“หมี่เตี๊ยว” เมนูอาหารเส้นของชาวจีน ที่สืบทอดกันมานานนับร้อยปี เชื่อกันว่าบรรพบุรุษจีนที่อพยพเข้ามาในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้นำการทำเส้นหมี่เตี๊ยวเข้ามาทำกิน และทำขายตั้งแต่ในสมัยนั้น วันนี้ พามารู้จัก กับ หมี่เตี๊ยวแบรนด์ดังของฝากขึ้นชื่อ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี นั่นคือ “หมี่เตี๊ยวตรา หงษ์-มังกร” สืบทอดกันมาตั้งบรรพบุรุษชาวจีน ที่อพยพเข้ามาอาศัยตั้งรกรากในประเทศไทย ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
หมี่เตี๊ยว สูตรดั้งเดิมมาพร้อมกับชาวจีนอพยพ สมัยอยุธยา
นายวรพจน์ ทองเวโรจน์ เจ้าของ หมี่เตี๋ยวตราหงษ์-มังกร เล่าว่า เดิมประเพณีวัฒนธรรมของคนไทยเชื้อสายจีน เช่น วันเกิด วันตรุษจีน วันสารทจีน สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ หมี่เตี๊ยว เพราะเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเจริญงอกงาม อายุมั่นขวัญยืน บริสุทธิ์ผุดผ่อง วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตหมี่เตี๊ยว นั้นมีเพียงแป้งสาลีและน้ำเกลือจึงเก็บรักษาไว้ได้นานโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี ในอดีตจึงมีพ่อค้าชาวจีนที่ล่องเรือสำเภานำเส้นหมี่เตี๊ยวเข้ามาจำหน่ายในสยามประเทศตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา
ช่วงที่ชาวจีนอพยพมาอาศัยอยู่ในเมืองไทยและได้ตั้งรกรากอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี สิ่งหนึ่งที่บรรพบุรุษชาวจีนได้นำติดตัวมาด้วยคือ สูตรการทำหมี่เตี๊ยว แรกเริ่มผลิตเพียงเพื่อบริโภคภายในครัวเรือน ด้วยสภาพภูมิอากาศและความสมบูรณ์ของแหล่งน้ำทำให้เส้นหมี่ที่ผลิตได้มีคุณภาพที่ดีเป็นที่ต้องการของตลาด ต่อมาจึงส่งไปขายยังชุมชนชาวจีนทั่วไทย ด้วยคุณภาพและรสชาติที่ดี เส้นเหนียวนุ่ม เก็บไว้ได้นาน หมี่เตี๊ยวจึงเป็นของฝากที่ขึ้นชื่อ ของอำเภอบ้านโป่ง โดยหมี่เตี๊ยวยังสามารถนำไปประยุกต์ประกอบอาหารได้หลากหลาย เช่น หมี่เตี๊ยวผัดขี้เมาทะเล หมี่เตี๊ยวราดหน้า หมี่เตี๊ยวแกงเขียวหวานฯลฯ
จาก "อาม่า" ทำขายในร้านก๋วยเตี๋ยว สู่ โรงงานผลิตได้มาตรฐาน
นายวรพจน์ เล่าว่า ที่มาของ หมี่เตี๊ยวหงษ์-มังกร เริ่มขึ้นมาตั้งแต่สมัยอาม่า เมื่อ 70-80 ปีที่ผ่านมา อาม่า ก็ได้รับการถ่ายทอดสูตรการทำหมี่เตี๊ยว มาจากบรรพบุรุษ ซึ่งอาม่าจะทำกินในครอบครัวและทำขายบ้างในช่วงเทศกาล ขายอยู่ในชุมชน และสมัยก่อนอาม่าขายก๋วยเตี๋ยว รสชาติของก๋วยเตี๋ยวที่ถูกปากคนในพื้นที่และใกล้เคียง ทำให้คนมากินก๋วยเตี๋ยวอาม่าเยอะมาก อาม่าทำเส้นหมี่เตี๊ยวขายหน้าร้านไปด้วยหลายคนติดอกติดใจ หมีเตี๊ยวของอาม่าก็เลยมารับไปขายในจังหวัดของตัวเอง
ในส่วนของโรงงานลิ้มกวงเว้ง ก่อตั้งในปีพ.ศ.2535 โดย “คุณวรพจน์” ได้ทำการผลิต หมี่เตี๊ยวตรา หงษ์-มังกร โดยใช้กรรมวิธีแบบดั้งเดิมก่อนที่จะปรับเปลี่ยน เพราะด้วยปริมาณความต้องการมากขึ้น และเพื่อให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในมาตรฐานการผลิต จำเป็นที่จะต้องนำเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการผลิต แต่ก็ยังคงรสชาติในแบบที่อาม่าทำในอดีต และได้คัดสรรวัตถุดิบแป้งสาลีคุณภาพดีคัดพิเศษไม่ฟอกสีมาใช้เป็นส่วนผสมหลัก ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพของ “เส้นหมี่เตี๊ยวตราหงษ์-มังกร” มากขึ้น
“นอกจากนี้ยังพัฒนาสถานที่และกระบวนการผลิตจนผ่านการรับรองระบบการจัดการสุขลักษณะที่ดีในการประกอบอาหาร GHPs และได้รับการรับรองจาก อย. จากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย(HALAL) และยังได้รับการรับรองความอร่อยโดยเชลล์ชวนชิม ได้รับการคัดสรรเป็น OTOP ระดับ 5 ดาว ได้รับตราสินค้า “ราชบุรีพรีเมียม”จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จากโรงงานลิ้มกวงเว้ง อร่อย สะอาดและปลอดภัย” นายวรพจ กล่าว
หมี่เตี๊ยวตราหงษ์-มังกร ในมือทายาทรุ่นที่ 3
ด้วยเมนูที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
ด้านนายบัญชา ทองเวโรจน์ ผู้จัดการโรงงาน ทายาทรุ่นที่ 3 ของ หมี่เตี๊ยวตรางหงษ์-มังกร กล่าวว่า ในปัจจุบันการทำหมี่เตี๊ยวของครอบครัว ดำเนินกิจการมาถึงรุ่นที่ 3 ซึ่งโรงงานลิ้มกวงเว้ง มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ หมี่เตี๊ยว ตราหงษ์-มังกร ผลิตภัณฑ์บะหมี่ ตราไข่ ผลิตภัณฑ์แผ่นเกี๊ยว ตราไข่ มียอดขายปีละกว่า 11 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้า เช่น กลุ่มผลิตอาหารแช่แข็ง บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด(มหาชน), บริษัท ฟู้ดแอนด์ดริ๊งส์ จำกัด(มหาชน) กลุ่มค้าปลีก เช่น ห้างเคแอนด์เคค้าปลีก/ส่ง อ.หาดใหญ่, ห้างซุปเปอร์ชีป จ.ภูเก็ต, ห้างแสงทอง จ.ระยอง ฯลฯ ร้านของฝาก เช่น ร้านศรีฟ้า, วิมลวุ้นมะพร้าวอ่อน จ.กาญจนบุรี, วุ้นเส้นคลองขลุง จ.ตาก,ร้านไชโป้วตราแม่กิมฮวย ตราชฎา และมีตัวแทนจำหน่ายวางขายในตลาดสดทั่วประเทศ และมีการขายผ่านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada และในโซเชียลทั้งหน้าเพจเฟสบุ๊ก และ ไลน์
โดยชื่อของ หมี่เตี๊ยวหงษ์-มังกร เป็นหนึ่งในแบรนด์หมี่เตี๊ยว อันดับต้นๆ ของพื้นที่ภาคกลาง และภาคใต้ น่าจะเป็นรองเพียงแค่แบรนด์ดังในกรุงเทพฯ ซึ่งทางผู้ผลิตยังคงรูปแบบหน้าตา และรสชาติได้เหมือนต้นตำรับตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อนหน้านี้ จะเปลี่ยนแปลงไปแค่กระบวนการผลิต ที่นำเครื่องจักรและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยผลิตเท่านั้น และการทำงานของ "หมี่เตี๊ยวตราหงษ์ มังกร" ในรุ่นที่ 3 มีการปรับเรื่องช่องทางการขาย มีการแนะนำสินค้าขายผ่านโลกโซเชียลฯ และแพลตฟอร์มออนไลน์ มากขึ้น และเพื่อให้การนำหมี่เตี๊ยวไปปรุงอาหารได้เมนูที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่ใช้เฉพาะช่วงเทศกาล แต่สามารถนำเส้นหมี่เตี๊ยวไปปรับทำเมนูใหม่ สร้างช่องทางการขายในกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น เช่น เมนูผัดขี้เมา ผัดพริกเผา เป็นต้น ซึ่งหมี่เตี๊ยวมีข้อจำกัดที่ทำได้เฉพาะเมนูผัดๆ เท่านั้น
แผนขยายตลาดออกไปยังปท.เพื่อนบ้าน
ส่วนการตลาด มีแผนที่จะขยายตลาดในประเทศให้กว้างกว่านี้ ผ่านตัวแทนจำหน่าย และ การขยายตลาดไปในประเทศกลุ่มอาเซียน อีกหลายๆ ประเทศ เพราะกลุ่มประเทศอาเซียนกินอาหารใกล้เคียงกับประเทศไทย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการหาตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้นๆ ส่วนประเทศจีน คงจะไม่ไป เพราะมีหมี่เตี๊ยวทำขายกันอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว
หมี่เตี๊ยว เมนูเส้นๆ ที่คนไทยเชื้อสายจีน หรือ คนไทยรุ่นใหม่เองก็อาจจะลืมๆกันไปบ้าง เพราะไม่ค่อยเห็นมีการนำหมี่เตี๊ยวมาทำเมนูใหม่ ๆ จะเห็นหมี่เตี๊ยวเฉพาะในช่วงเทศกาลของจีนเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลตรุษจีน สารทจีน หรือ วันสำคัญของจีน อย่าง เทศกาลกินเจ ซึ่งจะเห็นหมี่เตี๊ยวผัดขายกันเป็นจำนวนมากในช่วงเทศกาลเหล่านั้น และการปรับตัวของผู้ประกอบการ ต้องหาช่องทางใหม่เพื่อเข้าถึงลูกค้า ด้วยเมนูที่คนรุ่นใหม่ชื่นชอบ ไม่เช่นนั้น หมี่เตี๊ยว จะเป็นเพียงเรื่องเล่าที่อาจจะหากินได้ยากในอนาคตก็เป็นได้
ติดต่อ โทร 032-201-160
Facebook : หมี่เตี๊ยว ตราหงษ์-มังกร
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด