xs
xsm
sm
md
lg

เอ็มกรุ๊ป จับมือ มทร.พระนคร สร้างอาชีพเงินล้าน สานฝันคนรุ่นใหม่ทำงานบนเรือสำราญ รองรับการเติบโตท่องเที่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธุรกิจเรือสำราญเติบโตตามการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว สร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับผู้บริการด้านนี้ ส่งผลให้ อาชีพพนักงานบริการบนเรือสำราญ อีกหนึ่งอาชีพที่มีการกล่าวถึงกันมาก ในกลุ่มของแรงงานคนรุ่นใหม่ เพราะเป็นอาชีพที่ผลตอบแทนค่อนข้างสูงมาก เงินเดือนหลักหลายหมื่น ไปจนถึง แสนบาท และได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวแบบไม่ต้องเสียเงิน ทำให้แรงงานคนรุ่นใหม่ หลายคนวางเป้าหมายที่มีโอกาสไปทำงานบนเรือสำราญ


สานฝันคนรุ่นใหม่ อาชีพเงินล้านบนเรือสำราญ


ด้วยเหตุนี้เอง ทางบริษัท เอ็ม โกลบอล ทาเล้นทส์ จำกัด (เอ็มกรุ๊ป ) จับมือ กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) จัดอบรมหลักสูตร การพัฒนาบุคลากรเพื่องานบริการโรงแรมและเรือสำราญ สานฝันของหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะได้มีโอกาสท่องเที่ยวรอบโลกแล้ว ยังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ถึงกับมีคำกล่าวว่า “พนักงานเรือสำราญ อาชีพเงินล้านของคนชอบเที่ยวและรักการเก็บเงิน”

สำหรับ เรือสำราญ เป็นธุรกิจท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างมาก ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งการท่องเที่ยวบนเรือสำราญนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นธุรกิจนี้จึงต้องการพนักงานที่มีความสามารถและมีใจรักบริการ ในระดับที่ดีมาก เพราะนักท่องเที่ยวที่ยอมจ่ายแพงก็คาดหวังจะได้รับบริการและความพอใจที่ดีที่สุด

การแข่งขันธุรกิจเรือสำราญ แข่งกันที่งานบริการ

นอกจากนี้ การท่องเที่ยวบนเรือสำราญยังมีการแข่งขันสูง เพราะนอกจากจะแข่งกันเองระหว่างธุรกิจเรือสำราญด้วยกันแล้ว ยังต้องแข่งกับธุรกิจท่องเที่ยวบนฝั่งอีกด้วย ดังนั้นจึงต้องมีการคัดคนหรือพนักงานที่จะขึ้นไปทำงานบนเรืออย่างเข้มงวด จากความสำคัญดังกล่าว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) จึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ร่วมกับ บริษัท เอ็ม โกลบอล ทาเล้นทส์ จำกัด เพื่อเปิดหลักสูตรการพัฒนาบุคลากรเพื่องานบริการโรงแรมและเรือสำราญ รุ่นแรก ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จากนั้น ได้เฟ้นหาผู้ผ่านเข้ารับการฝึกอบรม 11 คน ซึ่งแต่ละคนมีคุณสมบัติครบ และต่างมีที่มาแบบไม่ธรรมดา แต่ปลายทางทุกคนเหมือนกัน คือต้องการสานฝัน ได้ท่องเที่ยวและมีรายได้ก้อนโต


สร้างแรงงานคุณภาพรองรับการเติบโตธุรกิจ

ดร.ณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดี มทร.พระนคร กล่าวว่า ธุรกิจภาคการท่องเที่ยว การแพทย์ ธุรกิจโรงแรมที่พัก สายการบิน และ เรือสำราญ ล้วนต้องพึ่งพางานจากภาคบริการ ดังนั้นการบริการในภาคการศึกษาจึงมีความสำคัญ ต้องก้าวทันการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองต่อการพัฒนาด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมบริการที่มีพลวัตและการเติบโตซึ่งสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ สำหรับธุรกิจการท่องเที่ยวเรือสำราญในปัจจุบันเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งของโลกที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มทร.พระนคร เล็งเห็นความสำคัญในการผลิตบุคลากรไปทำงานบนเรือสำราญ ทั้งนี้การท่องเที่ยวเรือสำราญนอกจากจะสร้างรายได้ให้กับประเทศ ในมิติของบุคลากรที่ทำงานบนเรือก็มีผลตอบแทนสูงกว่าการทำงานในประเทศถึง 7 เท่า และยังได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทางของเรือสำราญอีกด้วย

ผศ.ดร.ยุทธภูมิ สุวรรณเวช คณบดีคณะศิลปศาสตร์ มทร.พระนคร กล่าวว่า คณะศิลปศาสตร์ของมหาวิทยาลัย มีสาขาวิชาการโรงแรมและธุรกิจบริการที่จะรองรับการพัฒนาหลักสูตรและการฝึกอบรมในครั้งนี้ ซึ่งตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเดินเข้าสู่งานบริการภาคแรงงานอย่างรวดเร็ว และมีรายได้ทันที มหาวิทยาลัยได้สนับสนุนบุคลากร การใช้ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ทางเอ็มโกลบอลทาเล้นทส์เตรียมหลักสูตรการฝึกอบรม วิทยากรผู้เชี่ยวชาญ สถานที่ฝึกงานเมื่อนักศึกษาเรียนภาคทฤษฎีและปฏิบัติเสร็จแล้ว รวมถึงประสานงานกับบริษัทเรือสำราญชั้นนำของโลกเพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษาได้ทำงานและท่องโลกตามความฝัน


ธุรกิจผู้ให้บริการจัดเตรียมแรงงานทำงานบนเรือสำราญ

นายชีวารัตน์ แสงชูโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม โกลบอล ทาเล้นทส์ จำกัด ผู้ให้บริการจัดหาแรงงานบนเรือสำราญ กล่าวว่าบริษัทมีวิทยากรมากประสบการณ์ ทั้งเคยทำงานกับบริษัทเรือสำราญระดับโลกและเป็นอาจารย์ฝึกอบรมงานบริการในสถาบันที่สอนการโรงแรมและเรือสำราญมาอย่างยาวนาน หลักสูตรที่ร่วมพัฒนากับมทร.พระนครจะเน้นหนักไปที่การเรียนการสอนวิชา Food & Beverage หรือ อาหารและเครื่องดื่ม และ Housekeeping หรือ วิชาแม่บ้าน ใช้เวลาในการเรียนทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติแบบเข้มข้นในห้องเรียนเพียง 1 เดือน จากนั้นจะส่งนักศึกษาไปฝึกงานกับโรงแรมระดับ 5 ดาวเป็นเวลา 3 เดือน นอกจากนี้ยังแนะแนวการสอบสัมภาษณ์กับตัวแทนของบริษัทเรือสำราญให้ด้วย โดยผู้ที่มีสิทธิ์ลงเรือสำราญจะต้องผ่านงานกับโรงแรมระดับ 5 ดาวเป็นระยะเวลา 6 เดือนก่อน

ด้านคุณภิญญ์ชยุตม์ อัครกุลศานต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็มกรุ๊ป โฮลดิัง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำเรื่องการศึกษาและทำให้คนที่ไม่มีโอกาสได้มีโอกาสที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นมา เราไม่สนใจว่าจะได้เงินเท่าไรจากค่าสมัคร แต่เราสนใจที่ทุกคนมีโอกาสที่จะก้าวหน้า มันเป็นความฝันที่เราต้องการถ่ายทอดให้กับทุกคน ทุกรุ่นที่จะมาเรียน เอ็มกรุ๊ป โฮลดิ้ง เราเน้นทำธุรกิจบนหลักความไม่โลภและแบ่งปัน ให้โอกาสคนได้มีโอกาสได้เดินตามฝันของตัวเอง ซึ่งการอบรมครั้งนี้จะเห็นว่า เด็กมีความฝัน แต่เขาขาดโอกาส เขาไม่มีเงิน ไม่มีความพร้อม การที่เราได้ให้โอกาสคน มันเป็นความภาคภูมิใจ


สานฝันคนไม่มีโอกาส ได้มีโอกาสทำงานสร้างรายได้

สำหรับผู้เข้ารับการอบรมทั้ง 11 คน แต่ละคนมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือสานฝันต่อยอด ให้ได้ทำงานที่ดี ได้ท่องเที่ยวรอบโลก และสามารถมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ดูแลครอบครัวได้ และบางคนก็สามารถนำไปพัฒนาธุรกิจของตัวเองได้อีกด้วย เราลองมาไล่เลียงความมุ่งมั่นตั้งใจของแต่ละคนกัน

เริ่มจาก ชญานิพฐ์ ผิวนวล หรือ เจน สาวน้อย จาก จ.อุดรธานี เคยทำงานเป็นผู้ช่วยทันตแพทย์ สอบติดคณะสาธารณสุขศาสตร์ แต่ค่าเรียนสูง จึงดร็อปเรียนไว้ก่อน พอเห็นหลักสูตรเรือสำราญ น่าสนใจจึงลองสมัครเข้ามา เมื่อได้รับการคัดเลือก จึงตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อเข้ารับการอบรมแบบเต็มเวลา และโดยส่วนตัวเจนบอกว่า เป็นคนรักงานบริการ และเชื่อว่าหลักสูตรเรือสำราญ จบออกมาแล้วได้ทำงานที่มีรายได้ที่สูงขึ้น

กัญญ์ญภัสส์ ผลิวรรธนะ หรือของขวัญ เจ้าของธุรกิจโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ มาสมัครพร้อมกับน้องสาว กัลยณัฎฐ์ ผลิวรรธนะ หรือ ไอริส อดีตแอร์โฮสเตสสายการบินชื่อดัง ซึ่งแม้ว่าสองพี่น้องจะมีความพร้อมในเรื่องของฐานะและธุรกิจ แต่ทั้งสองก็รักการเดินทาง และมีความฝันที่ท่องเที่ยวรอบโลก จึงสนใจเข้ามาเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ถือเป็นการเปิดโลกทรรศน์ และให้โอกาสตัวเองได้หาประสบการณ์ เพื่อนำมาพัฒนาธุรกิจในอนาคต ที่สำคัญครอบครัวพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ เพราะทุกคนมองว่าเป็นทีมเดียวกัน


สอบติดธรรมศาสตร์ยากจนไม่ได้เรียน เป็นแคดดี้
สานฝันทำงานเรือสำราญหวังพ้นความยากจน

กฤษณา การดำริห์ (ใบเตย) หนึ่งในผู้เข้าอบรม ที่มีประวัติชีวิตน่าสนใจ ซึ่งเมื่อทุกคนได้ฟังถึงกับน้ำตาซึม เนื่องจากใบเตย สอบติดคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ด้วยฐานะทางบ้านยากจน และมีน้องอีก 2 คนต้องดูแล ใบเตยจึงต้องเสียสละ ลาออกมาหางานทำเป็นแคดดี้ เพื่อให้มีรายได้ส่งครอบครัว ใบเตยบอกว่า ความจริงเธออยากเรียนและทำงานไปด้วย และคิดว่าการถ้าเรียนหลักสูตรเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจะมีรายได้ดี จึงไปหาสมัคร แต่ก็จะเป็นการเรียนต่อเนื่อง 4 ปี จึงไม่สามารถเรียนได้ทั้งที่ใจก็อยากได้ใบปริญญามาให้ครอบครัว

ใบเตย เล่าว่า บังเอิญมาเจอประกาศรับสมัครหลักสูตรนี้รู้สึกว่า ความฝันเราเริ่มอยู่ไม่ไกล จึงได้ลองอินบ๊อคซ์เข้าไป สอบถามในเพจ เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของการรับสมัครแล้ว อาจารย์บอกว่าให้ลองเข้ามาสัมภาษณ์ดู แล้วค่อยตัดสินใจอีกที ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าอาจจะมาขอดูก่อน เพราะไม่มีเงินสมัคร อาจต้องไปทำงานเก็บเงินสักก้อนแล้วค่อยมาเรียน เพราะไหนจะค่าที่พัก และอบรมต่อเนื่อง 4 เดือน รายได้ที่ต้องส่งครอบครัวก็หายไปด้วย จึงได้เจรจากับอธิบการบดีฯ ท่านบอกว่ามีทุนให้ และโชคดีที่มีญาติให้การช่วยเหลือในช่วงที่อบรม และทางเอ็มกรุ๊ปให้ทุนพร้อมค่าที่พัก เพื่อสานฝันเธอได้เป็นจริง


ด้าน “นวธร วรปกรชัยณ์” (ชัดเจน) ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ เขายอมรับว่าตัดสินใจยากมากที่จะลาออกมา เนื่องจากงานที่ทำมีรายได้ค่อนข้างดี (มากกว่า 6 หลัก) และถึงแม้ทางต้นสังกัดจะอนุญาตให้ลาเรียนได้ แต่ใจอยากทำงานเรือสำราญ จึงตัดสินใจลาออก ดังนั้นจากนี้ไป จึงต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้รู้สึกว่าเราตัดสินใจผิด

ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจของผู้เข้ารับการฝึกอบรม แต่ยังขาดทุนทรัพย์ ทางบริษัท เอ็ม กรุ๊ป โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) โดย คุณภิญญ์ชยุตม์ อัครกุลศานต์ ประธานกรรมการบริหาร จึงได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาฯ โดยแบ่งเป็น ผู้ที่ได้รับทุนเต็มจำนวน 3 คน รับทุน 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าเล่าเรียนจำนวน 2 คน และ 30 เปอร์เซ็นต์ของค่าเล่าเรียนอีกจำนวน 2 คน รวม 7 คน เป็นเงินทั้งสิ้น 139,600 บาท โดยทั้ง 11 คน ได้เข้ารับการอบรมวันแรกเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมาและจะใช้เวลาในภาคทฤษฎี ตั้งแต่วันจันทร์ - วันเสาร์ เรียนตั้งแต่ 09.00 – 18.00 น. โดยมีคณาจารย์จากมทร.พระนคร และผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจากบริษัทเอ็ม โกลบอล ทาเล้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ เอ็ม กรุ๊ป โฮลดิ้ง เพื่อสานฝันหนุ่มสาวทำงานรายได้สูงและได้ท่องเที่ยวทั่วโลก


กำลังโหลดความคิดเห็น