xs
xsm
sm
md
lg

“ชลลี่” ลุยธุรกิจเครื่องหอม “ชล อโรมาทีค” ตอบรับดีเกินคาด เตรียมโกอินเตอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เรามักจะได้ยินประโยคคลาสสิคเสมอว่า เวลาจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม ให้ทำมาจากแพชชั่น คือทำในสิ่งที่เราชอบ เพราะถ้าเราชอบสิ่งนั้น มันจะทำให้เราทำได้นาน ชลค้นพบว่า ตัวเองชอบพวกเครื่องหอม ตั้งแต่น้ำมันหอมระเหย เครื่องพ่น เทียน ซึ่งเราซื้อของพวกนี้เยอะมาก ไม่ว่าจะซื้อให้ตัวเองหรือให้คนอื่น จึงตัดสินใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง จากความชอบที่มี”

ชลลี่ ชล วจนานนท์ นักแสดงและพิธีกร เล่าถึงแพชชั่นของตัวเอง ที่มีต่อเครื่องหอมที่ชื่นชอบ ก่อนจะผันตัวเองมาก่อตั้งธุรกิจเครื่องหอมระดับพรีเมียม “ชล อโรมาทีค (CHOL Aromatique)” ที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้


คุณชลลี่ ย้อนความให้ฟังว่า เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่า จะทำธุรกิจเครื่องหอม จึงไปเรียนด้านอโรม่า เทอราปี จนได้ Certificate โดยในระหว่างเรียน พบว่าตัวของน้ำมันหอมระเหย มีสารธรรมชาติ ที่มีผลทดลองทางวิทยาศาสตร์ ว่าสามารถมาช่วยบำบัดเราได้ จึงได้เอาตัวน้ำมันหอมระเหยมาใช้กับตัวเอง ใช้กับสามี (คุณทิน โชคกมลกิจ) คุณแม่ และคนรอบข้าง ที่มีปัญหาสุขภาพแตกต่างกันไป หลังจากใช้น้ำมันหอมระเหยแล้ว อาการดีขึ้นตามลำดับ

“อย่างตัวชลเอง เมื่อก่อนจะปวดท้องประจำเดือนมาก และตั้งแต่เข้ามาในวงการน้ำมันหอมระเหย อาการเหล่านั้นหายไป คุณทินเองก็หลับดีขึ้น คุณแม่ก็ผ่อนคลาย อารมณ์คงที่ เราก็มาคิดว่า จากตอนที่เราเรียน สิ่งที่เราเห็น จากผลทดลองทางวิทยาศาสตร์ และจากประสบการณ์ตรง มันบวกกันแล้วอแมสซิ่งมาก ทำไมที่ผ่านมาเราไม่เคยรู้เลย ทั้ง ๆ ที่เราเป็น End user ดังนั้น ชลจึงอยากส่งสารนี้ให้กับคนอื่นได้รับรู้บ้างว่า ตัวสารธรรมชาติที่อยู่ในน้ำมันหอมระเหย มันมีคุณสมบัติในการบำบัดจริง”


จุดเด่นของแบรนด์เน้นการบำบัดใน 5 มิติ

คุณชลลี่ บอกว่า สิ่งที่มากกว่าความหอม ความหรูหรา และความพรีเมียม ของน้ำมันหอมระเหย คือ การบำบัดได้จริง และไม่ใช่เพียงแค่ความเชื่อในศาสตร์ แต่มีผลงานวิจัยเยอะมากในต่างประเทศ ยกตัวอย่างตัวน้ำมันหอมระเหยส้ม ที่มีการใช้จริงอยู่แล้ว เพราะส้มมีคุณสมบัติทางด้านอโรมาเทอราพี ที่เราเรียกกันว่า “สุคนธบำบัด” มันช่วยในเรื่องของความผ่อนคลาย ส้มจะช่วยเรื่องลดความเครียด ขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้เราสดชื่นขึ้นด้วย

ที่ผ่านมาคนไทยส่วนใหญ่ เข้าใจในมุมของการนำส้มไปใช้ในเรื่องของสกินแคร์ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่จะนำมาใช้ในการบำบัดทางด้านอารมณ์หรือฮอร์โมน เราจึงเอามาเป็น Core ในการออกแบบตัวกลิ่นทั้งหมดที่เรามี โดยเน้นน้ำมันหอมระเหย ที่สามารถช่วยบำบัดอาการ ที่เป็น pain point ในแต่ละด้านผ่านคอนเซ็ปต์ Urban Aromatherapy หรือ “สุคนธบำบัดศาสตร์สำหรับคนเมือง” ซึ่งหมายถึงคนที่มีไลฟ์สไตล์ในการทำงาน เป็นคนยุคใหม่ที่ไม่ได้มีอายุมันเป็นตัวกำหนด ทันสมัยเข้าใจโลก และไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนในเมือง

จากคอนเซ็ปต์ตั้งต้น ชล อโรมาทีค ได้กรุ๊ปรวม Urban Life Cycle ที่เรียกว่า มิติการใช้ชีวิตแต่ละด้านไว้ 5 มิติแบ่งเป็น Work, Play, Love, Rest และ Balance จากนั้นดีไซน์กลิ่นเพื่อตอบโจทย์ทั้ง 5 มิติได้อย่างลงตัว

โดย Work คือ กลุ่มความเครียดทั้งหมด รวมถึงไมเกรน เราดีไซน์กลิ่น Stress Killer บรรเทาความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เป็นกลิ่นที่ได้รับความนิยมสูง และขายดี

Play คือ กลุ่มที่ไม่มีพลัง ไม่มีสมาธิ เราดีไซน์กลิ่น Hyper Boost กระตุ้นความสดชื่น เพิ่มพลัง เพิ่มสมาธิ หายจากความรู้สึกเหนื่อยล้า

Love คือ รักตัวเอง เน้นเรื่องฮอร์โมน เราดีไซน์กลิ่น Love Attack ปรับฮอร์โมนให้สมดุล สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย

Rest คือ เรื่องของการนอนไม่หลับ เราดีไซน์กลิ่น Rest is More ช่วยให้หลับสนิท นอนอย่างมีคุณภาพ ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น และเป็นกลิ่นขายดีที่สุด

Balance คือ กลุ่มที่ไม่รู้ว่ามีปัญหา แต่อยากปรับให้ชีวิตมีความสมดุล เราดีไซน์กลิ่น Life Flow 365 หอมละมุนหรูหรา ปรับอารมณ์ให้รู้สึกสงบ พร้อมปรับสมดุลร่างกาย


คัดสรรวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานระดับโลก

สำหรับวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตนั้น คุณชลลี่ บอกว่า มีพาร์ทเนอร์เป็นผู้ผลิตให้ จากโรงงานที่ได้มาตรฐานโลก เพราะโรดแมปของเราคือ ต้องส่งออกด้วย ดังนั้นจึงต้องเน้นคุณภาพของสินค้าที่มาจากหลายแหล่งทั่วโลก และคัดสรรคุณภาพวัตถุดิบในระดับ Top 3 ของโลก เช่นส้ม เรานำเข้าวัตถุดิบจากทวีปอเมริกา ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “Best of Orange” รวมถึงบราซิล ที่เป็นหนึ่งในประเทศที่การแข่งขันกันในอุตสาหกรรมส้มสูง หรือถ้าใน ยุโรป ก็จะเป็นกลุ่มลาเวนเดอร์ ที่เรานำเข้ามาจาก อังกฤษ ฝรั่งเศส และฮังการี แต่สิ่งที่คุณชล ภูมิใจที่สุดคือ ตัวของ Lemon Glass หรือน้ำมันหอมระเหยตะไคร้ วัตถุดิบที่ใช้ ปลูกและสกัดในประเทศไทย ซึ่งต่างชาติให้ความนิยมมาก


ตั้งเป้า 70:30 ตลาดในประเทศและต่างประเทศ

ในช่วงแรกของการเปิดตัว CHOL Aromatique เมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณชลลี่ บอกว่า ช่วงแรกเน้นการขายออนไลน์ บอกคุณสมบัติด้านการบำบัดให้กับลูกค้า มีผู้สนใจซื้อไปทดลองใช้และกลับมาซื้อใหม่ ได้รับ Feed Back ที่ดี เราจึงวางแผนต่อในการเปิดสาขาแบบออฟไลน์ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสโดยตรง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสินค้าเราต้องรับรู้ได้การสัมผัสกลิ่นเมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา จึงได้เปิดช่องทางออฟไลน์ในศูนย์การค้า อาทิ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ชั้น 1 และ ศูนย์การค้า คิงส์ พาวเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ต ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี ในโซนอีโคโทเปีย และล่าสุดเปิดสาขาใหม่ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งอยู่ในชั้น 2 ฝั่งดีพาร์ตเม้นสโตร์

สัดส่วนการขายที่ตั้งเป้าไว้คือ เฟสแรก คือ ปี 2023 - 2025 เราจะแบ่งเป็นตลาดในประเทศ 70% นอกประเทศ 30% ตอนนี้ตลาดในประเทศเป็นไปตามเป้า ขณะที่ ตลาดต่างประเทศอยู่ระหว่างดำเนินการ เนื่องจากต้องดิวกันในหลายประเทศ
ในส่วนของการลงทุน 1557 Home shopping ได้เห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ของเรา และเข้ามาร่วมทุนกับ CHOL Aromatique 

โดยในเฟสแรก ได้มีการลงทุนเพื่อเติมเต็ม 3 ส่วนได้แก่ 1. การขยายสาขาเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค 2. การทำการตลาดในต่างประเทศ 3. การบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุกมิติ ซึ่งทั้งสามส่วนนี้ กลายเป็น โรดแม็ปในการดำเนินธุรกิจของเรา ปี 2023 เราเน้นการพัฒนาโปรดักส์ ปี 2024-2025 จะเป็นปีที่เราจะขยายในส่วนของ ออฟไลน์ สโตร์ ซึ่งเราตั้งเป้าในช่วง 2 ปีที่ 10 สาขา แบ่งเป็นภูมิภาค กรุงเทพและปริมณฑล ส่วนในเฟสที่ 2 เราวางแผนที่จะทำ wellness center ตอบรับเทรนด์การใส่ใจสุขภาพมองหา alternative treatment เพื่อเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพมากขึ้น


ตั้งเป้าผลักดันเครื่องหอมไทยเป็น Soft Power

คุณชลลี่ ยังแสดงความคิดเห็นด้วยว่า ประเทศไทยเราดังมากเรื่องสปาและนวด และน้ำมันนวดทั้งหลายล้วนมาจากน้ำมันหอมระเหยทั้งนั้น เลยมีคำถามว่า ทำไมโปรดักส์เหล่านี้ไม่ถูกพูดถึงในวงกว้าง
“หนึ่งในการทำแบรนด์เขาชลเองในฐานะ creator เราอยากดันตัวอุตสาหกรรมน้ำมันหอมระเหยให้เป็นซอฟท์พาวเวอร์ของไทย เวลาเราไปที่ไหน มันควรจะไปคู่กับสปาไทย ไม่ใช่แค่ลูกประคบ” คุณชลลี่ กล่าว

ขณะเดียวกัน พอมาทำผลิตภัณฑ์เอง คุณชลลี่ จึงรู้ว่า ที่ผ่านมาน้ำมันหอมระเหย ไม่จำเป็นต้องมี อย. เพราะถูกมองว่าเป็นของใช้ภายนอกที่สูดดมเท่านั้น แต่เรามองว่า หากต้องการยกระดับอุตสาหกรรมนี้จริง ๆ มันน่าจะมีเกณฑ์ของประเทศไทย แล้วทำให้เป็นมาตรฐาน ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น เช่น ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องสำอาง และอื่น ๆ ดังนั้นจึงต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ตัวของน้ำมันหอมระเหย สามารถเข้าไปในทุกอุตสาหกรรมมากขึ้น และต้องมีมาตรฐาน อย. ปลดล็อควัตถุดิบบางอย่าง ที่เป็นวัตถุดิบต้องห้าม ก็จะทำให้น้ำมันหอมระเหยของไทย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนต่างชาติ สามารถส่งออกไปในหลายประเทศได้

เรียกได้ว่า CHOL Aromatique เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์อโรมาเทอราปีที่เป็นดาวรุ่งในตลาดเลยทีเดียว และช่วงนี้กำลังเข้าสู่เทศกาลคริสมาสและปีใหม่ หากใครกำลังหาของขวัญให้คนที่รัก CHOL Aromatique มีเซตของขวัญ Gift to Give สุดพรีเมี่ยมจากน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์แท้ในราคาพิเศษ เพื่อให้คนที่คุณรักได้พักกายใจไปกับบรรยากาศแสนผ่อนคลายในเทศกาลแห่งความสุขนี้

สามารถดูข้อมูลสินค้า CHOL Aromatique ได้ทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านทาง Facebook : cholaromatique IG : cholaromatique หรือ LINE : @cholaromatique และช่องทางออฟไลน์ในศูนย์การค้า

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น