xs
xsm
sm
md
lg

“เกษตรศาสตร์ 80” ถั่วเหลืองปลูกหลังนาว่าที่พืชเศรษฐกิจราคาดีขายพันธุ์กิโลละ 30-35 บ. รายได้ดีกว่าข้าว!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แต่เมล็ดพันธุ์ราคามันสูงเลยนะบางทีเกษตรกรอาจจะขายได้ 30-35 บาทด้วยซ้ำ เพราะเมล็ดพันธุ์ราคามันจะสูงกว่าราคาที่ขายเป็นแปรรูปทั่วไป ดังนั้นเขาสามารถที่จะลงทุนได้ ทางมหาวิทยาลัยก็จะต้องลงไปช่วยพัฒนาให้เขาเป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ให้ได้”


ดร.เจตษฎา อุตรพันธ์ จากภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองสูงถึง 99% ก็ว่าได้ ตอนนี้พื้นที่ยังไม่ถึงแสนไร่ เกษตรกรเพียงแต่ว่าเขาขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ที่มันสามารถปรับตัวได้ในพื้นที่ที่เขาปลูก จริง ๆ พื้นที่ปลูกถั่วเหลืองยังมีมากในเขตภาคเหนือตอนล่าง ในเขตอุตรดิตถ์ สุโขทัย ปลูกกันเยอะแต่เกษตรกรได้เมล็ดพันธุ์มาอย่างไรก็คือ เขาก็เก็บกันเอง แล้วก็ไปซื้อจากพ่อค้าคนกลางกันเอง พันธุ์ที่เขาเก็บมาบางทีมันก็เป็นพันธุ์ปนเป็นพันธุ์คละอะไรต่าง ๆ ซึ่งมันอาจจะคุณภาพในเรื่องของเมล็ดพันธุ์ไม่ดีเท่าที่ควร “เพราะฉะนั้นเราก็พยายามจะหนีปัญหาตรงนี้ โดยมีการร่วมมือกับทางหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นกรมส่งเสริมการเกษตรที่จะมาช่วยกันผลิตเมล็ดพันธุ์ให้เป็นพันธุ์ที่มีคุณภาพดี และก็ตรงตามพันธุ์เพื่อที่จะไปส่งเสริมเกษตรกร” โครงการนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก.ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้พัฒนาถั่วเหลืองพันธุ์ “เกษตรศาสตร์80”ซึ่งเป็นพันธุ์ที่สามารถปรับตัวได้ดีในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างก็คือ เขตจังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร นอกจากนี้พันธุ์นี้ยังปรับตัวได้ดีและก็ให้ผลผลิตสูงในเขตภาคกลางด้วย เช่น จังหวัดลพบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี และก็ สิงห์บุรี

ถั่วเหลืองพันธุ์เกษตรศาสตร์ 80
“ฉะนั้นเนี่ยพันธุ์ถั่วเหลือง “เกษตรศาสตร์80” จึงเป็นพันธุ์ที่เหมาะสมสำหรับที่จะนำมาปลูกในพื้นที่ภาคกลาง ทดแทนการทำนาปรังก็คือ การปลูกหลังนา นอกจากพื้นที่ภาคกลางแล้วเรายังมีการนำพันธุ์เกษตรศาสตร์ 80 ไปปลูกทดสอบในจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น ในพื้นที่หลังนาเช่นเดียวกันอันนี้ก็ให้ผลผลิตดีด้วย ก็คือให้ผลผลิตประมาณ 350 กิโลกรัม/ไร่ และนอกจากให้ผลผลิตดีแล้วพันธุ์นี้ก็จะมีความเหมาะสมก็คือ สามารถนำไปแปรรูปได้ทั้งอุตสาหกรรมน้ำมัน อุตสาหกรรมน้ำนมถั่วเหลือง เนื่องจากว่ามีโปรตีนค่อนข้างสูง(ประมาณ40%) และก็มีน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ที่ดีด้วย”

ข้อดีคือระยะสุกแก่ ฝักจะไม่แตก เมล็ดถั่วเหลืองจะไม่ร่วงหล่นก่อนทำการเก็บเกี่ยว
อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญก็คือ พันธุ์นี้เมื่อถึงระยะสุกแก่ เมล็ดจะไม่ตกหล่น ฝักจะไม่แตก เพราะฉะนั้นเกษตรกรสามารถที่จะปล่อยให้เมล็ดแห้งได้ในแปลง เมล็ดก็จะแห้งแล้วก็สามารถที่จะใช้รถเกี่ยวนวดได้ นอกจากผลผลิตที่เหมาะสมสำหรับการนำไปแปรรูปในอุตสาหกรรมต่าง ๆ แล้วถั่วเหลืองยังเป็นพืชที่สามารถที่จะช่วยปรับปรุงบำรุงดินได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นเกษตรกรที่ปลูกถั่วเหลืองก็จะมีดินที่อุดมสมบูรณ์แล้วพอถึงรอบปลูกพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ อย่างเช่น ข้าว ยังช่วยลดการใช้ปุ๋ยได้อีกด้วย

สามารถใช้เครื่องเกี่ยวนวดแบบเดียวกับข้าวเพื่อช่วยทำการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองได้ง่ายและสะดวก
จากเดิมทีเกษตรกรที่ปลูกถั่วเหลืองในบ้านเราจะใช้พันธุ์เป็น “พันธุ์พื้นเมือง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคกลางซึ่งพันธุ์เหล่านี้จะมีปัญหาก็คือ เมล็ดร่วงหล่น ฉะนั้นผลผลิตก็จะเสียหายซึ่งผลผลิตเฉลี่ยของเกษตรกรโดยทั่วไปก็จะอยู่ประมาณ 250 กิโลกรัม/ไร่ แต่พันธุ์นี้เนื่องจากว่ามันมีเวลาสุกแก่แล้วมันไม่แตก ฉะนั้นมันก็ให้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น(เพราะไม่ร่วงหล่น) สูงถึงเกือบ 20% เลย(หรือเกิน 20%ด้วยซ้ำ) เพราะว่าบางครั้งผลผลิตมันเคยไปถึง 350-400 กิโลกรัม/ไร่“จริง ๆ แล้วพื้นที่ภาคกลางเป็นพื้นที่ที่มีผลิตภาพในการปลูกถั่วเหลืองเนื่องจากว่า เป็นพื้นที่ทุ่งนาขนาดใหญ่ แล้วที่สำคัญผมก็มองเห็นว่าถั่วเหลืองน่าจะมาเป็นพืชที่จะทดแทนการทำนาปรังได้ แล้วตอนนี้เราก็กำลังที่จะขยายผลถั่วเหลืองพันธุ์นี้ร่วมกับทางหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กรมส่งเสริมการเกษตร กองทุนหมู่บ้านฯ และก็ ธ.ก.ส. ที่จะพยายามลดพื้นที่นาปรังโดยปลูกพืชที่มีศักยภาพอย่างเช่น ถั่วเหลือง เราก็พยายามเชื่อมโยงกับตลาดก็คือผู้ที่จะมารับซื้อให้กับเกษตรกร”นี่ก็เป็นจุดที่เมล็ดพันธุ์นี้จะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงการปลูกพืชหลังนา


“ข้าวก็ราคาไม่จูงใจสักเท่าไรแต่ถั่วเหลืองมันก็ยังโอเคราคาตลาดทั่วไป19-20 บาท เกษตรกรก็โอเคนะ ถ้าได้ราคานี้หรือถ้าเราได้ผลผลิต 400 กก./ไร่ ขณะที่ต้นทุนผลิตจริง ๆ เกษตรกรใช้ไม่ถึง 3,000 หรือ 3,000 กว่าบาท/ไร่ แค่นั้นเอง แล้วก็ปลูกทีหนึ่งเป็น 20-30ไร่” ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถเผยแพร่เมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง “เกษตรศาสตร์ 80” ให้กับเกษตรกรสามารถนำไปปลูกได้คร็อปแรกในช่วงของฤดูกาลหลังนาปีหน้าเป็นต้นไป อีกทั้งในระยะแรกนี้ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังต้องการที่จะเปิดรับแปลงผลิตร่วมสำหรับการผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองเกษตรศาสตร์ 80 เพื่อที่จะขยายต่อไปให้กับเกษตรกรได้ปลูกสร้างรายได้หลังนากันอย่างเพียงพอตามความต้องการ"เราวางเป้าไว้ที่ 1,200 ไร่ เบื้องต้นในเฟสแรกครับ และก็เราก็จะผลิตต่อเนื่องในต้นฝนและก็ปลายฝนแล้วปีหน้าก็จะได้ขยับทวีคูณเลย เรามองไว้ระดับ 10,000 ไร่ แต่อย่างนี้ครับเราก็พยายามพัฒนาเกษตรกรให้เป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์เองด้วย เพื่อที่เขาจะได้พึ่งพาตัวเองต่อไปในอีกทางหนึ่ง"โดย ดร.เจตษฎายังบอกด้วยหากเกษตรกรสนใจเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองเกษตรศาสตร์80 หรือต้องการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ด้วยสามารถติดอาจารย์ได้โดยตรงที่เบอร์โทร. 086-397-6704

การแถลงข่าวงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 นำโดยผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง และตัวแทนภาคีเครือข่ายเจ้าภาพร่วมในการจัดงาน
พบกับ “นวัตกรรมเกษตรเพิ่มรายได้” อย่างเช่น ถั่วเหลืองเกษตรศาสตร์ 80 และอีกหลาย ๆ งานวิจัยที่น่าสนใจและใช้ได้จริง! มีมากกว่า 1,000 ผลงานที่นำมาจัดแสดงให้กับคนที่สนใจได้แวะไปช้อปเทคโนโลยี & ความรู้กันอย่างจุใจรวมมาไว้อยู่ภายในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ2568” หรือThailand Research Expo 2025 ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Research for All เชื่อมต่ออนาคตไทย ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” ระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น