“ข้อแตกต่างเบื้องต้น “น้ำตาลแท้” สังเกตจากสีจะไม่มี เกล็ดใส ๆ ความวาวน้อย ความเป็นผลึกแก้วเหมือนกับลักษณะกากเพชรไม่ควรจะมี เนื้อน้ำตาลไปทางค่อนข้างด้าน หรือว่าเงาได้เล็กน้อย ส่วนใหญ่มันจะเป็นแบบนั้น”
พี่เอ๋-จงจิตต์ อินมิทินเกษตรกรปริญญาฯ ผู้กล้าคิดต่าง ทำเกษตรแบบต่อยอดและพัฒนาตนเองอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง จนทำให้กลายเป็นอาชีพหลักอย่างแข็งแกร่งในวันนี้ บนพื้นที่ผลิตที่มีของครอบครัวใช้ประกอบอาชีพหลักด้านเกษตร พืชเศรษฐกิจทำเงินมีไล่เรียงไปตั้งแต่ แก้วมังกร มะม่วง มะขามเทศ และมะพร้าวน้ำหอม (พันธุ์ก้นจีบบ้านแพ้วแท้ ๆ) ด้วยที่สวนนี้ตั้งอยู่ในย่านถิ่นเดิมเป็นแหล่งของสุดยอดด้านการเกษตรอยู่แล้ว กระทุ่มแบน บ้านแพ้ว และต่อไปด้วย ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี แต่การยึดในอาชีพดั้งเดิมหากไม่เพิ่มเติมอะไรใหม่ ๆ เลย มันก็ยากที่จะสำเร็จได้ในยุคนี้ จากการผลิตทั้งหมดที่กล่าวมากลับกลายเป็นว่าพี่เอ๋และสามีทำได้ดีมาก ๆ หลังเริ่มเปลี่ยนจาก “วิธีการผลิต” สู่แนวทางGAP ที่ปลอดภัยต่อคนกิน แถมยังช่วยลดต้นทุนได้อีกทางหนึ่งด้วย มีการวางแผนผลิตสลับช่วง(ฤดูกาล) พืชแต่ละชนิดให้ออกตลาดต่างช่วงเวลากันไป และการแปรรูปเพิ่มมูลค่าสุดท้ายใช้ประโยชน์จากการเล่นโซเชียลฯ(เฟซบุ้ก) ช่วยขับเคลื่อนการตลาดของตนเองขายผลิตผลที่ได้ผ่านโลกออนไลน์ วันนี้สวนพี่เอ๋บ้านแพ้วถือเป็นหนึ่งในเกษตรกรหัวก้าวหน้าที่ไม่ง้อ “คนกลาง” อีกต่อไป เพราะสามารถบอกขายและตั้งราคาเองได้ทั้งหมด!
“จองได้เรื่อย ๆ ค่ะ จองแล้วก็คือรอคิวอย่างน้อยต้อง2 สัปดาห์ อย่างน้อย ๆ นะคะ(หัวเราะ) นอกจากลูกค้าที่จองข้ามปีเอ๋ก็จะแจ้งล่วงหน้าว่า เอ๋จะเริ่มแล้วนะ กำลังจะเริ่ม อีกประมาณ15 วันนะ จะเริ่มมีน้ำตาลอะไรอย่างนี้ เอ๋ก็จะนัดไว้ก่อน ก็จะเริ่มทำตามออร์เดอที่จองไว้ เพราะว่าลูกค้าก็จะมีทักมาเรื่อย ๆ ค่ะ ทักมาตลอด บางคนที่ยังไม่ได้เห็นเอ๋โพสต์ไว้ ก็เพิ่งจะเห็นก็เพิ่งเข้ามาจอง ก็คือจองไปเรื่อย ๆ จนกว่าเอ๋จะประกาศเลิก เพราะว่าเปลี่ยนงานที่ทำ เปลี่ยนขนัดสวนไปทำอย่างอื่น ไปทำแก้วมังกรหรือว่าไปทำมะขามเทศ ก็คือเปลี่ยนตารางงาน ก็จะปิดเตา ถือเป็นการพักต้นไปในตัวด้วย”
สำหรับการทำ “น้ำตาลมะพร้าว” พี่เอ๋เล่าให้ฟังว่า การเลือกปาดตาลจะเริ่มทำในช่วงที่ต้นมีอายุได้ 2 ปีเศษ เริ่มออกงวงหรือช่อดอกแล้ว ก็ทำได้เลยและยังขึ้นอยู่กับความชำนาญของคนปาด วิธีการดูการเลือกงวง ซึ่งพอเริ่มปาดก็จะต้องมี “ปาดฟรี” มีดแรกคือทิ้งไว้ก่อน 7 วัน เพราะยังรองน้ำไม่ได้ น้ำยังไม่หยดดี หรือก็ต้องดูต่อไปอีกว่าน้ำเริ่มหยดได้ดีแล้วเมื่อไหร่ ทั้งนี้การที่เอากระบอกไปครอบเพื่อรองเก็บน้ำไว้เร็วเกินไป อาจกลายเป็นว่าไป “อบ” หน้างวงไว้ทำให้ช็อคได้ น้ำไม่ออก เลยน็อคไปเลยก็มี แล้วพอรอจนเริ่มมีน้ำหยดให้สม่ำเสมอดีจากนั้นจึงเริ่ม “รองน้ำ” หลังการปาดงวงแล้วก็จะใช้กระบอกน้ำตาลครอบเอาไว้ ใน 1 วันจะสามารถเก็บน้ำตาลดิบจากต้นได้2 รอบ คือ รอบแรกจะเริ่มทำในช่วง 05.00 น. พอครบ 12 ชม.ก็มาเก็บน้ำตาลแล้วก็ปาดอีกเป็นรอบที่ 2 ของวัน ช่วงราว ๆ 16.00 น. เพื่อไม่ให้น้ำตาลที่ได้บูดเสีย แล้วจากนั้นก็จะนำไปกรองก่อนขึ้นเตาเคี่ยวน้ำตาลการเคี่ยวจะใช้เวลาต่อเนื่องราว 3-3 1/2 ชั่วโมง ต้องเคี่ยวไฟไปเรื่อย ๆ โดยช่วงแรกใฟต้องแรงไปจนกว่า น้ำตาลจะปุดหรือเริ่มมีลักษณะหนืดแล้ว ก็จึงลดไฟลงและเลี้ยงไฟไปเรื่อย ๆ ตามเวลาโดยอาศัยการดูเป็นหลัก จากน้ำตาลใส ๆ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ คือเหนียวแบบพอตีแล้วมันจะเป็นน้ำตาลปีบ/น้ำตาลปึกได้ และต้องอาศัยประสบการณ์ด้วยเพราะถ้ายกพลาด
อาจจะไหม้หรือน้ำตาลแข็งหรืออ่อนเกินไป(ไม่จับตัว) เสร็จแล้วจากนั้นก็เป็นขั้นตอนการนำไปเทใส่พิมพ์น้ำตาลที่เตรียมเอาไว้
แล้วทิ้งให้ข้ามคืนก่อนเพื่อน้ำตาลจับตัวกันได้ที่แล้วจึงจะส่งให้กับลูกค้าต่อไป
“ตัวงวงที่เราทำตาล ปาดตาลแล้วเราต้องจิ้มส่วนที่จะเป็นลูกให้เสียด้วย เพราะไม่อย่างนั้นมันก็จะติดลูกเหมือนกัน ไม่ให้ติดลูก
อาหารเขาก็จะได้ลงมาที่ดอกอย่างเดียว คือบางคนเขาก็จะบอก อย่างผู้เฒ่าผู้แก่เคยบอกว่า ถ้าเป็นน้ำตาลจากมะพร้าวน้ำหอม ถ้าเรามาทำตาลก่อน มันจะออกลูก-ติดลูกดีเวลาเลิกทำตาลแล้ว เพราะว่ามันเหมือนเป็นการฝึกให้หากิน เขาต้องจ่ายน้ำตาลให้เราทุกวัน ๆ มันก็ทำให้รากหากินมากขึ้น คือต้องโหดเขาก่อนแล้วเขาจะติดลูกดีหลังจากที่เราเลิกทำตาลแล้วมาเน้นทำลูกต่อไป”
การขายและราคา พี่เอ๋บอกว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะชอบตรงที่ “ความแท้” ของน้ำตาลที่สวนทำเอง ซึ่งก็เริ่มมาจากการทำน้ำตาลกินเองก่อน เพราะสามีพี่เอ๋ปาดตาลเป็นอยู่แล้ว และจากที่ได้เจอว่าน้ำตาลทั่วไป(ซื้อมากิน) มีความผิดเพี้ยนไปมากก็เลยไม่เอาเลยมาลองปาดตาลเอง เอาไปเคี่ยวไว้กินเอง และก็แจกคนรู้จักไปชิมบ้าง สำหรับคนที่ชอบทำกับข้าว ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เริ่มทักมาสั่ง เลยลองโพสต์ในเฟซบุ้กดูด้วย ก็ปรากฏว่ามียอดสั่งมาเรื่อย ๆ เลย ก็ทำไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเรียกว่าลูกค้า เริ่มกว้างขึ้นวงกว้างขึ้น บอกต่อ คือมีความไว้ใจกันแล้ว ซึ่งที่สวนเองจะทำรอบปีคือทำแค่ช่วงจังหวะเดียวเขาก็จะรอให้ชนมา ช่วงที่สวนทำซึ่งเขาก็จะสั่ง และสำหรับ “ราคา” พี่เอ๋บอกว่าขายอยู่ที่กิโลฯ ละ 100 บาท ราคาเดียว สามารถจัดส่งได้ทั่วไทยหรือหากใครจะมารับเองอยากมาเที่ยวที่สวนพี่เอ๋ก็ยินดี
การใช้ประโยชน์สำหรับ “น้ำตาลมะพร้าวแท้” พี่เอ๋บอกว่าถ้านำไปทำเมนู “ขนม” จะเข้ากับความเป็นน้ำตาลจากมะพร้าวน้ำหอมอย่างมาก หรือหากใช้ทำกับข้าวปรุงเป็นเมนูอาหารคาว ก็ให้รสกลมกล่อม หอม อร่อยไม่แพ้กัน
สอบถามเพิ่มเติมโทร.087-809-0037
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *
