“จริง ๆ มันเป็นเรื่องของความเชื่อใจธุรกิจของเราเป็นธุรกิจแห่งความเชื่อใจเพราะว่า เขาฝากมาเขาไม่รู้เลยว่าเราจะตักอะไรให้เขาอะไรยังไงดังนั้นคือเราต้องทำภาพให้ได้เยอะที่สุด เช่น กับข้าวในวันนั้น คำอธิษฐานของลูกค้า มีคลิปวิดีโอให้ร่วมอนุโมทนาในขณะที่เราตักบาตรเลย คือจะพยายามทำทุกอย่างให้เรียลไทม์เหมือนเขาได้มาตักเองจริง ๆ”
แล้วก็จริง ๆ พระท่านก็บอกว่าการที่เราทำธุรกิจแบบนี้คนที่ร่วมทำบุญกับเราเพียงแค่ตัดสินใจว่า คุณจะให้ นั่นก็คือถือว่าเป็น “บุญ” แล้ว แอดมินจอย จากเพจ “ส่งบุญ” หรือ ณัฏฐ์ชญามนต์ ดินรมรัมย์ Managing Director บริษัท รับส่งบุญ จำกัด บอกกับเราถึงสิ่งที่หลายคนอาจจะยังกังวลหรือสงสัยว่า การฝากหรือให้คนอื่นเป็นธุระจัดการเรื่อง “การทำบุญ” ให้แทนเรานั้นจริง ๆ แล้ว จะได้บุญจริงไหม? เราเชื่อใจเขาได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เองทำให้ “ส่งบุญ” ในฐานะเป็นตัวแทนของเจ้าภาพทำบุญที่ได้รับมอบหมายมา จึงพยายามหาวิธีการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า“จริง ๆ เราเริ่มต้นมาจากธุรกิจในช่วงของโควิดฯ เมื่อก่อนนี้เราเป็นเจ้าของร้านอาหารเช้ากันแถว ๆ สาทรเนี่ยแหละแล้วก็วันหนึ่ง เจ้าของเนี่ยเห็นพระบิณฑบาตมาแล้วก็ได้ของตักบาตรมาน้อยมากเลย เราก็เลยตัดสินใจกันว่าเออเราจะรวมตัวกันหาเพื่อน ๆ ที่มีจิตใจชอบทำบุญเหมือนกันแล้วทำชุดอาหารเช้าอร่อย ๆ และก็มีประโยชน์ไปถวายวัดช่วงนั้น จุดเริ่มต้นมาจากชุดแค่ 38 ชุดจากเพื่อน ๆ กันรวมตัวกัน พอหลังจากเราเริ่มทำแล้วมีการถ่ายภาพโพสต์ในเฟซบุ้คส่วนตัว ก็มีคนฝากทำบุญเรื่อย ๆ พอหลังจากมีคนฝากทำบุญเรื่อย ๆ เราก็เลยตัดสินใจว่าเราจะเริ่มธุรกิจส่งบุญค่ะ”
ส่งบุญ: ธุรกิจรับจัดการงานทำบุญให้
โดยไฟท์บังคับของธุรกิจตอนนั้นเลยก็คือว่า คนออกมาตักบาตรไม่ได้ เราเลยเป็นตัวแทนไปตักบาตรให้ตอนนั้นสมาชิกจะเยอะมากเพราะว่าทั้ง คนสูงอายุเองหรือว่าคุณพ่อคุณแม่ที่มีเด็กเล็ก ๆ รู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัยในการออกมาใช้ชีวิตข้างนอก แล้วก็เลยรู้สึกว่าเราฝากคนอื่นทำบุญได้ “เราเลยเป็นธุรกิจที่ตอนนั้นสมาชิกคือเยอะมากจริง ๆ มีตกประมาณ 200 ชุดต่อสัปดาห์ คือจริง ๆ ธุรกิจเราจะเริ่มทำตักบาตรทุกวันพระ”ตอนนั้นเนี่ยพอหลังจากทำไปได้สักพักหนึ่งสถานการณ์ของ “โควิด-19” ก็เริ่มคลี่คลายขึ้น เจ้าภาพก็เริ่มรู้จัก “ส่งบุญ” มากขึ้นจากการที่ มีการฝากทำ บอกต่อ ส่วนใหญ่ลูกค้าเราจะมาจากการบอกต่อเพื่อน เพื่อนบอกต่อเพื่อน ค่อนข้างเป็นออร์แกนิกมากเพราะว่าใคร ๆ ก็ชวนเพื่อนมาแล้วก็มันเป็นกิจกรรมที่สนุกด้วย “พอเราเริ่มเปิดให้เขาได้มาทำบุญร่วมกันแล้ว เพื่อน ๆ บางทีส่งมาในเป็นแอคเคาน์ เป็นชื่อ-นามสกุลจริงเราก็ไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง แต่พอมาจริง ๆ แล้ววันที่ไปตักบาตรเราจะเจอเลยว่าเขาเป็นเพื่อนกับคนนี้ รู้จักกับอีกคนหนึ่งอะไรเงี้ยค่ะ เราก็เลยรู้สึกว่าเออของเราประสบความสำเร็จในเรื่องของการที่ลูกค้าได้มาสัมผัสแล้วก็อุตส่าห์บอกต่อให้ถือว่าเป็นออร์แกนิกสุด ๆ ไม่ได้มีการยิงแอดใด ๆ ก็เป็นที่รู้จักได้”
แล้วก็ผ่านมาอีกสักพักหนึ่ง เจ้าภาพลดลงไปหน่อยหนึ่งเพราะว่า เขาเริ่มออกมาตักบาตรเองได้แล้วตอนนี้กิจกรรมของเราก็เลยเพิ่มขึ้น เรามีการให้ช่างภาพมืออาชีพมาร่วมกันกับเรา(จากเพจคนเที่ยววัด) ซึ่งจะเป็นมืออาชีพด้านการถ่ายภาพเกี่ยวกับวัดสวยงาม เราเองก็เป็นการจัดของให้ประณีตในเรื่องของการตักบาตร สองคนก็มารวมตัวกัน ทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้นเลย
“แล้วก็กลายเป็นว่าในทุกทริปของส่งบุญน่ะค่ะที่มา นอกจากเจ้าภาพจะมีชุดอาหารที่ประณีตในการถวายพระแล้วเรายังจะมีภาพสวย ๆ จริง ๆ หลายคนถามเยอะมากว่า นี่คือการสร้างภาพหรือเปล่า ต้องบอกว่าไม่ได้เรียกว่าการสร้างภาพแต่เป็นการเผยแพร่ภาพที่มันสวยงาม ให้กับทุกคนเป็นการชักชวนให้ทุกคนได้มาร่วมทำบุญในบรรยากาศที่มันดีงาม เพราะจริง ๆ คนมาทำบุญก็อยากได้ของสวยงามแล้วการที่เขาได้ภาพที่ระลึกกลับไป บางทีมันมีคุณค่ากับครอบครัว” เสาร์-อาทิตย์ตรงกับวันพระพอดีทุกคนในครอบครัวได้มีกิจกรรมพ่อแม่ลูกทำบุญตักบาตรร่วมกัน มันมีภาพน่ารัก ๆ แบบนี้เกิดขึ้นทุกสัปดาห์ของเราที่ทำเลย ก็เลยรู้สึกว่านำภาพน่ารัก ๆ เหล่านี้ไปเผยแผ่แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือเป็นการเผยแผ่ศาสนาด้วย ก็คือเรารู้สึกว่าในวัดแต่ละวัดมันมีความงดงามความสวยงามเราก็เลยเก็บภาพ พระพุทธรูป บริเวณวัดจุดที่เขามากราบไหว้กัน เผยแพร่ไปในคลิปภาพซึ่งสมาชิกที่สมัครเข้ามาจะได้รับตรงนี้ในทุก ๆ สัปดาห์ผ่านช่องทางไลน์ออฟฟิศเชียลส่วนตัว เป็นกรุ๊ปไลน์เฉพาะหรือว่าใครที่เข้ามาดูในไอจีของ “ส่งบุญ” ก็จะได้เห็นภาพผ่านทางโซเชียลมีเดียเหล่านี้
ผูกปิ่นโตบุญ ด้วยการตักบาตรแบบ Subscription
“เราอยากให้การทำบุญเป็นกิจวัตรประจำวัน ทำต่อแบบต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงมีโปรเจ็กต์ตั้งแต่แรกเลยว่าเราทำเป็นแบบ Subscription ซึ่งซับสคริปชันเราถือว่าเอาจริง ๆ เราเป็นเจ้าแรกนะว่าเป็น subscription เพราะจริง ๆ บริการธุรกิจตักบาตรออนไลน์มีเยอะมาก มีมานานแล้ว แต่ว่าของเรายึดเป็นคอนเซ็ปต์แบบซับสคริปชันก็คือเป็นสมาชิกรายเดือน ตักทุกวันพระทั้งหมด 4 วันพระต่อเดือน”ตอนนั้นมันเป็นกระแสที่หลายคนทำในช่วงโควิดฯ แต่ว่าพอผ่านมาแล้วกระแสเหล่านี้แม้มันจะจางไปแต่ตอนนี้ “ส่งบุญ”เองก็ยังดำเนินกิจการมาจนถึงเข้าปีที่ 4 แล้วเพราะว่าเราใช้วิธีในเรื่องของการ subscription แล้วเจ้าภาพเองก็น่ารักมากเพราะว่าทำกันอย่างเชื่อใจ ทำกันจนเป็นพี่เป็นน้องเป็นแบบญาติพี่น้องกันไปแล้วตอนนี้“คุณแม่คนนี้ฝากตัก เราก็จะแบบพาคุณลูกคุณหลานมาอะไรเงี้ยก็จะเป็นเหมือนเจนเนอเรชันต่อเจนเนอเรชัน ฝากทำต่อ ฝากทำต่อ “หรือแม้แต่คนที่อยู่ต่างประเทศ อันนี้ประทับใจมากบางคนมาจากออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อเมริกา เขาเห็นจากไอจีแล้วทักแชทมาแล้วก็ส่งกันแบบนี้ หรือว่าเป็นคนสูงอายุ สูงอายุในระดับที่แบบว่าใช้ Line ไม่เป็นขออนุญาตให้ส่งภาพทางอีเมล เราก็ทำให้ก็คือทำเป็นเหมือนเรคคอร์ดให้คุณแม่เขาได้ดูอะไรเงี้ยค่ะ ก็ถือว่าแล้วแต่ลูกค้าสะดวกให้ส่งช่องทางไหนแต่ว่าช่องทางที่เราใช้หลัก ๆ เนี่ยก็คือเป็น Line : @sentboon“แต่ว่าถามว่าเราขอบคุณเจ้าภาพมาก ๆ เพราะว่าเขาไว้ใจเราจริง ๆ เพราะว่าอยู่คนละประเทศ อยู่คนละจังหวัดอะไรอย่างเงี้ย แต่เขาก็เชื่อใจ”
“บุญปุ๊บปั๊บ” ก็มา! อีเว้นต์งานบุญแบบเฉพาะกิจ
สำหรับวันนี้ที่เห็นด้านหลังเป็นป่าโกงกางก็คือเป็นกิจกรรม “บุญปุ๊บปั๊บ” ชวนเจ้าภาพมาทำบุญปล่อยปูกัน จริง ๆ ก็คือเป็นกระแสเลยตอนนี้ ปล่อยปูเป็นอย่างไร ปล่อยอะไรกันบ้าง? ปล่อยอะไรได้บ้าง? จริง ๆ เรื่องของปล่อยสัตว์น้ำอย่างปีก่อน ๆ เราเคยคิดเราจะปล่อยเราก็พยายามดูแต่ก็ยังไม่มั่นใจ จนวันนี้ได้มาเจอศูนย์ฯ(ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 สมุทรสาคร) ที่เขามีการมาปล่อยปูทะเลกันที่นี่ ซึ่งเป็นศูนย์ฯ ของชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.โคกขาม และก็มีอีกที่คือ ศาลพันท้ายนรสิงห์ เราจะปล่อยปูได้ 2 ที่นี่แหละที่รู้สึกว่าปูทะเลที่เราปล่อยไปจะปลอดภัยในการมีชีวิตต่อไป สามารถเข้ากับระบบนิเวศที่ปูมีความคุ้นเคยดี แล้วเจ้าภาพบุญเองก็สบายใจได้ว่าปูไม่โดนจับไปกินแน่นอนเพราะว่ามันมีคนดูแลอยู่ “ก็ถือว่าเป็นการทำบุญครั้งแรกเลยสำหรับ “สายมู” ของส่งบุญเพราะจริง ๆ ส่วนใหญ่ส่งบุญไม่ได้ทำบุญสายมูนะคะเพียงแต่ว่า วันนี้เรามาหากิจกรรมอะไรเพิ่มเติมให้เจ้าภาพได้มีบุญใหม่ ๆ ทำบ้างก็วันนี้ก็ได้รับผลตอบรับดี เจ้าภาพก็ขับรถกันมาแถวบางขุนเทียน-ชายทะเล ได้มาเที่ยวด้วยและก็ได้มาทำบุญด้วยก็อิ่มอกอิ่มใจกลับบ้านกันไป”
คอนเซ็ปต์ของ “ส่งบุญ” แต่แรกเรามาทางพุทธอยู่แล้ว คือเราต้องการจะสืบสานวัฒนธรรมในเรื่องของการตักบาตรต่อไป สืบสานพระพุทธศาสนา แล้วก็เราอยากให้ทุกคนได้ทำบุญแบบเป็นกิจวัตรประจำวัน แบบไม่พลาดทุกนัดบุญ“โดยความยุ่งยากความลำบากในการจัดเตรียม ปล่อยให้เป็นหน้าที่เรา ส่วนความสุข ความสนุกสนาน หรือว่าความสวยงามหรือว่าความประณีตเนี่ยมาสัมผัสได้ที่หน้างานเลย เราก็เลยพยายามเหมือนอำนวยความสะดวกในทุก ๆ อย่างให้กับเจ้าภาพ อย่างบางคนทำงานที่ไกลจากบ้านมากจะให้แวะตักบาตรตอนเช้าบางทีก็อาจเป็นเรื่องยาก สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่จะต้องเข้างานเป็นเวลา เขาก็เลยรู้สึกว่าเชื่อใจกับเราว่ายังไงวันพระเขาก็ไม่พลาดแน่ เพราะว่าฝากเราไว้แล้วสาย ๆ เราก็จะมีรูปส่งให้อนุโมทนา เนี่ยแหละคือความสะดวกสบายที่ทั้งเขาและเราได้บุญทั้งคู่”
โควิดฯ สงบ(เริ่มคลายลง) แต่ “ส่งบุญ” ยังไม่จบเรื่องงานบุญ
ลูกค้าบางส่วนที่สะดวกไปทำบุญเองแล้ว อย่างเช่นตักบาตรหน้าบ้านเองได้แล้ว ก็จะหายจากเราไปในลักษณะของการเป็น subscription หรือการเป็นสมาชิกประจำ แต่ในทุก ๆ อีเว้นต์ที่เราจัด เช่น มีการห่มผ้าพระธาตุ หรือบุญปุ๊บปั๊บต่าง ๆ เจ้าภาพเหล่านั้นก็จะกลับมา คือกลับมาแจมร่วมกันเพราะว่าเหมือนกับว่ามีเพื่อนทำบุญเป็นแก๊งเดียวกันแล้ว เขาก็รู้สึกว่าถึงจะไม่ได้ตักประจำก็จะมาเป็นบางช่วง และบางทีจะเป็นพวกเดือนเกิด“หรือเอาอย่างงี้ก็คือบางทีมันมีในส่วนของการอุทิศส่วนกุศล บางท่านญาติผู้ใหญ่เสียชีวิตไปแล้วก็จะฝากเราเพราะว่ามั่นใจว่า ในทุก ๆ วันพระในเดือนที่ท่านเสียชีวิตเนี่ยเราจะทำบุญให้ได้ตลอดต่อเนื่อง ก็จะเป็นส่วนใหญ่อนุโมทนาบุญร่วมกันบ้าง เป็นการอุทิศส่วนกุศลบ้าง อะไรอย่างเงี้ยที่ให้เราจัดแจงเตรียมงานให้ แล้วก็ในพาร์ทของการทำบุญบ้าน ทำบุญบริษัท อะไรอย่างเงี้ยก็จะเป็นกิจกรรมสำหรับปีนี้ที่มีมากขึ้น เริ่มติดต่อกันมามากขึ้น” ก็คือส่งบุญเองเข้าไปจัดการให้แบบprivate จัดให้เป็นพิเศษเป็นแบบเรียบง่ายตามบ้าน คนไม่เกิน 30 ท่าน อย่างเงี้ยเป็นต้น ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เริ่มมีเข้ามาในปีสองปีนี้หลังจากที่เขามาเริ่มตักบาตรกับเรา ก็มีการแนะนำเรื่องเกี่ยวกับ “บุญ” ทั้งหมดตอนนี้ไม่ว่าจะเป็น ทำบุญบ้าน ใครเสียชีวิต หรือว่าทำของที่ระลึกถวายพระติดต่อเข้ามากันหมดเลย แล้วเราก็มีพาร์ทในส่วนของการทำ printing (รูปภาพวัด ภาพวัตถุมงคล) สามารถทำได้ก็จะมีคนรู้เฉพาะบางส่วน “เพราะจริง ๆ ก็คือเบื้องหลังของการทำงานของเราทั้งหมดเราเป็นบริษัทออร์แกไนเซอร์ต้องบอกอย่างนี้ก่อนเพราะจริง ๆ โครงสร้างหลักของเราจริง ๆ แล้วเราก็เป็นหนึ่งในออร์แกไนเซอร์เหมือนกัน ดังนั้นคือในทุกงานบุญ ทุกของงานบุญ ก็คือสามารถติดต่อมาแล้วลองสอบถามกันแต่ละทริปได้เพราะจริง ๆ เราชอบดีไซน์ให้ลูกค้า แต่ละครั้ง ๆ ไม่เหมือนกันมากกว่า”
เพิ่มทางเลือกให้เจ้าภาพ รับเป็นธุระที่มากกว่าการตักบาตร
ในเรื่องของการตักบาตรเต็มที่เลยเป็น subscription รายเดือนของการตักบาตร ทุกวันพระต้องเน้นเลย“ตอนนี้เราตักต่อเนื่องมา
4 ปีแล้วตอนนี้เจ้าภาพที่เป็นเจ้าภาพหลักค่ะ ยาวไปถึงปีหน้าแล้วเรียบร้อย” แล้วก็ในส่วนรองลงมาเราจะทำ “บุญปุ๊บปั๊บ”เป็นการทำบุญที่เป็นเหมือนการมอบ การแจก การอนุเคราะห์ต่าง ๆ ให้กับคนที่ยากไร้ หรือว่าเป็นพวกสัตว์ต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น“ซึ่งอันนี้มันจะเป็นอีเว้นต์ในแต่ละเดือน เดี๋ยวรอติดตามกันดู แล้วก็อีกพาร์ทหนึ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือในเรื่องของงานอีเว้นต์ที่เป็นลักษณะของการทำบุญบ้าน การหาของที่ระลึกการหาของอะไรต่าง ๆ เอาง่าย ๆ ว่าถ้าเกิดว่าอยากทำ “งานบุญ” แล้วคิดอะไรไม่ออก โทรมาหาเรา เดี๋ยวเราช่วยจัดการให้ตอนนี้ล่าสุดก็มีคนติดต่อเรื่อง งานแต่งแล้วนะคะ(หัวเราะ) แต่ตอนนี้คือจะบอกว่ารับเฉพาะพิธีสงฆ์นะยังไม่ได้รับงานอีเว้นต์ตอนกลางคืนค่ะ”
ทำบุญได้บุญ! เพื่อให้คุณไม่พลาดสักนัดบุญ แบบต่อเนื่อง
คุณนวพร วุฒิกุลเจ้าภาพทำบุญ บอกว่า ตั้งแต่รอบที่โควิดฯ ระบาดแล้วก็เห็น “ส่งบุญ” เขาไปตามวัดต่าง ๆ เพราะว่าช่วงนั้นพระก็ไม่มีคนไปใส่บาตร ก็เลยเห็นแล้วตรงนี้ดูโอเคมากเป็นกิจกรรมที่โอเค ก็เลยร่วมทำบุญมาตลอดตั้งแต่ช่วงโควิดฯ มาจนถึงทุกวันนี้ แล้วก็พาเพื่อน ๆ มาร่วมด้วย“ไม่ว่าจะเป็นปุ๊บปั๊บของคุณจอยส่งมา พี่ก็ปุ๊บปั๊บกับเขาตลอด ปุ๊บปั๊บร่วมมือกับเขาตลอดจะห่มผ้าพระธาตุฯ ที่วัดสระเกตุ หรือวันมาฆะ วันอาสาฬหะ พี่ร่วมด้วยตลอดเพราะว่า พี่รู้สึกว่าบางครั้งเราอยู่ต่างประเทศ เราอยู่ต่างจังหวัด เราก็ได้ร่วมทำบุญตรงนี้ เราก็ทำเองส่วนหนึ่ง ตรงนี้ก็มีคนทำแทนเรา ไม่ได้มาเขาก็ทำแทนเรา ก็เชื่อใจค่ะ อย่างวันนี้ก็มาเองด้วยเป็นครั้งแรกที่ “ปล่อยปู” ไม่เคยปล่อยปูค่ะ ก็เลยเห็นคุณจอยส่งแบบบุญปุ๊บปั๊บมา พี่ก็โอเคปุ๊บปั๊บร่วมบุญไปด้วยเลย”
คุณนันทวรรณชยา ภาจิตประพันธ์ หรือที่รู้จักกันวงกว้างในชื่อของ “พี่แหม่มหัวใจใหญ่กว่ามะเร็ง” ก็เป็นอีกหนึ่งในเจ้าภาพทำบุญครั้งนี้ด้วย บอกว่า ตนเองโดยปกติแล้วก็ดูแลผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ในประเทศไทย ดูแลแล้วก็ช่วยเหลือฟรีเดือน ๆ หนึ่งก็คือเยอะมาก แต่ว่าวันนี้เป็นเทรนด์ใหม่ของการทำบุญแล้วก็ได้รับข้อมูลนี้มาจากลูกสาวเป็นการทำบุญ “ปล่อยปู” หมายถึงการปล่อยความทุกข์ ปล่อยเวรกรรมที่ติดตัวเรามาให้หมดจากตัวเราไป ชีวิตก็จะได้เจริญรุ่งเรือง“การที่เราไม่ได้มาทำบุญเองเป็นการให้ส่วนกลางหรือว่าหน่วยงานไหนเนี่ยมาจัดการให้เรา บุญจะถึงมั้ย? เงินที่เราจ่ายไปจะได้ครบตามที่เราต้องการมั้ยนะคะ จนกระทั่งเพื่อน(คือพี่หมวย) นะคะได้แนะนำให้มารู้จักกับเพจ : ส่งบุญ ซึ่งเพจนี้ได้ศึกษาเข้ามาแล้วเนี่ยรู้สึกว่าศรัทธาและเชื่อมั่นว่า เขามีความตรงไปตรงมานะคะชัดเจน แล้วก็ที่ผ่านมาเขาก็ได้พาประชาชนเนี่ยไปร่วมทำบุญในวัด กับพระภิกษุหลาย ๆ ที่นะคะ จนกระทั่งปีนี้เขามีนโยบายที่จะทำบุญกับสัตว์ค่ะกับสิ่งมีชีวิต เช่น การปล่อยปู หรือว่าการทำกับสัตว์ป่าแล้วก็ปีนี้จะเป็นปีที่ทำบุญเกี่ยวกับช่วยชีวิตสัตว์ทั้งหมดเลย ก็เป็นสิ่งที่เราปรารถนาพอดีเลยค่ะวันนี้ก็เลยได้มีโอกาสที่ดีได้มาร่วมบุญกับทีมส่งบุญ ดิฉันเชื่อมั่นแล้วก็มีความสุข แล้วก็มีความพึงพอใจแล้วก็วันนี้ประทับใจมากค่ะ เพราะว่าปูที่เอามาให้ปล่อยตัวใหญ่มากเลย”
เพราะว่าจริง ๆ คนไทยเป็นเมืองพุทธ ทุกคนชอบทำบุญ ธุรกิจเหล่านี้มันเป็นเหมือนธุรกิจ Catering ที่มีกับเมืองไทยมานานแล้วเพียงแต่ว่า เหมือนเราถูกจริตกับเจ้าไหนมากกว่า เราถูกจริตกับเจ้านี้เราก็ทำกับเจ้านี้ บางเจ้าแต่ละเจ้าก็จะมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน “ซึ่งจริง ๆ มันมีมานานมากแล้วเพียงแต่ว่ามันอยู่ที่ว่า เจ้าภาพไปเจอกับเจ้าไหนที่ถูกใจ ก็สามารถทำกับเจ้านั้นได้เลยอย่างของเราเองก็โชคดีที่มี เจ้าภาพถูกใจเยอะเพราะว่าด้วยงานที่ประณีตพยายามทำอย่างบางคนก็จะแบบว่าเข้ามาคอมเม้นต์ช่วย ลูกค้าเนี่ยแหละเป็นกระบอกเสียงให้เรานะที่เราปรับปรุงธุรกิจมาเรื่อย ๆ เนี่ยค่ะ พอเราได้รับคำแนะนำจากลูกค้ามาแล้วก็จะพยายามเอามาเปลี่ยน เอามาปรับ ซึ่งจริง ๆ แล้วเจ้าภาพเนี่ยล่ะค่ะที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าเอ้อเราจะออกมาประณีตแค่ไหน บางทีเจ้าภาพเป็นคนช่วยเราเยอะเลยแหละ”
แอดมินจอย จากเพจ “ส่งบุญ” ยังบอกด้วย บุญคือเขาให้ทำทีละน้อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ ทำแบบสะสม มันเหมือนเป็นการออมทรัพย์ มันไม่ใช่ว่ามีเงินมหาศาลทำตู้ม! เดียวแล้วคุณจะมีบุญไปถึงชาติหน้า มันเป็นการเหมือนสะสมแล้วเป็นการสร้างนิสัยมากกว่าให้เรารู้จัก “ให้” ให้เรารู้จักแบ่งปัน ให้เรารู้สึกเป็นผู้มีบุญหรือเป็นผู้อิ่มบุญแบบต่อเนื่องยาว ๆ ไม่ใช่ว่าทำใหญ่ทำแพงแล้วจะได้บุญเยอะกว่าคนอื่น ไม่!“เราก็เลยรู้สึกว่าอยากจะสนับสนุนให้มีการทำบุญ แบบลักษณะของการต่อเนื่องมากกว่า ไม่ต้องทำใหญ่ทำเยอะแต่ทำให้เป็นนิสัยหรือทำเป็นกิจวัตรประจำวันตามคอนเซ็ปต์ ที่รู้สึกว่าอยากจะแบบให้เป็นกิจวัตรไม่พลาดทุกนัดบุญจริง ๆ แบบนี้น่าจะเป็น “บุญ” ที่ยั่งยืนมากกว่า”
การทำบุญ พระท่านบอกว่าเพียงแค่ตัดสินใจว่า คุณจะให้ นั่นก็คือถือว่าเป็น “บุญ” แล้ว ขอบคุณเรื่องราวที่น่าประทับใจสำหรับพุทธศาสนิกชนในการช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาสืบสานประเพณีบุญ “การตักบาตร” ให้ธำรงสืบไปควบคู่กับสังคมไทย เป็นธุรกิจที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนอยากทำบุญ ได้ทำบุญสมใจและรู้สึกอิ่มใจตามที่ปรารถนา ขอบคุณ “ส่งบุญ” ที่ได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์แห่งการสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ ให้กับคนอื่น ๆ ต่อไป ในครั้งนี้
สามารถติดตามกิจกรรมงานบุญดี ๆ กับ “ส่งบุญ” ได้ทางIG : Sentboon FB : Sentboon และLine : @sentboon
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
