xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) SME ต้องรู้! เปิด 5 เทรนด์ 5 แนวทางธุรกิจโตแรงต่อเนื่องปี 2568

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิด 5 เทรนด์ 5 แนวทางธุรกิจปี 2568 ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องรู้ไว้เพื่อเป็นแนวทางในการเริ่มต้น หรือต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จะมีธุรกิจอะไรบ้างไปดูกัน


1.“Pet Parent” ธุรกิจสัตว์เลี้ยง

ในปี 2025 สัตว์เลี้ยงจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และมีแนวโน้มที่ครอบครัวจะมีสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกครอบครัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยรายงานของ Grand View Research คาดว่าตลาดสัตว์เลี้ยงทั่วโลกจะเติบโตด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี 9% ตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2030 จะเห็นการเพิ่มขึ้นของความต้องการบริการเกี่ยวกับสุขภาพสัตว์เลี้ยง สินค้าพรีเมียม และการดูแลแบบเฉพาะทาง

แนวทางธุรกิจได้แก่

1.พัฒนาผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงที่เน้นคุณภาพสูง เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ หรือบริการพรีเมียม
2.นำเทคโนโลยี เช่น แอปติดตามสุขภาพสัตว์เลี้ยง มาเพิ่มคุณค่าและประสบการณ์ลูกค้า
3.จัดสรรโซนรองรับสัตว์เลี้ยงในสถานที่บริการต่างๆ พร้อมมาตรฐานความสะอาดที่ชัดเจน เพื่อสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับผู้ปกครองสัตว์เลี้ยงและผู้ใช้บริการคนอื่นๆ
4.การสร้างระดับมาตรฐานเดียวกัน เพื่อวัดความสะอาดให้กลุ่มธุรกิจบริการที่ Pet-friendly และสามารถออกใบรับรองให้บริการและสถานที่ได้จะสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าผู้ใช้บริการ
5.ธุรกิจประกันสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ในปัจจุบันมีอยู่แล้ว แต่ต้องหาวิธีที่จะระบุเลขทะเบียนสัตว์เลี้ยงที่เป็นมาตรฐานใช้ข้อมูลร่วมกันได้ เพื่อให้ประวัติการรักษาของสัตว์เลี้ยงมีฐานข้อมูลเดียวกัน และเป็นการป้องกันการสับเปลี่ยนตัวสัตว์เลี้ยง ซึ่งหากภาครัฐมีส่วนร่วมด้วยจะช่วยให้ระบบมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
6.การเติมฝันสำหรับกลุ่มคนที่ต้องการมีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเอง แต่ติดข้อจำกัดต่างๆ การสร้างเทคโนโลยีประเภท Robot ที่มี AI สร้างพฤติกรรมแบบสัตว์เลี้ยงจริงๆ ให้เจ้าของสามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยง Robot ยุคใหม่ที่เหมือนจริงมากๆ ได้


2.ผู้สูงอายุดิจิทัล

UN ระบุว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างเต็มตัวแล้วตั้งแต่ปี 2021 และคาดว่าในปี 2030 จะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นถึง 25% ของประชากรทั้งหมด ดังนั้นสังคมจึงต้องการบริการดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีดิจิทัลที่ใช้งานง่ายจะมีบทบาทสำคัญ ทั้งในด้านการให้คำปรึกษาสุขภาพ และบริการต่างๆ ที่รองรับการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร ผู้สูงอายุเปิดรับการใช้งานผ่านเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ

แนวทางธุรกิจได้แก่


1.สร้างผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ใช้งานง่ายและเหมาะกับผู้สูงอายุ เช่น เครื่องมือตรวจสุขภาพดิจิทัล
2.ลงทุนในแอปพลิเคชันและบริการดูแลสุขภาพที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวก
3.ปรับปรุงพื้นที่บริการให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ มีความปลอดภัย และมีอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวก
4.งานบริการที่เหมาะกับสังคมสูงวัย เช่น บริการนำเที่ยวที่เหมาะกับผู้สูงอายุ มีการให้เวลาที่มากกว่าบริการทั่วๆ ไป และสะดวกสบายมากขึ้น
5.รูปแบบการเช่าซื้อ หรือทำสัญญาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ เนื่องจากปัจจุบันไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดต่ำลง หมายความว่าผู้สูงอายุอาจปราศจากทายาท ความต้องการการดูแลในบั้นปลาย และความไม่จำเป็นต้องเก็บทรัพย์สินเอาไว้หลังจากที่เสียชีวิต ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการด้วยรูปแบบของที่พักอาศัยที่มาพร้อมกับการดูแล และการรักษาพยาบาล
6.งานบริการด้านยานพาหนะ สามารถพิจารณาการเช่ายานพาหนะเป็นครั้งคราว หรือรถยนต์พร้อมคนขับ หรือการทำสัญญาซ่อมบำรุงยานพาหนะในรูปแบบใหม่ๆ
7.ธุรกิจเกี่ยวกับความสงบในบั้นปลาย ที่จะพาผู้สูงอายุไปพบความสุขสงบทางใจก่อนที่จะเดินทางข้ามไปอีกเส้นทางหนึ่งหลังสิ้นชีวิตบนโลกปัจจุบัน เพื่อให้การปล่อยวางเป็นเรื่องง่ายและการเดินทางจากโลกไปไม่ใช่เรื่องน่ากลัว อาจใช้เทคโนโลยีเช่นแว่น VR เข้ามาช่วยในการเล่าเรื่องเพื่อให้บั้นปลายของผู้สูงวัยที่ปลายทางอันสุขสงบ


3.ธุรกิจพลังงานสะอาด สู่อนาคตที่ยั่งยืน

ในปี 2025 นี้พลังงานสะอาดจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย International Energy Agency (IEA) รายงานว่า พลังงานหมุนเวียนจะครองตลาดการผลิตพลังงานถึง 50% ภายในปี 2025 เนื่องจากความต้องการในการลดคาร์บอน รวมถึงวิทยาการ นวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยลดการใช้พลังงาน หรือผลิตพลังงานสะอาดด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งเทรนด์นี้เป็นสิ่งที่พัฒนามาจากการที่สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้ผู้บริโภคตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

แนวทางธุรกิจได้แก่


1.ลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อลดต้นทุนพลังงานในระยะยาว
2.ปรับกลยุทธ์การผลิตเพื่อลดคาร์บอน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
3.ธุรกิจใหม่ๆ ที่ต่อเนื่องมาจากนวัตกรรมพลังหมุนเวียน เช่น การกำจัดแบตเตอรี่ การซ่อมบำรุงยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ การกำจัดแผงโซลาร์เซลล์ หรือนวัตกรรมการรีไซเคิลต่างๆ


4.AI และระบบอัตโนมัติขับเคลื่อนอนาคต

AI และระบบ Automation จะเข้ามามีบทบาท และธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้อมูลของ McKinsey ชี้ว่าประมาณ 60% ของบริษัททั่วโลกจะมีการใช้ AI ในกระบวนการธุรกิจภายในปี 2025 เพื่อการตัดสินใจที่มีข้อมูลและการบริการที่ทันสมัย ส่วน Gartner คาดว่าภายในปี 2025 ประมาณ 70% ของกิจกรรมด้านการตลาดทั้งหมดจะเป็นระบบอัตโนมัติ โดย AI จะถูกใช้เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ปรับปรุงกระบวนการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า การใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจะมีความสำคัญและมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคอย่างมาก

แนวทางธุรกิจได้แก่


1.นำ AI และระบบอัตโนมัติมาใช้ในกระบวนการทำงาน เช่น ระบบ CRM หรือ Chatbot เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้า
2.เก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงการบริการ และเพิ่มความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภค
3.ธุรกิจที่ใช้ AI เป็นที่ปรึกษาให้ตัวลูกค้าเอง เสมือนลูกค้าได้คุยกับตัวเอง โดยใช้การพยากรณ์แนวคิดของลูกค้า จากพฤติกรรมที่เก็บข้อมูลได้ และสร้างบริการให้ลูกค้าปรึกษากับตัวเองในการตัดสินใจสำคัญๆ ในชีวิต


5.สังคมไร้เงินสด และการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน

จากการสำรวจของ Visa มีตัวเลขที่ชี้ว่าประชากรไทย 80% ใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดและสามารถอยู่ได้โดยไม่จับเงินสดเลยเฉลี่ยยาวนานถึง 9 วัน 96% ใช้โมบายแบงกิ้งในการทำธุรกรรม 97% ใช้โมบายแบงกิ้งมากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และ 54% เชื่อว่าไทยจะเป็นสังคมไร้เงินสดภายใน 4 ปี การเติบโตของการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนยังคงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญในปี 2025 โดยเฉพาะการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน และอินเดีย มีข้อมูลจาก eMarketer รายงานว่า การค้าข้ามพรมแดนคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องกว่า 15% ในตลาดเอเชียแปซิฟิกในปี 2025 ธุรกิจจึงควรปรับตัวโดยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงตลาดเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว

แนวทางธุรกิจได้แก่

1.เตรียมพร้อมรองรับช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย และเพิ่มประสิทธิภาพการรับชำระเงินเพื่อให้เงินหมุนเวียนในธุรกิจได้รวดเร็ว
2.พัฒนาโลจิสติกส์และบริการจัดส่งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน
3.สร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ให้มีจุดเด่น และมีสินค้าทดแทนได้ยาก เพราะการค้าข้ามพรมแดนอาจจะเจอคู่แข่งคนสำคัญ ถ้าเราไม่ปรับตัว
4.มุ่งสู่ความเป็น IoT ที่สมบูรณ์ เนื่องจากความไว้ใจในเทคโนโลยีและการจับจ่ายแบบไร้เงินสด ดังนั้น การพัฒนาแอปพลิเคชันไปกับอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้สามารถสั่งซื้อของออนไลน์ได้ในเวลาที่ผู้บริโภคต้องการ โดยไม่ต้องให้ผู้บริโภคคอยมอนิเตอร์เองเพียงแต่ตั้งค่าไว้ตั้งแต่แรก ก็เป็นทางแนวทางที่น่าสนใจ

ที่มา : finbiz by ttb



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น