เวที “7 Innovation Awards” ที่จัดขึ้นภายใต้งาน “Thailand Synergy เพื่อ SMEs ไทย” นับเป็นหนึ่งเวทีใหญ่ด้านนวัตกรรมที่โดดเด่นที่สุดของไทยด้วยหลากหลายเหตุผล ทั้งการเกิดขึ้นจากความร่วมมือของ 11 องค์กรพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชนระดับประเทศ การมอบรางวัลอย่างต่อเนื่องมาตลอด 10 ปีเต็ม และการช่วย “แจ้งเกิด” ให้แก่ผู้ได้รับรางวัลจำนวนมาก และกลายเป็นกำลังสำคัญร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยก้าวสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยังยืนในอนาคต
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เวที “7 Innovation Awards” ได้มอบรางวัลทั้งในกลุ่มรางวัลนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ และกลุ่มรางวัลนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ไปแล้วกว่า 300 รางวัล สร้างการเติบโตให้กับ SMEs และบริษัทสตาร์ทอัพไทยจำนวนมาก หลายบริษัทขยายตัวก้าวสู่เวทีการแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้อย่างแข็งแกร่ง หลายบริษัทก้าวสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยอดขายหลักพันล้านบาทต่อปี เหมือนดังเช่น บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) กับ น้ำเต้าหู้โทฟุซัง (Tofusan) ผู้ที่คว้ารางวัลจากเวที “7 Innovation Awards” ในปีแรก ปัจจุบันทั้ง 2 เป็นผู้ที่ถูกจับตามองในฐานะบริษัทที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ไม่ใช่แค่มอบรางวัล แต่สร้างโอกาสการต่อยอด
ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการตัดสินรางวัล 7 Innovation Awards และผู้บริหารองค์กรคู่ความร่วมมือ กล่าวว่า นับเป็นเวลา 10 ปีแล้วที่เวที “7 Innovation Awards” ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและส่งเสริมผลงานนวัตกรรมของ SMEs และบริษัทสตาร์ทอัพไทย มอบรางวัลสะสมมาแล้วกว่า 300 รางวัล โดยในแต่ละปีก็จะได้เห็นศักยภาพ พัฒนาการ ตลอดจนความใส่ใจด้านนวัตกรรมของ SMEs และบริษัทสตาร์ทอัพไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านจำนวนผลงานที่ส่งเข้าประกวดจำนวนมาก จากปีแรกมี 81 ผลงาน ล่าสุด เฉพาะในปีที่ 10 มีผลงานร่วมส่งเข้าประกวดสูงถึง 182 ผลงาน
ความโดดเด่นของเวที 7 Innovation Awards ไม่ใช่เพียงการมอบรางวัล เพื่อเชิดชูผู้ที่ใส่ใจสร้างสรรค์นวัตกรรมเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการร่วมสนับสนุนต่อยอดเพิ่มเติมโดยเหล่าพันธมิตรภายใต้ 11 องค์กร ช่วยให้นวัตกรรมของสินค้าและบริการเหล่านั้นเดินไปได้ไกลยิ่งขึ้น ในส่วนของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะองค์กรพันธมิตรจัดตั้งและมอบรางวัล 7 Innovation Awards จะให้การสนับสนุนให้ได้รับโอกาสต่อยอดความสำเร็จทางธุรกิจ ผ่านช่องทางจัดจำหน่ายอันหลากหลายได้แก่ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 14,000 สาขา, ช่องทาง All Online, 7 Delivery ในแอปพลิเคชั่น 7-Eleven และ ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง รวมถึงบริษัทในเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการ SMEs และสตาร์ทอัพไทย
“จากการรวบรวมข้อมูลของผู้ประกอบการที่เคยได้รับรางวัลจากเวที 7 Innovation Awards ตั้งแต่ปีแรก พบว่า มีผลงานที่ประสบความสำเร็จและสามารถสร้างรายได้ 100-400 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 ปีสูงถึง 20 ผลงงาน และยังมีอีกหลายผลงานที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและสามารถต่อยอดสู่สินค้าและบริการอื่นๆ ได้อย่างน่าชื่นชม แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการหรือบริษัทสตาร์ทอัพเหล่านั้นได้นำนวัตกรรมมาเป็นตัวขับเคลื่อนหลักจนประสบความสำเร็จ และมีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ได้รับรางวัลจากเวทีนี้กลายมาเป็นคู่ค้ากับทางเซเว่น อีเลฟเว่น และมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง” ดร.ชัยวัฒน์ กล่าว
“Tofusan” สุดยอดนักประดิษฐ์ปี 2014 สู่คู่ค้าเซเว่นฯ ยอดขายปี 2023 กว่า 850 ล้าน
สุรนาม พานิชการ เจ้าของธุรกิจน้ำเต้าหู้โทฟุซัง (Tofusan) เล่าย้อนความให้ฟังว่า ตนนำผลงานน้ำนมถั่วเหลือง Tofusan เป็นน้ำนมถั่วเหลืองซึ่งผสมฟองเต้าหู้ ใช้ถั่วเหลืองไม่ผ่าน GMO ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้สินค้ามีอายุยาวนานขึ้น แต่ยังคงรสชาติเหมือนน้ำเต้าหู้สด โดยไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่ใส่นมผงและน้ำมัน สามารถหารับประทานได้ทุกเวลา เหมือนน้ำนมถั่วเหลืองที่ต้มใหม่แบบดั้งเดิมเข้าประกวดเวที 7 Innovation Awards เมื่อปี 2014 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการมอบรางวัล โดยสามารถคว้ารางวัลนวัตกรรมประเภทที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ประเภทสุดยอดนักประดิษฐ์ (7 Inventor Awards) มาครอง
หลังจากนั้นก็ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมที่ปรึกษาเซเว่น อีเลฟเว่น ร่วมมือพัฒนาในทุกด้าน อาทิ ด้านการตลาด การบริหารจัดการ โดยบริษัทเริ่มวางจำหน่ายสินค้าในร้านเซเว่นฯ ครั้งแรกเมื่อปี 2012 และมียอดขายอยู่ที่ 11 ล้านบาทต่อปี จากสินค้าเพียง 1 รายการ ได้แก่ นมถั่วเหลืองผสมฟองเต้าหู้ขวดแก้ว จากนั้นได้มีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปี 2022 บริษัทมีรายได้ที่จำหน่ายผ่านร้านเซเว่นฯกว่า 400 ล้านบาทต่อปี ในสิ้นปี 2023 คาดว่าบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 850 ล้านบาท และสามารถขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้
“การได้รับรางวัลจากเวที 7 Innovation Awards ถือเป็นโอกาสอันดีในการขยายช่องทางการตลาด และสร้างการเติบโตทางธุรกิจสูงถึง 77% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ที่ไม่อาจหาได้จากที่อื่น ด้วยเครือข่ายพันธมิตรของทาง เซเว่น อีเลฟเว่น ที่ครอบคลุมในทุกภาคส่วน ช่วยสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจในอนาคต” สุรนาม กล่าว
สำหรับรางวัล “สุดยอดนวัตกรรม 7 Innovation Awards” เป็นรางวัลที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ภายในงาน “Thailand Synergy เพื่อ SMEs ไทย” เป็นรางวัลที่จัดเพื่อเฟ้นหาสินค้านวัตกรรมจาก SMEs และบริษัทสตาร์ทอัพไทยที่มีศักยภาพ ในการพัฒนาและต่อยอดให้เป็นนวัตกรรมสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคจนได้รับการยอมรับในระดับประเทศหรือในระดับโลก และเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้ทดสอบศักยภาพของตนเองในการยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมในระดับประเทศ
“NSL Foods” ดันนวัตกรรมนำธุรกิจ ส่งบริษัทเข้า SET
แซนวิชอบร้อนภายใต้แบรนด์อีซี่เทสต์ อีซี่สวีท อีซี่เบคและเซเว่น เฟรช ที่หลายคนคุ้นเคย เป็นผลงานนวัตกรรมของบริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ เมื่อปี 2014 ถือเป็นรุ่นพี่ตัวอย่างจากเวที 7 Innovation Awards ที่เคยเป็น SMEs มาก่อน และเป็นอีกหนึ่งคู่ค้าสำคัญที่ได้มีการพัฒนาต่อยอดร่วมกับทางเซเว่นฯ อย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 17 ปี จนวันนี้ชื่อของ NSL ไปเป็นที่รู้จักในตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สร้างผลงานอันโดดเด่นด้วยตัวเลขรายได้รวมของบริษัทครึ่งแรกปี 2023 ที่ 2,263.8 ล้านบาท
สมชาย อัศวปิยานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ NSL กล่าวว่า ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาบริษัทเป็นเพียงบริษัทเล็กๆ ที่เห็นว่า นวัตกรรม เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ จึงได้นำผลงานแซนวิชอบร้อน เข้าประกวดที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมการออกแบบ โดยการพัฒนาสูตรแป้งและการสร้างเครื่องอบแซนวิชที่ช่วยทำให้แป้งแซนวิช มีกลิ่นหอมเหมือนอบสด รสชาติอร่อย และมีความหลากหลาย เพื่อเพิ่มทางเลือกและความสะดวกให้กับผู้บริโภค ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายในร้านเซเว่นฯหลังได้รับรางวัลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2014 มียอดขายกว่า 2,200 ล้านบาท ปัจจุบันยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ในร้านเซเว่นฯอยู่ที่ 2,069.7 ล้านบาท
“สิ่งที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้กับบริษัทได้ดีที่สุดก็คือ ความเป็นสินค้านวัตกรรม เพราะนวัตกรรมจะช่วยสร้างความแตกต่าง สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้า และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน นำไปสู่การสร้างการเติบโตในระยะยาว และจากความมุ่งมั่นที่ต้องการใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจนี้เอง ทำให้วันนี้ NSL Foods สามารถสร้างชื่อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ได้สำเร็จ” สมชาย กล่าว
ขณะที่งาน “Thailand Synergy เพื่อ SMEs ไทย” จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของพันธมิตร 11 องค์กรระดับประเทศ ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สนช.), สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.), สมาคมหน่วยบ่มเพาะธุรกิจและอุทยานวิทยาศาสตร์ไทย (Thai-BISPA), หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สมาคมธนาคารไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ที่ต่างตระหนักร่วมกันว่า ประเทศจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งทั้งในระบบเศรษฐกิจและสังคมได้นั้น ต้องอาศัย “นวัตกรรม” โดยมี SMEs และสตาร์ทอัพ เป็นผู้ขับเคลื่อนในฐานะที่เป็นฐานรากสำคัญของประเทศ ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ http://www.7innovationawards.com
