โฟกัสแต่ตัวเอง แต่คิดถึงคนอื่นด้วย
“เรานำเสนอคอนเทนต์ที่ให้พลังงานบวกและความอยากส่งต่อวัตถุดิบคุณภาพ สอดแทรกความรู้ในการทำสวน ผู้ชมก็ได้รับรู้ได้ถึงความจริงใจและความหวังดีของเราจึงติดตามกันมาเรื่อยๆ”
“ทุกวันนี้ยุ้ยจะถ่ายคลิปตามสวนต่างๆ เช่น สวนองุ่น บ่อปลา ฯลฯ สลับกับการไลฟ์ขายน้ำตาลมะพร้าวสดที่ไม่ผสมน้ำตาล คนดูจะได้เห็นกรรมวิธีของเราที่โปร่งใส และพูดคุยกับร้านได้โดยตรง ทำให้คนเชื่อถือในคุณภาพสินค้าและคอนเทนต์ของเรา”
“น้ำตาลมะพร้าวไม่ปนน้ำตาลทราย, น้ำตาลมะพร้าวน้ำหอมไม่ปนน้ำตาลทรายเคี่ยวแห้ง, น้ำช่อดอกมะพร้าว คือผลิตภัณฑ์หลักที่วางขายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ช่วงแรกๆ ขายยังไม่ค่อยดี แต่พอเริ่มไลฟ์บน TikTok Shop กลับขายได้ดีชนิดที่ผลิตไม่ทันออเดอร์
กลุ่มลูกค้าที่เข้ามามีทั้งซื้อดื่มบริโภคเองและนำไปใช้ต่อตามร้านอาหาร ร้านกาแฟ ออเดอร์จำนวนมากจาก TikTok Shop ทำให้ร้านต้องเพิ่มปริมาณวัตถุดิบโดยซื้อจากสวนอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียง ไม่เพียงเจอตลาดใหม่ แต่ทำให้แบรนด์สามารถเพิ่มสัดส่วนลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ จาก 15% เป็น 25% และยังสามารถกระจายรายได้ให้กับชาวสวนเหล่านั้นในราคาที่ดีกว่าเดิม”
แผนขยายธุรกิจบุกตลาดใหม่โต 200%
ความนิยมบนโลก TikTok สร้างโอกาสทางธุรกิจให้แบรนด์ปลาวัน Farm to Table ไม่ว่าจะเป็นการได้รับออฟเฟอร์ให้นำสินค้าขึ้นห้างสรรพสินค้า หรือการได้รับติดต่อจากตัวแทนในการส่งออกสินค้าไปขายยังประเทศแถบตะวันออกกลาง ซึ่งทำให้การเติบโตของครึ่งปีแรกของปีนี้สูงขึ้นเป็น 2 เท่า คุณยุ้ยจึงวางแผนขยับขยายกระบวนการผลิต เช่น การเพิ่มเตา, การสร้างโรงงาน ฯลฯ หากทำสำเร็จคาดว่าจะมีตัวเลขการเติบโตสูง 2-3 เท่า ในระยะ 2 ปีนี้
ในฝั่งธุรกิจร้านอาหารคุณยุ้ยวางแผนขยายเปิดร้านในกรุงเทพฯ โดยมองว่าลูกค้าจะชอบจุดขายที่เป็น Farm to Table ทานของสดหรือวัตถุดิบคุณภาพที่มาจากสวนโดยตรง ซึ่งคาดว่าจะโตเพิ่มขึ้นจาก 200,000 บาทต่อเดือนในปัจจุบัน เป็น 500,000 บาทต่อเดือน ส่วนหน้าร้านนั้นก็ยังเติบโตมากเพราะลูกค้ารู้จักร้านจากการไลฟ์บน TikTok Shop แล้วมาที่ร้าน โดยสัดส่วนลูกค้าจาก TikTok Shop มีถึง 95 เปอเซ็นต์ และ 5 เปอเซ็นต์มาจากร้านค้าและร้านอาหาร
Lifelong Learning สร้าง Lifelong Customer
“ไม่มีอะไรยากแค่ต้องลงมืออย่างต่อเนื่อง” ความสำเร็จวันนี้พิสูจน์สิ่งที่คุณยุ้ยลงมือทำในฐานะเกษตรกรรุ่นใหม่ที่พาร้านและแบรนด์เติบโตตามยุคสมัยได้โดยไม่ทิ้งจุดยืนของแบรนด์ที่ยังคงนำเสนอวัตถุดิบคุณภาพสู่ผู้บริโภค
“ตอนแรกเราไม่มีความรู้ในการทำร้าน เราก็ออกไปดูตัวอย่างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ ไปเข้าอบรบ เรียนคอร์สต่างๆ และนำความรู้เหล่่านั้นมาใช้ประกอบธุรกิจ ยิ่งช่วงที่มาเปิดร้านบน TikTok Shop เราต้องศึกษามากขึ้นทั้งกฎของแพลตฟอร์ม พฤติกรรมผู้บริโภค และทักษะการเล่าเรื่องในรูปแบบวิดีโอ
เราทำไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่คลิปมียอดชมหลักล้าน พร้อมกับผู้ติดตามและยอดออเดอร์ โดยแก่นหลักและทริคในการทำคอนเทนต์ของช่องปลาวัน Farm to Table มีดังนี้:
• นำเสนอข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์จากชาวสวนตัวจริง โดยทำคอนเทนต์ตามฤดูกาล
• ใส่จังหวะเซอร์ไพรส์และนำเสนอเรื่องราวที่ไม่น่าเบื่อเพื่อดึงดูดให้ผู้ชมอยู่จนจบคลิป
• เรียนรู้และพัฒนาจากฟีดแบคคนดู ศึกษาช่องอื่นๆ ที่นำเสนอคอนเทนต์ในรูปแบบเดียวกัน รวมถึงศึกษาเทคนิคการขาย และกฎระเบียบจาก TikTok Shop Academy
“เรารักการเป็นเกษตรกรและอยากทำให้มันเป็นอาชีพที่ยั่งยืนได้ การที่เราเลือกทำธุรกิจกับ TikTok Shop ทำให้เราสามารถควบคุมต้นทุนและคุณภาพสินค้า โดยไม่ต้องกังวลเรื่องจำนวนลูกค้าและฐานลูกค้า เพราะ TikTok Shop ช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ช่วยจัดการสต็อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เรายังสามารถเลือกขนส่งที่เหมาะกับธุรกิจเรา ทำให้เรามียอดขายสม่ำเสมอตลอดปี และขยายฐานลูกค้าสู่คนรุ่นใหม่
TikTok Shop เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยและโอบกอดคนตัวเล็กจริงๆ เพียงแค่เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ยุ้ยเชื่อเสมอว่าการทำธุรกิจต้องรู้จักลูกค้าของเราก่อน เริ่มต้นจากความจริงใจและการให้ โดย TikTok Shop มาช่วยให้ลูกค้าเราเห็นคุณค่าของสิ่งที่ได้ไป พวกเขาก็จะอยู่กับเราไปเรื่อยๆ กลายเป็น lifelong customer ของเราไปตลอด”
สามารถรับชมคอนเทนต์ ปลาวัน Farm to Table ได้ที่ช่อง: https://www.tiktok.com/@natsuda_yui