ในช่วงนี้ ถ้าไม่พูดความฮอตของกระแส ข้าว 10 ปี ก็ไม่ได้ เพราะหลายคนกังวลกับการรัฐบาลออกมาพูดถึงคุณภาพข้าว 10 ปี ที่นำมาออกมาประมูลขาย วันนี้ ได้สัมภาษณ์ ผู้ประกอบการข้าวบรรจุถุง จังหวัดชุมพร ได้ออกมาให้ความเห็นถึงคุณภาพของข้าว ที่นำมาบริโภคได้ และที่หลายคนเรียกว่า “ข้าวเก่า” และนิยมบริโภคเพราะให้รสชาติที่อร่อย ต้องเป็นอย่างไร และอายุของข้าวต้องเท่าไหร่
นายชาญชัย ชุมเกษียร หจก.พ่อกำนันธัญญา เจ้าของผลิตภัณฑ์ข้าวบรรจุถุง อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เล่าว่า ที่ผ่านมา คนไทยนิยมบริโภคข้าวเก่าเพราะให้รสชาติดีกว่า และหุงขึ้นหม้อกว่า ต่างจากข้าวใหม่ที่เมื่อนำมาหุงจะทำให้ข้าวเหนียวติดกันและแฉะไม่อร่อย คนไทยไม่ชอบกินข้าวที่เปี๊ยก หรือ แฉะ ชอบกินข้าวนิ่มไม่แฉะ ทำให้ “ข้าวเก่า” จะได้รับความนิยม พ่อค้าข้าวก่อนจะนำข้าวออกมาขายก็ต้องเก็บข้าวไว้ก่อน หรือ ชาวนาเองก็ยังต้องเก็บข้าวเอาไว้ในยุงฉ่าง ก่อนนำมาบริโภค ส่วนหนึ่งเพื่อลดความชื้นด้วย ซึ่งข้าวใหม่ที่นิยมบริโภคกัน ส่วนใหญ่จะนำไปทำข้าวต้มจะอร่อยและหอม ซึ่งคนจีนที่ชื่นชอบการกินข้าวต้ม ก็จะนิยมบริโภคข้าวใหม่
อย่างไรก็ดี ข้าวเก่าที่พูดถึง ไม่ได้หมายถึงข้าว 10 ปี ที่กำลังตกเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ซึ่งข้าวเก่าที่คนทำข้าว หรือโรงสี ผลิตออกมาขาย ต้องเป็นข้าวที่อายุไม่เกิน 1-2 ปี เท่านั้น เพราะถ้านานกว่านั้น เมตาบอลิซึม สารอาหารในเม็ดข้าวค่อยหมดไป ข้าวอายุ 10 ปี ไม่ต้องพูดถึง คุณภาพไม่มีเมตาบอลิซึมหายไปหมดแล้ว นำมาบริโภคไม่ได้สารอาหารอะไรต่อร่างกาย และยิ่งไปกว่านั้น คือ การเก็บข้าวไว้แค่ 6 เดือนขึ้นไปก็ต้องเจอปัญหามอดที่ไม่ว่าเราจะเก็บดีแค่ไหนก็ต้องเจอปัญหาเรื่องมอด
ที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดี ว่า ผู้ผลิตข้าวหรือ โรงสีใช้การพ่นสารเคมี เพื่อป้องกันหรือ กำจัดมอดที่จะมาทำลายเม็ดข้าว ซึ่งการฉีดพ่น ถ้าเป็นข้าวจำนวนมาก เป็นหมื่นเป็นแสนตัน การฉีดพ่นต้องทำเดือนหนึ่งหลายครั้ง และสารเคมีที่ฉีดพ่น อยู่ในเม็ดข้าวไม่เหมาะแก่การนำมาบริโภค ซึ่งส่วนตัวเป็นผู้ผลิตรายย่อย ไม่ได้ใช้การฉีดพ่นสารเคมี แต่ใช้การร่อนข้าวบนตะแกรงใส่ลงในน้ำช่วยจัดการกับมอดได้โดยไม่ต้องพึงสารเคมี โดยมากผู้ผลิตรายย่อย จะใช้วิธีนี้ ใช้ได้การข้าวเก็บไว้จำนวนไม่มาก ซึ่งส่วนตัวใช้วิธีนี้ ทำกับข้าวประมาณวันละไม่เกิน 30-40 ตัน เท่านั้น
ในส่วนของข้าว 10 ปีที่รัฐบาล เก็บไว้ จะนำไปทำอะไรได้บ้าง โดยส่วนตัวมองว่า ไม่น่าจะนำไปบริโภคได้แล้ว นอกจากจะเอาไปผลิตเป็นพลังงาน ได้ เพราะถ้าไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะหมู เพราะสารเคมีที่พ่นบนเม็ดข้าว เมื่อหมูเองจะไวต่อปฏิกริยา สารเคมีเหล่านี้มาก ทำให้หมูอาจตายได้ หรือ ทำอาหารไก่ แม้ว่าไก่อายุสั้น เลี้ยงไม่กี่เดือนก็นำมาฆ่าแล้ว พอเรากินไก่ที่กินอาหารสัตว์ที่ทำจากข้าวที่พ่นยาสารเคมีเยอะ สารเคมีเหล่านั้น ยังไม่ได้ย่อยสลายในร่างกายไก่ พอเรากินไก่ เราก็ได้รับสารเคมีเหล่านั้น สะสมในร่างกายของเราแทน
สำหรับคุณชาญชัย ผลิตข้าวบรรจุถุง ตั้งแต่ปี 2535 จำหน่ายข้าวถุงภายใต้แบรนด์ พ่อกำนัน และ ช่อทิพย์รวงทอง เน้นการทำตลาดโดยจำหน่ายในพื้นที่ ชุมพร และใกล้เคียง ข้าวที่นำมาขาย จะเป็นข้าวที่เลือกเฉพาะข้าวคุณภาพที่เป็นข้าวเก่า และใช้การผสมข้าว
