วันนี้ ถ้าพูดถึงกระเทียมดำไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะทั้งโลกออนไลน์ หรือ ช่องทางทีวีดิจิทัล มีการโฆษณาขายกระเทียมดำกันอย่างคึกคัก และหนึ่งในแบรนด์ที่ทุกคนรู้จักกันดี นั่น คือ B-Garlic ซึ่งวันนี้ พาไปรู้จักกับเจ้าของนวัตกรรมกระเทียมดำ B-Garlic “คุณนพดา อธิกากัมพู” ทายาทรุ่นที่ 3 ที่เข้ามาต่อยอดกิจการค้าขายกระเทียมสดของครอบครัว และเป็นมายังไงกลายเป็นนวัตกรรมกระเทียมดำ โด่งดังไปทั่วประเทศ
คุณนพดา อธิกากัมพู กรรมการผู้จัดการ บริษัท นพดา โปรดักส์ จำกัด เล่าว่า B-Garlic กระเทียมดำ B-Garlic มีจุดเริ่มต้นจากครอบครัว ทำธุรกิจ ค้าขาย กระเทียมสด มาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณปู่ นับเป็นธุรกิจที่ส่งต่อจาก รุ่นต่อรุ่น ตั้งแต่ปี2510 มาถึงปัจจุบัน คุณนพดาเป็นทายาทรุ่นที่ 3 เริ่มสืบทอดธุรกิจและบริหารงานมาอย่างต่อเนื่อง และต่อมาในช่วง ปี2550 ตลาดกระเทียมเริ่มมีการปรับเปลี่ยน กระเทียมจีน เริ่มเป็นที่นิยม. เพราะมีขนาดที่ใหญ่กว่า แต่มีราคาถูกกว่ากระเทียมไทย
โดยในปี2558 เกิดการแข่งขันด้านราคากระเทียมในตลาดอย่างรุนแรง ทำให้เกษตรกรที่ปลูกกระเทียม ได้รับผลกระทบเป็นอันมาก ในขณะที่ตลาด ต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์กระเทียมดำ กลับมีราคาที่สูงมาก กิโลกรัมละ2000-3000 บาท แต่ ราคากระเทียมสดในเมืองไทยกลับต่ำมาก ผมตัดสินใจนำเข้าเครื่องจักรเข้ามา ผลิตกระเทียมดำ เพื่อเพิ่มมูลค่ากระเทียมไทยให้มีราคาที่สูงขึ้น และได้ ช่วยเหลือเกษตรกร ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จึงเกิดเป็นนวัตกรรม กระเทียม B-Garlic ภายใต้ บริษัท นพดาโปรดักส์ จำกัด ขึ้นในปี 2559
ทั้งนี้สามารถที่จะเพิ่มมูลค่าจากกระเทียมสดราคากิโลกรัมละ50 บาท เป็นกระเทียมดำกิโลกรัมละหลักพันบาทได้ โดยอ้างอิงจากข้อมูล ของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศวิตา จิวจินดา ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัย มหิดล พบว่า ในกระเทียมดำที่ผ่านกระบวนการผลิตด้วยความร้อน มีคุณค่าสารอาหารที่เพิ่มขึ้น หลายเท่า เมื่อเทียบกับปริมาณกระเทียมสดที่เท่ากัน กระเทียมดำมีประโยชน์ ในการช่วยต้าน อนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง ชะลอวัย ลดความดัน ไขมัน เบาหวาน ฯลฯ โดยที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ B-Garlic เป็นกระเทียมดำ เจ้าแรกแห่งเดียว ในไทยที่ได้รับมาตรฐานGMP HACCP HALAL และมาตรฐาน อย.
Facebook : B-garlic กระเทียมดำเพื่อสุขภาพ
โทรศัพท์ 093-535-0989