xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) ลาออกเชฟมาสานต่อกิจการ “กุยช่ายตลาดพลู” ชูคอนเซ็ปต์ใหม่ “โซกุยช่าย” จัดเต็ม! เอาใจคนรักสุขภาพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โซกุยช่ายที่ตอนตั้งมาก็คือเราตัดแป้งทิ้ง เราทำผลิตภัณฑ์ขึ้นมาแล้วพอดูเออกุยช่ายมันเยอะดี เราก็เลยใช้ภาษาอังกฤษว่า Sooo GuiChai คือกุยช่ายเยอะมาก แป้งไม่ถึงกรัม/ลูก แต่คนที่เขาคุ้นแบบเดิมมากกว่าบอกนี่ไม่ใช่กุยช่ายตลาดพลูก็มี!”

กุยช่ายแป้งเปลือย ที่มีแป้งเป็นส่วนผสมอยู่น้อยมาก ๅ
กิตติคุณ กชกรจารุพงศ์ (เต๊) เจ้าของแบรนด์ Sooo GuiChai (โซกุยช่าย) บอกกับเราอีกว่า กว่า 11 ปีที่ตนเองไปอยู่ออสเตรเลียมา เรียนจบชั้นมัธยม 6 แล้วก็ไปเรียนต่อเป็น Chef อยู่ที่ออสเตรเลียและทำงานทางด้านนี้ต่อเนื่องยาวเลย การทำงานล่าสุดก็คือเป็นรองหัวหน้าเชฟแล้ว จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งคุณพ่อก็ได้โทรศัพท์ไปถาม “ลูกอยากจะกลับมารับช่วงต่อกิจการของที่บ้านไหม?” ในตอนแรกก็ยังรู้สึกลังเลใจ เพราะว่าการงานตรงนั้นก็ไปได้ค่อนข้างดี และก็เรื่องตัวเงิน(รายได้) ก็ค่อนข้างดี แต่ว่าก็ไม่อยากจะทิ้งประวัติศาสตร์ของที่บ้านไปด้วย “ของผมเป็นรุ่นที่3 ใช่มั้ยครับ รุ่นก่อนคุณพ่อคุณแม่ก็จะเป็นรุ่นอาม่า อาม่าก็เริ่มทำมาก่อนแล้วเป็นเล็ก ๆ ออกไปขายนิดหนึ่ง แล้วคุณพ่อก็ไปทำงานแบงก์แล้วพอออกมาก็ มาจับธุรกิจโรงงานกุยช่ายครับ คือจากไปขายเองก็เริ่มมาทำเป็นโรงงาน เป็นระบบโรงงานทำให้คนอื่นเขาเอาไปขาย แล้วผมไปอยู่ออสเตรเลียมา 11 ปีก็เลยมีความคิดว่า เราจะกลับมาต่อยอดธุรกิจของพ่อแม่เรายังไง เพราะว่าพวกนี้มันเป็น Legacy ของตระกูลเราด้วย”

กุยช่ายตลาดพลูแนวคิดใหม่ โซกุยช่าย
ต่อยอดสู่ “ร้านโซกุยช่าย” แตกไลน์ค้าปลีกเพิ่มเติม
ก็เลยเอาออกมาทำเป็นตลาดขายปลีกอีกทีหนึ่ง “แล้วเราก็เพิ่มมูลค่าให้กับขนมของบ้านเรา เพราะว่าอย่างของบ้านผมก็คือความแตกต่าง ก็คือแป้งบางมาก แป้งค่อนข้างใส และก็แป้งนุ่ม ของเจ้าอื่นจะเป็นแป้งแบบกัดแล้วขาด ก็คือจะเป็นแป้งหนาไม่ค่อยเหนียว แต่ของบ้านผมพอมาถึงรุ่นพ่อผมเนี่ยก็คือแป้งจะเริ่มเหนียวแล้ว ก็ทันสมัยขึ้นมาอีกแอบแป้งบางมาตั้งแต่ยุคนั้นแล้ว”พอตัวเองกลับมาเพื่อสานต่อ ก็เลยมาทำเป็น “แป้งเปลือย” เลย คือบางไปกว่านั้นอีก ความแป้งบางก็คืออย่างกุยช่ายปกติคนส่วนใหญ่จะไม่นิยมทานแบบร้อน แต่จะทานเป็นอุณหภูมิห้อง(ปกติ) ซึ่งพอแป้งเย็นตัวปุ๊บก็มักจะไปเกาะตัวกันทำให้เวลากัด มันจะมีความรู้สึกแบบแรงต้านฟัน แต่พอแป้งมันบางลง ก็จะได้ความเหนียวนุ่มขึ้น และก็รสชาติของ “ไส้” ก็จะออกมาเยอะขึ้น


กุยช่ายแป้งเปลือย ทำไมต้อง Sooo GuiChai ?
Sooo GuiChai คือเป็นความรู้สึกที่ว่ากุยช่ายมันเยอะดี แทบจะไม่มีแป้งแล้ว“อย่างตัวกุยช่ายแป้งเปลือยเนี่ยครับคือ คอนเซ็ปต์แรกเลยคือ ตอนผมอยู่ออสเตรเลียเนี่ยผมพยายามคุมน้ำหนัก พยายามออกกำลังกายอะไรเงี้ย ผมก็จะลดแป้งค่อนข้างเยอะมากเลย เพราะว่าพอเราทานแป้งเข้าไปเยอะ ๆ มันไป converse เป็นน้ำตาลใช่มั้ยครับ มันก็จะทำให้เราเพิ่มน้ำหนักได้เร็วมากขึ้น ทีนี้ก็ตัดแป้งออกสัก90% ให้เหลือแต่ไส้ ซึ่งไส้เราก็จะมีแต่ผักมันก็จะค่อนข้างเป็น healthy choice มากกว่าสำหรับการเลือกทาน“




จัดเต็ม! 7 ไส้แบบจุก ๆ ทีเด็ดน้ำจิ้ม 3 รสชาติให้เลือก
อย่างสมมุติ1 ลูก ปกติที่มีแป้งหุ้มจะใช้แป้งอยู่ราว ๆ 15-20 กรัม แต่สำหรับกุยช่ายแป้งเปลือยของที่ร้าน 1 ลูก แป้งไม่ถึง 1 กรัม“กุยช่ายเป็นงานแฮนด์เมดนะครับ ก็คือทุกวันนี้ที่โรงงานก็ยังใช้คนทำอยู่ไม่ใช้เครื่องจักร ก็คือเวลาเป็นงานแฮนด์เมดเขาก็จะอาจจะคิดว่า แต่ละลูกมันจะไม่เท่ากันอาจจะมีน้ำหนักไม่เท่ากัน ลูกค้าก็จะเสียเปรียบเราแต่อย่างผมก็จะมาเป็น การชั่งน้ำหนัก ก็คือควบคุมคุณภาพ ควบคุมความสะอาด ให้ได้มาตรฐานมากขึ้น แล้วเราก็จะได้ยกระดับในตัวขนมของเราขึ้นไป มีการปรับเปลี่ยนสูตรให้ทันสมัยมากขึ้น” เดี๋ยวนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปค่อนข้างเร็ว เวลาคนทานอาหารเขาก็จะเปลี่ยนไปบางทีเปลี่ยนตามเดือน เปลี่ยนตามปี ฯลฯ คือเราจะต้องตามให้ทัน ไม่อย่างนั้นจะมาขายแบบเดิม ๆ คนรุ่นใหม่เขาก็จะไม่ทานในแบบที่คนรุ่นเก่าชอบทานกันแล้ว




เดี๋ยวนี้เขาต้องปรับไปเรื่อย ๆ ต้องมี “ไส้” ใหม่ ๆ ขึ้นมา เพื่อที่จะ ดึงดูดเด็ก ๆ หรือว่าคนรุ่นใหม่ให้มาสนใจด้วยจริง ๆ ผมอยากดึงดูดเด็กรุ่นใหม่ให้เข้ามาทาน ไส้ที่ปกติเขาทำอยู่แล้วก็จะมี กุยช่าย หน่อไม้ มันแกว เผือก ซึ่งสำหรับผมก็ไม่ค่อยทานไส้แบบนั้นอยู่แล้ว เพราะว่าเราเป็นคนค่อนข้างรุ่นใหม่นะครับคือไส้พวกนี้ เรากินเราก็ไม่ค่อยชอบ แต่ส่วนใหญ่คนที่มีอายุหน่อยจะชอบไส้พวกนี้ ผมก็เลยพยายามทำไส้ใหม่ ๆ ออกมา” ก็จะมีไส้รวม เห็ดรวม (เห็ด3อย่าง) เห็ดโคนญี่ปุ่น เห็ดหูหนู และเห็ดเออรินจิ กะหล่ำเห็ดหอม ก็จะคล้าย ๆ เวลาเอากะหล่ำไปผัดกับเห็ดหอม และก็ มันม่วง รสชาติจะออกหวาน ๆ มัน ๆ หน่อยก็จะเพิ่มกลุ่มตลาดมากขึ้น ที่ไม่ได้อยู่แต่ในคนเชื้อชาติสายจีนอย่างเดียวแล้ว ก็จะไปได้ค่อนข้างครอบคลุมคนหลายกลุ่มเชื้อชาติ ไส้ตอนนี้มีทั้งหมด 7 ไส้ครับก็มี กุยช่าย หน่อไม้ มันแกว เผือก กะหล่ำเห็ดหอม เห็ดรวม และก็มีมันม่วง”

แบบชุบแป้งทอด เทมปุระ
ส่วน “น้ำจิ้ม” ของที่ร้านเองก็จะมี3 รสชาติให้เลือก รสต้นตำรับ(original) ถ้าเป็นแบบเดิมคือเขาจะเอาไปต้มก่อนเพื่อให้เก็บไว้ได้นาน แต่สูตรของที่ร้านจะสดใหม่วันต่อวันเลย เหมือนเวลาไปกินพริกตำสดแล้วใส่ลงไปในน้ำจิ้มเลย จะได้ความหอมของพริกที่ยังสดใหม่อยู่ ตัดกับรสเปรี้ยวหวาน แล้วก็มี ซอสบ๊วยส้ม ตัวนี้จะทำออกมาเพื่อสำหรับจิ้มของทอดเทมปุระโดยเฉพาะ เหมือนเวลาหน้าเทศกาลกินเจ จะมีเผือกทอดจิ้มซอสบ๊วย แต่อันนี้จะเป็นบ๊วยส้มจะมีกลิ่นบ๊วย กลิ่นส้ม และก็มีพริกนิดหนึ่ง เวลาจิ้มทานคู่กันก็จะเข้ากันมาก และก็จะมี “หมาล่า” ตัวนี้คือจะเอาใจคนรุ่นใหม่ ก็เป็นสูตรของที่ร้านเองซึ่ง คั่วพริกเอง ทำซอสงาเอง ทำเองหมดทุกอย่าง ตัวเองเป็นคนทานเผ็ดน้อยก็จะทำซอสที่มีรสชาติเผ็ดไม่มากนัก ซึ่งพอเผ็ดน้อยมันก็จะไปดึงรสชาติของวัตถุดิบของตัวขนมได้เยอะขึ้น




ราคาไม่แตกต่างมาก คนรักสุขภาพเลือกแป้งได้เอง
อย่างเรื่อง “ราคา” สำหรับการจำหน่ายของ Sooo GuiChai ก็จะไม่ได้แพงไปกว่ากุยช่ายที่ขายกันทั่วไปอยู่ที่ตลาดพลู"อย่างร้านที่ขายในตลาดพลูเขาก็ขายกันลูกละ 10 บาท1 1 บาทอยู่แล้ว อย่างของเรามาขายลูกละ 14 บาท ซึ่งของเราแทบจะไม่มีแป้งเลยมีแต่ไส้ล้วน ๆ คุ้มค่าและก็ต้นทุนเราก็เพิ่มสูงขึ้นมาด้วย เพราะว่าเราคัดวัตถุดิบเอามาใส่ในขนมของเรา” เรื่องราคายังไม่ค่อยมีปัญหากับลูกค้า แล้วเรื่องแพคเก็จจิ้งก็อย่างสมมุติคนที่จะซื้อไปฝากหรือให้กับผู้ใหญ่ ก็สามารถทำได้เพราะว่าการบรรจุจะดูแลให้อย่างดี หน้าร้านก็ทำดูให้สะอาดสะอ้าน

“ตัวโซกุยช่ายจะมี2 คอนเซ็ปต์ก็คือ แป้งเปลือย สำหรับคนรักสุขภาพ และก็จะมีแบบทอดเป็นทอดเทมปุระ คือเป็นชุบแป้งทอด”ไปเปิดตัวครั้งแรกที่เซ็นทรัลฯ ลาดพร้าวช่วงนั้นตนเองเพิ่งกลับมาใหม่ ๆ ประมาณเดือนนึงก็เริ่มทำแล้ว เริ่มออกบูธออกขายตามงานต่าง ๆ ซึ่งที่ลาดพร้าวกระแสการตอบรับดีมาก ๆ ก็เลยตอนนี้มีอยู่ประมาณ 4-5 บูธแล้ว ทั่วกรุงเทพฯ และก็เดือนที่ผ่านมาเพิ่งไปเปิดอีกที่ ที่เชียงใหม่มาด้วยโซกุยช่ายก็จะมี หน้าร้านก็มีนะครับ ส่งก็มี (ผ่านGrab) และก็ต่างจังหวัดก็ส่งทั่วประเทศครับ แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดเราก็จะส่งเป็นโฟรเซ่นหรือแบบแช่แข็งให้”

เจ้าของแบรนด์ Sooo GuiChai ยังบอกด้วย ลูกค้าที่มาเลือกทาน “โซกุยช่าย” ทางร้านจะให้ความมั่นใจก่อนเลยว่า ไม่ใส่สารกันบูดการทำจะทำวันต่อวัน วัตถุดิบคือจะคัดมาให้แล้ว เรื่องความสะอาดจะคัดมาให้อย่างดีที่สุด ซึ่งตนเองจะเป็นคนทำ QC เองก็คืออยู่ในโรงงานด้วยในทุก ๆ ขั้นตอนของการผลิต จะตรวจสอบเองทั้งหมดเพื่อให้มีความมั่นใจก่อนส่งให้กับลูกค้า/ผู้บริโภค “โซกุยช่าย ณ ตอนนี้ ก็อยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 ลูก/วัน ที่ผลิตเพื่อขายตามบูธต่าง ๆ กระจายในกรุงเทพฯ”


ยกระดับกุยช่ายตลาดพลูสู่ห้างฯ
รูปลักษณ์ หน้าตาที่เปลี่ยนไป แต่รสชาติเป็น “กุยช่ายตลาดพลู” แหล่งผลิตก็ยังอยู่ที่ตลาดพลู วัตถุดิบต่าง ๆ ก็ยังใช้ของที่เดิมอยู่ แค่เปลี่ยนรูปลักษณ์และก็เปลี่ยนหน้าตาของการพรีเซ้นต์แค่นี้เอง “ก็คือตัวโซกุยช่ายเนี่ย ผมอยากให้ตัวขนมไปอยู่ในทั่วประเทศ ซึ่งความคาดหวังนั้นก็ต้องดูว่าเราสามารถขนส่งไปได้ไกลเท่าไหน หรือว่าการขนส่งเป็นอย่างไร ก็คือความคาดหวังสูงสุดก็คืออยากมีหน้าร้านเอาไว้ อยู่ในหัวเมืองต่าง ๆ และก็เป็นที่กระจายสินค้าให้ลูกค้าได้ทานนะครับ และก็อย่างอุปสรรคก็จะเป็นเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นอย่างที่บอกก็คือ เป็นเรื่องของความคิดคนที่พอเราใช้ชื่อกุยช่ายตลาดพลู คนที่เขาทานกุยช่ายตลาดพลูที่เป็นแบบไม่ได้ดัดแปลงมาเขาก็จะเดินมาบอกเราว่า นี่ไม่ใช่กุยช่ายตลาดพลูนะ! ก็ยังเจออยู่อะไรแบบนี้ ซึ่งเราก็อธิบายให้เขาฟังว่าเราเป็นรุ่นที่ 3 แล้วเราเอามาปรับ ให้มันดียิ่งขึ้นและก็ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจแต่คนที่ไม่เข้าใจก็ ราก็อธิบายต่อไปและก็ ถ้าเขาชอบทานแบบมีแป้งเราก็สามารถ offer แบบที่มีแป้งให้เขาได้ด้วย เพราะว่าบ้านเราก็ทำอยู่แล้ว”

จากตลาดพลูสู่ “ห้างฯ” ปัจจุบันโซกุยช่ายมีหน้าร้านประจำอยู่ที่The Emporium ชั้น4 (หน้าGourmet), ครัวคุณต๋อยเพลส เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา และการออกบูธตามงานอีเว้นต์ต่าง ๆ ที่จัดภายในห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ เป็นต้น “จา ตลาดพลูสู่ห้างฯ ใช่ครับประมาณนั้นเลย ก็คือยกระดับสินค้าของเราขึ้นมาเลยเพราะว่า เรารู้ศักยภาพของเราด้วยนะครับ และก็ของทีมงานเราด้วยที่ทำ และก็ประวัติศาสตร์ของการทำของที่บ้านเรามาเรารู้หมด เรารู้ปัญหาเรารู้อะไรทุกอย่าง ซึ่งเราสามารถพัฒนาไปในอีกระดับหนึ่งได้ คือการพัฒนาจากโรงงานแล้วมาขายปลีก มันค่อนข้างยาก เพราะว่าอาจจะไปชนกับลูกค้าที่รับของเราไป
แต่ว่าผมก็พยายามพลิกโฉมขึ้นมาเพื่อไม่ให้ไปชนกับเขาได้”


ขอบคุณแรงบันดาลใจดี ๆ จากแบรนด์ Sooo GuiChai กุยช่ายตลาดพลูแบบแนวคิดใหม่ที่ใส่ใจคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง สามารถไปอุดหนุนสินค้าหรือสั่งผ่านเดลิเวอรี่ได้ด้วย โทร.094-693-5644 ไลน์: @ sooo_guichai



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น