xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) ของถูกและดี (ยังมีอยู่จริง!) ก๋วยเตี๋ยว 8 บาทตำนาน 25 ปี แจกสูตรฟรี! คนอยากมีอาชีพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราคานี้ยังอยู่ได้! ย้อนไป 25 ปีก่อนหมูกิโล 50 บาท ก๋วยเตี๋ยวชามละ 5 บาท อยู่ได้! ขายต่อเนื่องนานกว่า 14 ปีจนลูกค้าบอกให้ขึ้นราคาถึงปรับ 6 บาทอยู่ 6 ปี แล้วมา 8 บาทสัก 3 ปี ล่าสุดปีใหม่มาหมูแพงเกินเลยต้องปรับ 10 บาท แต่ว่ายังพออยู่ได้!


ชีวิตใหม่..เริ่มต้นได้เสมอและแม้ว่าต้นทุนชีวิตของแต่ละคนจะมาไม่เท่ากัน แต่เชื่อว่า “ใจที่สู้” ของทุกคนมีอยู่ไม่ด้อยไปกว่ากัน ในวัยเลขสามปลาย ๆ และอาจหมายรวมถึงคนอายุเลขสี่ขึ้นไปตอนนี้หลายคนซึ่งกำลังประสบภาวะ การต้องออกจากงานประจำมาทั้งที่ยังไม่พร้อม! เพราะส่วนใหญ่ยังมีภาระค่าใช้จ่ายที่ท่วมท้นแบบเดือนชนเดือนอยู่ เคยอาศัยเงินเดือนเป็นกระแสหลักในการหมุนเวียนชีวิตให้เคลื่อนหน้าไปได้เรื่อย ๆ แต่เมื่องานไม่มี-เงินก็ทำท่าจะหมดลงไปทุกที! แต่ในที่นี้ต้องขอบอกว่าเงื่อนไขบางส่วนอาจจะคล้ายกับชีวิตของหญิงแกร่งรายนี้ “ป้ามานัส บุญตา”หลังการออกจากงานมาในวัย 37 ปี ก็กลับบ้าน จ.ปทุมธานี มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยวิชาชีพที่มีติดตัว เปิดร้านขาย “ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ซึ่งได้ความเอื้อเฟื้อจากเพื่อนบ้านเจ้าของที่ดินว่างเปล่าให้เข้าใช้ทำมาหากินเพื่อเลี้ยงชีพต่อไป และโชคดีจากกลยุทธ์ราคาขายซึ่งเริ่มต้นตั้งเอาไว้เพียง “5 บาท” เพราะร้านอยู่ในที่อับและเข้าซอยลึก แต่ว่ากลับเป็นราคาที่ “ดีต่อใจ” ทำให้มีลูกค้าหลั่งไหลมาอุดหนุนกันเนืองแน่นร้าน จนถึงทุกวันนี้ซึ่งผ่านมากว่า 25 ปีแล้ว




“สมัยก่อนที่อื่นเขาขายกัน 10 บาทนะ แต่ของป้าถือว่าป้าอยู่ในซอยมันเป็นที่อับ ก็เลยขาย 5 บาท จุดเริ่มต้นเลยก็คือขาย 5 บาท สมัยก่อนหมูถูกด้วยกิโลละ 50 บาท มันก็อยู่ได้ก็มีกำไรบ้างนิดหน่อย ก็อยู่ได้มาตลอด คือป้าไม่ได้หวังรวยอย่างคนอื่นเขา
ป้าขอแค่มีกินมีใช้ก็เอาแล้ว”



ก๋วยเตี๋ยว 8 บาท ตำนาน 25 ปี
ลงทุนครั้งแรกประมาณหมื่นกว่าบาท ตอนนั้นที่เริ่มขายก็แบบเดียวกับทุกวันนี้เลย ก๋วยเตี๋ยวเรือ(หมู) มีเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่(ขาว) และส่วนเส้นบะหมี่ (เหลือง) เพิ่งจะมาเพิ่มด้วยในช่วงหลังเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เพราะว่าลูกค้าเขาเรียกร้องอยากให้เอามาขายด้วยป้าก็เลยต้องมีเพิ่มมา จากตอนแรกที่ไม่ขายเพราะว่า “ราคา” มันไม่ได้กับราคาก๋วยเตี๋ยวที่เปิดขายอยู่ ก็เลยขอกับลูกค้าว่าป้าขอเพิ่มเป็น 10 บาทได้ไหมขึ้นราคาเฉพาะเส้นหมี่เหลือง ซึ่งเขาก็โอเคไม่มีปัญหาอะไร “ขายมาตั้งแต่ปี 2540เริ่มต้นมาก็อย่างนี้เลย แต่แค่ปรับราคาขึ้นมาเท่านั้น 5 บาทตอนนั้นอยู่มา 10 กว่าปีประมาณ 14 ปีมั้ง ก็มาขึ้น 6 บาท(ขึ้นมาบาทเดียว)อีกประมาณ 6 ปีมั้ง แล้วมาขึ้น 8 บาทนี่ก็อยู่ประมาณ 3 ปี และเพิ่งจะมาปรับ 10 บาทเพราะช่วงนี้หมู 200 กว่าสู้ไม่ไหว! ก็เลยต้องปรับแต่จริง ๆ แล้ว ลูกค้าบอกให้ขาย 10 บาทมาตั้งนานแล้ว แต่ไอ้เราก็คิดว่าขาย 8 บาท เราก็พอมีกำไรอยู่ได้ช่วย ๆกันไป ก็อยู่ได้มาตลอด แต่ช่วงนี้มันไม่ไหวตรงหมู 200 กว่าบาทนี่ไง มันไม่ไหวตรงหมูแพงจัด!แล้วต้นทุนมันก็เยอะขึ้นด้วย”


ปริมาณที่ให้ “เยอะ”!! จนลูกค้าบ่น
ใครที่ได้ไปที่ร้าน โดยตั้งอยู่ในซอยสมประสงค์ ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี สิ่งที่เห็นนอกจากลูกค้าแวะเวียนกันมากินก๋วยเตี๋ยวอยู่ไม่ขาดแล้ว ร้านเปิดอังคาร-วันอาทิตย์(หยุดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 08.00น. ถึงบ่าย 3 หรือ 15.30 น.โดยประมาณ ภาพถ่ายที่รวบรวมสถิติในการกิน(จุมาก!) ของลูกค้าผู้ที่สามารถพิชิตก๋วยเตี๋ยวได้ตั้งแต่ 10 ชามขึ้นไป/คน/ครั้ง ป้ามานัสบอกว่าก็มีการติดโชว์ผลงานเอาไว้ที่นอกเหนือจากรางวัล แถมฟรี 1 ชาม! ให้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาทานที่ร้านก็จะเป็นลูกค้าประจำ ทำให้มีความคุ้นเคยกันดีทั้งเรื่องรสชาติและปริมาณในการสั่งแต่ละครั้งก็จะจำได้ว่า ใครทานอะไรบ้างและสั่งทีครั้งละกี่ชาม ๆ เป็นต้น ส่วนเรื่องปริมาณและก็ขนาดของชามใส่ก๋วยเตี๋ยวก็ยังใช้เป็นไซส์เดียวกันมาตลอด ซึ่งหากเป็นคนที่ทานปกติก็จะอิ่มได้เลยใน 1 ชาม หรือเต็มที่ 2 ชามก็จบแล้ว ลูกค้าที่มาจะบ่นกันว่าป้าให้เยอะเกิน เพราะด้วยนิสัยเป็นคนที่มือหนักอยู่แต่เดิม คือหยิบอะไรน้อย ๆ ไม่ค่อยเป็น ก๋วยเตี๋ยวที่นี่ก็เลยค่อนข้างจะให้ปริมาณเยอะ


ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเข้มข้นคนกินจืดทราบแล้วเปลี่ยน!
สำหรับทีเด็ดของร้านก็คงต้องยกให้เป็น “น้ำซุป” หรือสูตรน้ำก๋วยเตี๋ยวของที่นี่ ลูกค้าที่มาส่วนใหญ่จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
“น้ำซุปอร่อย” ป้ามานัสบอกว่าการทำน้ำก๋วยเตี๋ยวหรือน้ำซุปนั้นตนเองจะทำใหม่! แบบวันต่อวันเท่านั้น จะไม่มีการใช้สต็อกหรือน้ำหัวเชื้อ (เก่า) ที่เหลือหรือทำไว้แบบข้ามวันแล้วอย่างเด็ดขาด เพราะป้าไม่ชอบของเก่า ส่วนรสชาติที่นำหรือโดดเด่นเลยคือ หวาน กับเค็ม แต่ว่าในที่นี้คือจะไม่ใช่ว่า “หวาน” จนมากเกิน หรือว่า “เค็ม” จนมากไป แต่เพียงแค่เป็นรสนำเด่นขึ้นมากว่ารสอื่นๆ ก่อนเท่านั้น และจะต้องบอกกันให้ทราบไว้ก่อนว่ารสชาติของน้ำซุปที่นี่เป็นรสเข้มข้น อาจจะไม่ชอบสำหรับคนที่ทานรสชาติออกจืด ๆ สูตรของน้ำก๋วยเตี๋ยวที่นี่อาจจะไม่ตรงสเป๊กเท่าไร แต่หากใครที่ทานรสจัดหรือรสเข้มข้นอยู่แล้วรับรองว่าถูกปากอย่างแน่นอน ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่หลาย ๆคนอาจมีความกังวลอยู่ตอนนี้ ว่าร้านก๋วยเตี๋ยวจะใส่ “กัญชา” ด้วยหรือไม่นั้น เพราะเกรงว่าเรื่องของฤทธิ์จากกัญชาจะทำให้ส่งผลต่อสุขภาพของแต่ละคนที่อาจไม่เหมือนกันได้ ป้ามานัสได้ยืนยันให้สบายใจกันเลยว่า มาที่นี่ก๋วยเตี๋ยวไม่มีการใส่กัญชาอย่างแน่นอน เพราะว่าที่ร้านจะมีเด็ก ๆ มากินก๋วยเตี๋ยวกันเยอะและอีกอย่างตัวป้ามานัสเองก็ต้องกินก๋วยเตี๋ยวทุกวันอยู่แล้ว ดังนั้นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ร้านมีลูกค้ามาอุดหนุนอย่างไม่ขาดสายก็คงเป็นที่รสชาติของอาหารปรุงออกมาได้ถูกปากซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากกว่า

มื้อนี้อิ่มจุก ๆ ในราคารวม 25 บาท! คุณหนึ่งจาก The One Steak ในฐานะคนปทุมธานีรับหน้าที่พาชิมในครั้งนี้ด้วย
คนอยากมีอาชีพ... แจกสูตรให้! มาเรียนฟรีได้เลย
ป้ามานัสบอกว่า โควิด-19 ที่ผ่านมาทุกระลอกซึ่งส่งผลกับธุรกิจร้านอาหาร ห้ามนั่งทาน ให้เน้นใส่ถุงกลับบ้านแทน ป้าได้รับผลกระทบมาหมดทุกรอบต้องปิดร้าน(ไม่ขายเลย) ทำตามมาตรการ ยอมเลือกที่จะไม่ขายเลยหยุด/ปิดร้านเพราะคนมานั่งทานที่ร้านไม่ได้ โดยป้าให้เหตุผลว่าจากปกติที่ยังเปิดขายได้อยู่นั้นก็มีบ้างสำหรับการสั่ง “ใส่ถุงกลับบ้าน” ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อยเป็น 10 บาทแบบใส่ถุงกลับ แต่หากถามว่าคนขายมีความคุ้มค่าไหมป้าบอกเลยยังไงก็สู้แบบลูกค้ามานั่งทานที่ร้านไม่ได้ในราคาที่ป้าเปิดขายอยู่นี้ และถึงแม้ว่าใส่ถุงจะขายได้วันละเป็น 200-300 ถุงก็ตาม ป้าก็ยังสู้ไม่ไหวอย่างไรเสียคือต้องเป็นแบบมานั่งทานที่ร้านจะดีกว่า และอีกอย่างคือป้าเองก็ไม่อยากจะขึ้นราคาแพงไปกว่านี้ด้วย เพราะเกรงใจลูกค้าไม่อยากให้เขาต้องมาจ่ายเพิ่มอีก หรืออย่างมีหลาย ๆ คนอยากมีงานมีอาชีพทำกิน เข้ามาขอเรียนรู้สูตรก๋วยเตี๋ยวจากป้าซึ่งก็เคยให้ไปแล้วหลายรายที่มาจากหลาย ๆ ที่ เขาบอกว่าไปขอเรียนกับที่อื่นส่วนใหญ่เขาก็จะไม่ค่อยบอกกัน หรือบางที่ก็เก็บเงินค่าสูตรเป็นหลักหมื่นบาท แต่สำหรับป้ามานัสถ้าใครอยากได้วิชามาเรียนเอาไปได้เลย เปิดให้สำหรับคนที่อยากมีอาชีพแต่ว่าก็ต้องพอมีความรู้ด้านนี้และใจรักด้วยนะ ถึงจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้สำหรับการทำมาหากินต่อไปได้ด้วย ป้าเปิดให้มาเรียนรู้ฟรีได้เลยไม่คิดเงินแต่อย่างใด สำคัญว่าต้องมีความตั้งใจจริง ๆ แล้วไปทำจึงจะประสบความสำเร็จ เป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงชีพได้ไปตลอด

ป้ามานัส บุญตา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว 8 บาท


รายได้ที่พอดี พอเพียง และพอใจมากแล้ว
เมื่อถามป้ามานัสว่าการลงทุนแต่ละวันค่าวัตถุดิบเป็นอย่างไรบ้าง ใช้มากน้อยสักขนาดไหน และยอดขายที่ได้เป็นอย่างไร ป้าเล่าให้ฟังว่าตอนนี้เฉพาะค่าหมูอย่างเดียว(เนื้อ ตับ และเล้ง) ที่ใช้อยู่เกือบ ๆ วันละกว่า 3,000 บาท ค่าเส้นต่าง ๆ อีกประมาณ 1,000 กว่าบาทและยังไม่นับรวมจิปาถะอื่น ๆ ที่ต้องใช้อีกต่อวัน ส่วนยอดขายถ้าเป็นวันธรรมดาก็มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่
หากวันไหนต้องลงของในร้านเยอะหน่อยก็จะพอดีกันกับรายได้วันนั้น ๆ ก็มี ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะเริ่มดีขึ้นมาหน่อยยอดขายจะค่อนข้างนิ่งกว่าวันธรรมดา โดยเฉพาะวันอาทิตย์จะมีลูกค้าเยอะที่สุดและต้องมีคนช่วยไม่ต่ำกว่า 7-8 คน/วัน จากวันปกติก็มี 5-6 คน ตัวเงินจำไม่ค่อยได้ว่าเท่าไรแต่ก็รู้ว่าขายได้ต่อวันเป็น 1,000 กว่าชามขึ้น! ซึ่งปัจจุบันต้นทุนต่าง ๆ และยิ่งราคาหมูที่แพงกว่าแต่ก่อนมากความคุ้มค่าที่ได้ก็อาจน้อยลงกว่าเคยมา แต่ว่าก็ยังพออยู่ได้และที่สำคัญได้มีอาชีพเลี้ยงตัว อย่างที่เห็นมาช่วย ๆ กันอยู่ในร้านก็มีแต่พี่น้องซึ่งต่างมีอายุและแก่ตัวกันมากแล้ว อายุ 60 กว่าขึ้นทั้งนั้นเลย แต่ยังโชคดีที่มีอาชีพทำกินกันอยู่มีกินมีใช้แค่นี้ก็พอใจแล้ว
“เรามีอาชีพเราก็อยู่ได้ มีเงินกินใช้ ถ้าเราไม่มีอาชีพเราจะอยู่อย่างไร แล้วอายุแต่ละคน 60 กว่ากันไปแล้วจะไปทำอะไร นี่ 62 คนโน้น 64 แล้วคนนี้ก็ 67 แล้ว ลุงข้างบ้านกันให้เขามาช่วย ปกติจะมีพี่ชายอีกคนที่มาช่วยอยู่แต่วันนี้แฟนเขาป่วยต้องดูแลไม่ได้มา เลยให้ลุงมาช่วย ราคานี้ถามว่าจะยืนยาวไปแค่ไหนในการขาย คือถ้าทุกอย่างมันไม่เปลี่ยน(ไปมากกว่านี้แล้ว) หมูยังราคานี้ไม่เปลี่ยน อยู่ได้! เพราะไม่หวังว่าจะเอากำไรเยอะแค่มีเหลือ นิด ๆ หน่อย ๆ พอแล้ว ไม่มีหนี้ไม่มีสินพอแล้ว! เราไม่มีหนี้ไม่มีสิน กำไรนิดหน่อยก็เอาแล้ว!”



สอบถามเพิ่มเติมโทร. 089-485-2560



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น