หม้อละ 4,500!!! อยากชิมต้องสั่งก่อนเท่านั้น “แกงไก่กะลา” ห่อหมกปลาเรียวเซียว ของดีห้วยใหญ่และขนมไทยโบราณ ไข่หงส์ ซาลาเปา กล้วยข้าวเม่าทอด และอื่น ๆ สำรับคาวหวาน “บ้านทองอยู่” มาเที่ยวพัทยาต้องห้ามพลาดชิม!
นายอิทธิพัทธ์ ห้วยใหญ่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่1 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เล่าให้ฟังว่า หากพูดถึง ตำบลห้วยใหญ่ หลาย ๆ คนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่าที่นี่เป็นแหล่งกำเนิด “ของดี” โดยเฉพาะของกินที่ขึ้นชื่อหลากหลายตำรับเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น แกงไก่กะลา จากวัตถุดิบหลักสำคัญในการปรุงที่ได้แก่ “กะลาอ่อน” ของมะพร้าว พืชเศรษฐกิจสำคัญของคนในท้องที่นี้ ผสานกับภูมิปัญญาพื้นบ้านด้านอาหารการกิน การปรุงเครื่องน้ำแกงที่ใช้แกงกับ “ไก่บ้าน” ไก่หนุ่มสาวเท่านั้น ทำให้มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของถิ่นที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ก็ยังมี “ข้าวหลาม” ซึ่งเดิมทีเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญไม่แพ้ข้าวหลามหนองมน ที่หลายคนคุ้นเคยกันดีอยู่ในปัจจุบัน เป็นต้น โอกาสนี้ตนเองจึงอยากจะขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว “พัทยา” ว่าต้องห้ามพลาดชิม! เมนูเด็ดของดี “ห้วยใหญ่” แกงไก่กะลา 1 เดียวในประเทศไทย ห่อหมกปลาเรียวเซียว และยังมีขนมไทยโบราณอย่าง ขนมไข่หงส์(ไข่เหี้ย) ซาลาเปาทอด กล้วยข้าวเม่าทอด ข้าวตูโบราณจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ตำรับบ้านทองอยู่ และขนมอื่น ๆอีกมากมาย เป็นการช่วยสนับสนุนอาชีพของคนในท้องถิ่นให้เกิดรายได้ “ที่รับรองว่าคนได้ทานแล้วจะต้องติดใจอย่างแน่นอน”
เปิดสูตร...ขนมไทยโบราณ คาว หวาน บ้านทองอยู่
ด้าน “เจ๊ตุ๊ก-นางจิรภัทร ทองอยู่”เจ้าของร้าน คาว หวาน บ้านทองอยู่ เล่าให้ฟังด้วย 30 กว่าปีแล้วที่ตนเองประกอบอาชีพทางด้านค้าขายมา สำหรับขนมไทยโบราณ “กล้วยข้าวเม่า ไข่ พี่เปา” ก็เป็นอาชีพที่แม่ให้มาและยึดเป็นหลักทำขายมาตลอด โดยเมื่อก่อนนั้นจะทำควบคู่ไปกับการเปิดร้านอาหารตามสั่งด้วย ขนมเมื่อก่อนก็จะไปขายตามตลาดนัดต่าง ๆ แถวบางเสร่ บ้านอำเภอ และในละแวกบ้าน ซึ่งบางทีก็จะทำแล้วไปส่งให้กับ “พี่สาว” เป็นคนขายอยู่ที่ตลาดอีกที กระทั่งช่วง “โควิด” มานี้กอปรกับวัตถุดิบต่าง ๆ ในการปรุงอาหารราคาแพงขึ้นมาก ก็เลยเลิกทำร้านอาหารมาเน้น “ขนม” เป็นหลักจนถึงทุกวันนี้แทน
“ถ้ากล้วยข้าวเม่า ไข่ พี่เปา นี่30 กว่าปีแล้วค่ะ ทำมานานแม่ให้มา ก็ทำเรื่อยมา ส่วน “ข้าวตู” ทีแรกก็ทำไม่เป็นค่ะ พอดีพี่สาวมาสอนให้ทำแล้วพอดีมีออร์เดอของอาจารย์(อ.ประทีป มายิ้ม) เข้ามาก็เยอะอยู่ตอนนี้ ทีนึง200-300 ชิ้น และเราก็รับออร์เดอจากข้างนอกด้วย ก็ขายไปตามเกาะล้านอะไรแบบนี้ด้วยค่ะ” และนอกจากนี้ก็ยังมีรับทำ “ขนมมงคล” สำหรับงานพิธีการต่าง ๆ ด้วย ส่วนของคาวก็จะรับทำเป็นแบบกับข้าวยกเป็นหม้อ ๆ ไปเลย หรืออย่างเมนู “แกงไก่กะลา” กับ“ห่อหมกปลาเรียวเซียว” ซึ่งถ้าหากว่าลูกค้าอยากจะทานก็คือต้องมีการโทรสั่งล่วงหน้าเข้ามาก่อน จะไม่ใช่เป็นการทำเตรียมไว้อยู่ตลอด เพราะต้องมีการเตรียมของต่าง ๆ ด้วยซึ่งค่อนข้างวุ่นอยู่พอควร สำหรับในการปรุงแกงต่อครั้งหนึ่ง ๆ
ทีเด็ด “กล้วยข้าวเม่าทอด” ที่ไม่ใช้ข้าวเม่าทำ!!?
เจ๊ตุ๊กยังได้เล่าถึงขนมไทยโบราณ “กล้วยข้าวเม่า ไข่ พี่เปา” ทั้ง3 อย่างนี้ที่ตนเองใช้ทำกินมาตลอด30 กว่าปีให้ฟังด้วย “อย่างอันนี้ปกติแล้วเขาจะใช้เป็นข้าวเม่าที่ตำ เอามาทำ แต่ว่าสูตรของเราแม่สอนมาให้ใช้ “ข้าวเหนียว”ทำ เขาบอกว่ากินแล้วมันจะไม่ติดฟัน เราจะผัดกับน้ำกะทิก่อนให้มีรสมัน ๆ คล้ายกับทำข้าวเหนียวมูน เวลาที่คนกินแล้วจะไม่ติดฟันจะกรอบ ซึ่งถ้าเป็นข้าวเม่าจะเหนียว จะกินติดฟัน แต่บางครั้ง(หัวเราะ) เขาก็บอกว่าอุ๊ย! ข้าวเม่าปลอม ก็เลยบอกว่าอ๋อที่บ้านไม่รู้นะแม่สอนมาให้ทำแบบนี้ ก็ใช้แบบนี้ แต่ลองเอาข้าวเม่ามาใส่ดูแล้วไม่อร่อย! เป็นเหนียว ๆ เป็นแบบไม่อร่อยน่ะค่ะ มันเป็นเหนียว ๆ ก็เลยใช้ข้าวเหนียวทำมาตลอด”ส่วนในการทอดเจ๊ตุ๊กเล่าว่าที่อื่นเขาก็จะทอดแบบไม่มีฝอย (หรือแพข้าวเม่า) แต่อย่างของเจ๊ตุ๊กจะต้องมีด้วยเพราะว่าลูกค้ามักจะขอฝอยของข้าวเม่าอยู่เสมอ ซึ่งส่วนประกอบหลักในการทำก็จะมีแป้ง ไข่ เกลือและก็กะทิ
“ข้าวตูโบราณ” จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ นุ่มหนึบหวานที่รับประกันไม่ติดฟัน!
“ข้าวตูของเรา เราจะใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ทำ มีส่วนผสมของข้าวไรซ์เบอร์รี่และก็ใช้ข้าวหอมแบบ100% เลย แล้วเขาบอกว่าถ้าใช้ข้าวแข็งไม่อร่อยนะคะ พี่สาวบอกว่าจะกินแล้วก็กระด้าง ๆ ไม่นุ่ม แต่อันนี้จะเหนียวนุ่มจ้ะ ข้าวตูทีแรกก็ทำไม่เป็นค่ะ พอดีพี่สาวมาสอนก็ทำแล้วพอดีมีออร์เดอของอาจารย์ฯเข้ามาด้วย ก็เยอะอยู่ตอนนี้ ทำมีส่วนผสมของไรซ์เบอร์รี่และก็ใช้ข้าวหอม100% จ้ะบางทีก็มีข้าวสังข์หยด และก็ข้าวกล้อง ของเราใช้ข้าวหุงใหม่ ๆ เลย หุงใหม่ตากเลยที่เอามาทำเป็นข้าวตู”
เทคนิคไข่หงส์และซาลาเปาทอดอย่างไรให้พองตัวดี? แบบไม่อมน้ำมัน!
ส่วน “ไข่หงส์” กับ “ซาลาเปาทอด” เจ๊ตุ๊กก็บอกด้วย ถ้าซาลาเปาจะเป็น “ไส้หวาน” ใช้ถั่วดำทำ แล้วก็ไส้เค็มจะเป็นถั่วเขียวใส่ กระเทียม เกลือ พริกไทย แต่ถ้าใส้ถั่วดำก็ใส่น้ำตาล ผัด“ถ้าไข่หงส์ก็จะกินออกมีรสเค็มหอมและเผ็ดพริกไทย แล้วก็จะเจอเกล็ดน้ำตาลที่ฉาบเคลือบอยู่ด้านนอกเอาไว้ เพื่อให้ความหวานด้วย แต่ว่าบางคนเขาก็ไม่เอาน้ำตาลเคลือบ เขาก็บอกได้ ก็กินเข้าไปก็จะออกเค็มแล้วหวานเนื้อแป้ง และก็จะไปเจอไส้มีเค็ม-มีหวาน(ซาลาเปาทอด) รวมกันกับเนื้อแป้งก็จะลงตัวพอดี”
ซึ่งไข่หงส์กับซาลาเปาจะคนละไส้กัน โดยไข่หงส์จะเป็นไส้ถั่วเขียว(เค็ม) แต่ถ้าเป็นซาลาเปาก็จะไส้ถั่วดำ(หวาน) ทั้งนี้ในการทอดขนม2 อย่างนี้เจ๊ตุ๊กบอกว่า จะใช้ระยะเวลาในการทอดนานประมาณเกือบ ๆ ครึ่งชั่วโมง โดยระดับไฟที่ใช้ทอดในช่วงแรกๆ จะต้องเสมอก่อน(ใช้ไฟเบาก่อน) ทอดใช้ไฟเบา ๆ ไปจนกระทั่งตัวของขนมค่อย ๆ ลอยขึ้นมาแล้ว จึงค่อยเร่งไฟ“พอเขาเริ่มเหลืองเราเร่งไฟน้อย ๆ แล้วเราก็คลึงไป ให้เขาเหลืองเสมอกันแล้วก็จะไม่อมน้ำมัน แต่ถ้าเราใส่แบบฟู่ ๆ ไปเลยตั้งแต่แรก เขาก็จะลอยขึ้นมา ๆ แล้วก็ดิบใน และก็ยกขึ้นมาก็อมน้ำมันแบนไปเลย เขาจะไม่พองตัว”
มาเที่ยวพัทยา ต้องห้ามพลาดชิมของดี “ห้วยใหญ่”!
เจ๊ตุ๊กบอกว่า ถ้าเป็นลูกค้ามาสั่งเพื่อไปใช้สำหรับการจัดเบรก หรือจัดประชุม บางทีก็มีการบอกล่วงหน้าไว้ก่อนเป็นสัปดาห์เขาจะบอกไว้ว่า จะมารับขนมเป็นวันไหนหรือวันที่เท่าไหร่ ลูกค้าก็จะบอกวันเอาไว้ หรืออย่างพวกเม็ดขนุน ข้าวเหนียวแก้ว พวกขนมมงคลต่าง ๆ ก็จะสั่งล่วงหน้าไว้เหมือนกัน แต่ถ้าอย่างข้าวตูเขาก็จะสั่งไว้ ประมาณ1 วัน เป็นต้น ส่วนเรื่อง “ราคา” ก็จะมีแบบส่ง(ไม่ได้แพ็กให้) ราคา4 บาท/ชิ้น อย่างถ้าเป็นซาลาเปา-ไข่หงส์ก็จะขายอยู่ที่ ราคา5 บาท/ชิ้น ซึ่งถ้าคนซื้อไปขายต่อส่วนมากเขาก็จะขายในราคา “3 ลูก20 บาท”
“สมัยก่อนก็ขับรถไม่ค่อยเป็น ก็ขับไปขายบางเสร่ขายดีมาก ไปพักเดียวขนมหมดเกลี้ยง ซึ่งสมัยก่อนขายลูกละ2 บาท ตอนทำส่งเขาลูกละ80 สตางค์ ทำส่งเมื่อสมัยที่ลูกยังเล็ก ๆ ตอนนี้ก็30 กว่าแล้ว ตอนลูกเล็ก ๆ โอ้ยทำกัน ตอนไปขายที่บางเสร่ได้ลูกละ2 บาท ข้าวเม่าก็แพละ 10 บาท จาก10 บาทก็มาเป็น20 บาท แต่ว่าตอนนี้ต้องเป็น25 บาท เพราะว่ากล้วยก็แพงขึ้นด้วย”
และสำหรับลูกค้า(นักท่องเที่ยว) ที่มาเที่ยวพัทยาอยากจะชิมขนมไทยโบราณต้นตำรับจาก “บ้านทองอยู่” ซึ่งเจ๊ตุ๊กก็บอกด้วยว่า สามารถโทรมาถามก่อนได้วันนี้ร้านเปิดไหม สามารถโทรมาสั่งไว้ก่อนได้ แล้วก็ค่อยขับรถเข้ามารับที่ร้านอีกที“แต่พูดถึงว่าตอนนี้ที่ยืนพื้นเลยก็มี ไข่หงส์ ซาลาเปา กล้วยข้าวเม่าทอดเลยจ้ะ แล้วก็พอมีออร์เดอมาบางวันเราก็ให้ลูกรับออร์เดอเลย เปิดข้าวตู
เปิดข้าวเหนียวแก้ว อะไรพวกนี้ด้วยค่ะ”แต่ถ้าเป็น “ของคาว” ก็มี แกงไก่กะลา ห่อหมกปลาเรียวเซียว ซึ่งหากลูกค้า(นักท่องเที่ยว) ท่านใดอยากจะลองลิ้มชิมรสชาติดูสักครั้ง เจ๊ตุ๊กบอกว่าจะต้องโทรมาสั่งก่อนแล้วจึงจะทำให้แบบเฉพาะออร์เดอที่สั่งเท่านั้น
ในตอนท้าย ผู้ใหญ่บ้านหมู่1 ต.ห้วยใหญ่ นายอิทธิพัทธ์ ห้วยใหญ่ ยังได้ฝากเชิญชวนด้วยว่า“ถ้าท่านมาเที่ยวพัทยาอย่าลืมแวะมาชิม ห่อหมกฯ ห้วยใหญ่ แกงไก่กะลา อย่าพลาดนะครับ”
สงกรานต์นี้ หากใครมีแพลนหนีเที่ยวไปสัมผัสลมเย็น ๆ จากทะเล ให้คลายความร้อนจากอากาศที่กำลังระอุ เชื่อว่า “พัทยา” น่าจะเป็นอีกหมุดหมายของหลาย ๆ คน เลยอยากจะเชิญชวนว่า อย่าลืมแวะเข้าไปท่องเที่ยวในชุมชนใกล้เคียงเพื่อตามรอยของดังท้องถิ่นของกินในชุมชนด้วยนะ ที่รับรองว่าจะเป็นอีกการเปิดประสบการณ์ในการท่องเที่ยวที่ครบรสมากยิ่งขึ้น ซึ่งมี ต.ห้วยใหญ่ รวมทั้งอีกหลาย ๆ แหล่งที่รอให้คุณเข้าไปเที่ยวชม เป็นการช่วยในเรื่องของการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชมด้วย ได้เวลาของการลุกขึ้นมาทำกินและออกไปใช้ชีวิตกัน เราบอบช้ำจากวิกฤต “โควิด-19” กันมามากพอแล้ว!
สอบถามเพิ่มเติม โทร.089-831-9759 ร้านคาว หวาน บ้านทองอยู่
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด