สวนไผ่คุณน้อย แนะวิธีเพิ่มมูลค่าจากไผ่ 1 ต้น > ใบ ทำชาดื่มล้างสารพิษ > ลำ บดผงใช้ในอุตสาหกรรมด้านความงาม และการปศุสัตว์ รวมถึงเผาถ่าน “ชาร์โคล” เกรดคุณภาพสูงที่ตลาดรองรับไม่อั้น! ได้อีก ชี้! เป็นมากกว่าไม้ไผ่ขายลำจากประโยชน์ที่แท้จริง
คุณประสพสิน แม้นทิม เจ้าของ “สวนไผ่คุณน้อย” อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เล่าให้ฟังว่า บนเนื้อที่ผลิตกว่า 70 ไร่แห่งนี้ เปิดเป็น “ศูนย์เรียนรู้” สำหรับผู้ที่มีความสนใจในอาชีพด้านการปลูกไผ่ เพื่อเป็นรายได้เสริมหรือรายได้หลักก็สุดแท้แต่ละคนจะเลือกทำ สืบเนื่องมาจากเมื่อหลายปีก่อนได้ทำงานวิจัยกับทาง ม.เกษตรศาสตร์ ที่มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชูบุ จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อศึกษาว่า “ไผ่” มีคุณสมบัติอย่างไร และการใช้ประโยชน์อย่างไรในเชิงอุตสาหกรรมและภาคเกษตร ดังนั้นพอสิ้นสุดโครงการฯ แต่ว่าการดำเนินงานในเรื่องของการส่งเสริมอาชีพปลูกไผ่ “สหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกไผ่กาญจนบุรีจำกัด” ซึ่งมีสมาชิกอยู่300 กว่าราย ที่ยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และการที่มีองค์ความรู้ครบถ้วนอยู่ที่นี่แล้วตลอดจนเทคโนโลยีการผลิตต่าง ๆ พร้อมถ่ายทอดให้กับผู้ที่มีความสนใจทั่วไปด้วย
เรียนรู้จาก “ไผ่ซางหม่น(ราชินี)” ไผ่เศรษฐกิจที่น่าสนใจ
เจ้าของสวนไผ่คุณน้อย เล่าว่า การศึกษาวิจัยโดยใช้ไผ่ทั้งหมด 5 สายพันธุ์พบว่า ไผ่นวลราชินีหรือไผ่ซางหม่น เป็นไผ่ที่มีคุณภาพดี มีคุณสมบัติในภาคก็ดีมีสารในตัวไผ่ค่อนข้างเยอะ และในเชิงอุตสาหกรรม ไผ่ถ้ามีอายุ 30 ปี “ความแข็ง” เท่ากับไม้สักอายุ 40-50 ปี เพราะฉะนั้นในเชิงอุตสาหกรรมไปทำวัสดุก่อสร้างไผ่ชนิดนี้จึงมีความเหมาะสมมากกว่า ก็เลยเลือกจาก5 สายพันธุ์มาเป็นพันธุ์นี้ที่เน้นปลูกอยู่ เหตุผลที่เลือกเพียงชนิดเดียวก็เพราะว่า การทำในเชิงพาณิชย์ถ้าปลูกไผ่หลากหลายสายพันธุ์การจัดการยาก และเวลาเก็บผลผลิตมีหลากสายพันธุ์เกินไปทำให้คุณภาพก็มีหลากหลายด้วย ดังนั้นจึงต้องเน้นที่ตรงกับความต้องการใช้งานของลูกค้าเป็นหลักมากกว่า
สร้างมูลค่าเพิ่มจาก “ใบ” แปรรูปทำชาชงดื่มได้
จริง ๆ ตรงนี้จะทำเป็นศูนย์เรียนรู้ และจะสร้างอาชีพแนะนำให้กับเกษตรกรไปต่อยอด แล้วก็จะทำ Marketing ให้ด้วย อันนี้คือเป้าหมายของที่นี่ จะเป็นการให้ความรู้ เพราะฉะนั้นก็จะทำเป็นตัวอย่างให้ดู “ตัวอย่างของเราเนี่ยเราก็จะเริ่มจากการปลูก ปลูกเสร็จใน 1 ปี เราก็เอา “ใบ” มาทำเป็นใบชา ที่จะสร้างรายได้ในปีแรก ใบชาก็จะมีคุณประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ เป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่ง เพราะมันมี “ไบโอซิลิก้า” ในการดูดสารพิษแล้วขับออกมา เพราะฉะนั้นคนที่บริโภคเข้าไปก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง ลดไขมันในเส้นเลือด ซึ่งอันนี้ก็คือคุณประโยชน์ที่ได้จากใบ”
“ลำต้น” อายุยังไม่ถึง 3 ปีจะใช้ประโยชน์อยู่ 2 แบบ
ในขณะที่มีการตัดแต่งกอก็จะได้ “ลำ” ที่ถูกตัดออก โดยจะนำมาเข้าเครื่องสับชิ้นทำเป็น “ชิปเปอร์” ท่อนเล็ก ๆ ทำปุ๋ยหรือใช้เป็นวัสดุคลุมดินสำหรับการเพาะปลูกพืช แต่ว่าถ้าเป็นต้นหรือลำแก่ที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป จะนำมาทำ Bamboo Powder หรือแป้ง ซึ่งเป็นวัสดุที่นำไปใช้เลี้ยงวัวได้ ในการโรยลงไปบนหญ้าอาหารของการเลี้ยงวัว และผงแป้งนี้ยังนำไปทำเป็น “น้ำหมักชีวภาพ” ใช้ราดให้วัวกินได้ โดยในน้ำหมักฯ จะมีจุลินทรีย์กลุ่มแลคโตบาซิลลัสที่เป็นประโยชน์ ช่วยทำความสะอาดกำจัดของเสียที่อยู่ในกระเพาะและลำไส้ด้วย ทำให้วัวสามารถดูดซึมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต สมบูรณ์และมีสุขภาพดี นอกจากนี้ ยังใช้เป็นส่วนผสมในสูตรอาหารเลี้ยงสัตว์ปีก ใช้ประมาณ 30% สำหรับการเลี้ยงไก่ ทำให้ได้คุณภาพ “ไข่”ที่ออกมาจะดีกว่า ซึ่งในญี่ปุ่นจะนิยมใช้ผงตัวนี้อยู่ หรือผงไผ่ในอีกแบบหนึ่งก็คือเป็น Food สำหรับคนด้วย นำไปทำขนม รวมถึงมีการใช้ประโยชน์ทางด้านความงามทำเป็น “สครับ” ช่วยในการขัดผิวอีกด้วย
“เพราะฉะนั้นตัวผงนี่ (Bamboo Powder) ก็จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้ค่อนข้างดี จากไผ่ 1 ต้นเนี่ย ถ้าเราขายไผ่1 ต้นได้ 60 บาท แต่1 ต้นนี้ถ้าทำเป็นผงได้1 กิโลกรัม ก็จะได้เงิน 120 บาทแล้ว และก็คนที่ใช้ตัวนี้จริง ๆ ก็คือเป็นเครือข่ายญี่ปุ่น ที่เป็น contact อยู่กับเรา ที่เขาเลี้ยงฟาร์มไก่อยู่ เขาก็เอาตัวนี้ไปผสมกับอาหารไก่ แล้วตัวไข่เนี่ยโดยเฉพาะ “ไข่ขาว” มันจะมีโปรตีนและคุณสมบัติค่อนข้างดีในการดูแลสุขภาพ”
การทำผงแป้งหรือ Bamboo Powder โดยจะใช้เครื่องบดลำไผ่ซึ่งจะได้ออกมาเป็นลักษณะของผงหรือ “แป้ง” ความชื้นอยู่ที่ประมาณ 30-35% จากนั้นนำไปเข้าสู่กระบวนการหมักไว้อีกประมาณ 21 วัน โดยการใส่ลงในถังแล้วปิดฝาไว้ การหมักจะเป็นกระบวนการของตัวมันเอง (การออกซิเดชัน) จุลินทรีย์ก็จะทำงาน ซึ่งพอสิ้นสุดกระบวนการแล้วตัวผงก็จะค่อย ๆ แห้งและฟูขึ้นมา พอครบกำหนด 21 วันก็สามารถนำผงหรือแป้งไปใช้ได้แล้ว แต่ถ้ากรณีจะนำไปใช้ใน “เวชสำอาง” ต้องแจ้งให้ทราบก่อนทำการผลิตให้ด้วย เพื่อที่ว่าจะได้มีการ “อบ” และร่อนให้ใหม่ผงแป้งที่ได้ก็จะมี เบลนด์ละเอียดมากขึ้นกว่า
การเผาถ่าน “ชาร์โคล” เกรดคุณภาพสูงจากไม้ไผ่อายุ 3 ปีขึ้นไป
ไผ่ที่แก่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป “ลำ” ที่ได้ ก็จะไม่มีการกำหนดไซส์เล็กหรือใหญ่ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งานเป็นหลัก เช่น ถ่านที่ต้องการนำไปหุงข้าว(ใส่ในหม้อหุงข้าว) ก็คือจะดีไซน์เป็นชิ้นเล็ก ๆ พอเผาเสร็จก็จะนำถ่านที่ได้นี้ไปใส่ในหม้อหุงข้าว จะช่วยดูดกลิ่นและทำให้ข้าวมีความหอมและนุ่มขึ้น อันนี้ในญี่ปุ่นจะใช้กันมานานแล้ว อันที่สองต้องการนำชาร์โคลตัวนี้ไปใช้ดูดซับสารพิษในบ้าน ก็อาจจะบอกถึงวิธีการใช้มาว่าใส่ไว้แจกัน ซึ่งการดีไซน์ขนาดออกมาก็คือประมาณ 1 ฟุต ผ่าออกมาแล้วก็เผา เสร็จแล้วก็นำไปเสียบในแจกัน ซึ่งพอครบ 2 เดือนก็เอาออกมาล้าง ต้มน้ำให้เดือดแล้วนำไปล้างชาร์โคลที่ผ่านการใช้งานมา จากนั้นผึ่งลมไว้ให้แห้งดีแล้วจึงนำไปใช้งานต่อได้อีก อันที่สามซึ่งได้มีการ contact กับทางเยอรมันที่ต้องการนำไปใช้เป็นรูปแบบ “ถ่าน” ที่ให้พลังงานความร้อนสำหรับคนเมืองหนาว โดยมีวิธีการจากการวิจัยแล้วคือว่า จะต้องบดก่อนแล้วจึงอัดเป็นก้อน ความร้อนที่ได้จะสูงขึ้นด้วย และการติดไฟง่าย ซึ่งอันนี้กำลังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการใช้ในครัวเรือนต่อไป
กับอีกส่วนหนึ่งที่นำถ่านนี้ไปใช้ ในการปิ้งย่างก็คือจะเป็น “ถ่านไร้ควัน” ซึ่งลูกค้าหรือร้านอาหารสามารถเลือกไซส์ได้ ต้องการเล็ก-ใหญ่ หรืออาจจะชิ้นเล็ก ๆ 1 นิ้ว 2 นิ้วก็ทำได้หมด และจากคุณสมบัติของถ่านที่ได้ในการเผารอบแรกแล้ว พอเผาอีกเป็นรอบที่สองด้วยเตานี้ 1,250 องศาเซลเซียส ที่สามารถเก็บความร้อนได้ไม่ต่ำกว่า 750 องศาฯ ขึ้นไป ความระอุถึง 1,000 องศาฯ เพราะฉะนั้นวัตถุประสงค์อีกอย่างก็คือ เอามาบด(อัดเป็นเม็ดยากินแก้ท้องเสีย) หรือใช้กรองน้ำในเครื่องกรองน้ำ แต่ว่าการตรวจสอบคุณสมบัติของถ่านที่ใช้ได้คือต้องผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดเอาไว้ด้วย เป็นต้น
สำหรับการเผาถ่านชาร์โคลด้วยเตาเผาที่ออกแบบขึ้นมานี้ เจ้าของสวนไผ่คุณน้อยได้อธิบายถึงขั้นตอนให้ฟังว่า อันดับแรกไม้ไผ่ที่นำมาใช้จะต้องแก่(อายุ3 ปีขึ้นไป) และต้องตากไม้ให้แห้งสนิทก่อนนำเข้าเตาเผา จากนั้นกำหนดไซส์หรือขนาดของถ่านที่ต้องการใช้งาน ก่อนจะบรรจุชิ้นไม้ลงไปในเตา โดยที่เตาจะมีลักษณะของการเผาไหม้ คือ พอจุดไฟที่ปากปล่องด้านหน้าของเตาแล้ว ความร้อนก็จะวิ่งผ่านท่อขึ้นด้านบนพร้อมกับแผ่กระจายไปจนทั่วในเตา แบบไม่ได้จุดติดไฟกับตัวไม้ในเตาโดยตรงเลย สำคัญคือว่าไฟที่จุดหน้าเตาตั้งแต่แรกจะต้องติดอยู่ตลอดในช่วงของ 30-45 นาทีแรก ก็เพียงพอแล้วสำหรับกระบวนการในการเผาถ่านซึ่งจะใช้ระยะเวลารวมทั้งหมด ประมาณ 10 ชั่วโมง ก็เป็นอันสิ้นสุดและได้ถ่านชาร์โคลที่พร้อมใช้งานแล้ว ทั้งนี้ การเผาถ่าน 1 รอบจะได้ชาร์โคลอยู่ที่ประมาณ 50-60 กก. ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของไม้เป็นสำคัญ
จากรูปแบบของสวนไผ่ที่ดีไซน์ให้ภายใต้แนวคิดนี้ เช่น ถ้าคนปลูกต้องการผลผลิตคือ “ไม้ไผ่” เป็นหลัก ระยะปลูกที่แนะนำก็จะมี 1x1 เมตร ได้ 400 กอ/ไร่ และ 4x4 เมตร ได้ 100 กอ/ไร่ เป็นต้น การลงทุนในการปลูกไผ่จะใช้ในช่วงแรก ๆ เท่านั้นอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท/ไร่ หรือหากต้องการรูปแบบของสวนไผ่เป็นแนวผสมผสาน เช่น ทำเป็นแนวแบมบูคาเฟ่ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจร้านกาแฟ ทำเป็นแนวเกษตรท่องเที่ยว ก็สามารถคุยกันก่อนเพื่อวางแผนรูปแบบของสวนไผ่ให้ได้ จากนั้นการเริ่มสร้างรายได้ในลักษณะของการเพิ่มมูลค่าเป็นรูปแบบของผลิตภัณฑ์แปรรูป ก็สามารถทำได้จากตัวอย่างการผลิตที่กล่าวมาแล้ว ในปีแรกจะใช้ “ใบ” ทำชาชงดื่มได้ ซึ่งปัจจุบันราคาจำหน่ายสำหรับชาใบไผ่ ขนาดบรรจุ6 ซองใหญ่และ 15 ซองเล็กในราคา 90 บาท ถัดมาคือ “ลำ” ที่ได้จากการแต่งกอสามารถนำมาเข้าเครื่องสับชิ้นทำ “ชิปเปอร์” สำหรับใช้ในการคลุมดินเพาะปลูกหรือใช้รองพื้นในเล้าไก่ไข่ ซึ่งช่วยดับกลิ่นได้ดีมาก ๆ และพอโละออกพร้อมกับมูลหรือขี้ไก่ก็ยังกลายเป็นปุ๋ยอย่างดี สามารถจำหน่ายได้ราคากิโลละไม่ต่ำกว่า 10 บาทอีก ในขณะที่ชิปเปอร์ราคาจำหน่ายเพียง 5 บาท/กก. ต่อด้วย “ลำแก่” ที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไปใช้บดทำแป้ง Bamboo Powder ที่ใช้สำหรับการปศุสัตว์และด้านความงาม ซึ่งมีราคาจำหน่ายตั้งแต่กิโลกรัมละ 120 บาท/กก.ขึ้นไป จนถึง “ลำแก่” อายุ 3 ปีขึ้นที่นำมาเข้าเตาเผาถ่านชาร์โคลได้แล้ว ซึ่งราคาของถ่านชนิดนี้ก็จะเริ่มต้นที่ 60-80 บาท/กก. เป็นต้น รวมถึง “ไม้ไผ่” เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่สามารถขายควบคู่ในปีที่ 3 ขึ้นไป จะมีออร์เดอเข้ามาที่กลุ่มอยู่เรื่อย ๆซึ่งราคารับซื้อจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท/ตัน เป็นต้น
“เพราะฉะนั้นตรงนี้แหละที่ว่า มูลค่าเพิ่มมันจะสูง เราพยายามที่จะคุยให้กับเกษตรกรเขาได้เลือก ถนัดเผาถ่านมั้ย ถนัดในการปลูกมั้ย ถนัดในการทำอย่างนี้แล้วมาส่ง ให้เขาเลือกเอา แล้วเขาเหมาะมั้ย เราก็บอกถ้าทั่วไปตอนนี้เราซื้อแต่ราคาจะต้องคุยกับเราก่อนปลูก เราจะได้รู้ว่าปริมาณไผ่ลูกไร่เรามีทั้งหมดเท่าไร อย่างตอนนี้ที่ซื้ออยู่ลำสดก็ตันละ 1,000 บาท แต่ถ้ามาเผาถ่านก็จะกำหนดสเป็กให้เลยต้อง3 ปีขึ้นไป หรือมาบดแป้งก็ต้อง 2 ปีขึ้นไป เกณฑ์ก็จะอยู่ประมาณนี้”
ขอบคุณสวนไผ่คุณน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี สอบถามเพิ่มเติม โทร.099-282-6924
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *