xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) ทำขนมแก้เครียดช่วงโควิด สร้างธุรกิจ “Inhouse Coffee By B.lief” ตอบโจทย์ยุค New Normal

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในช่วงเวลาของการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่ยังมีท่าว่าจะสิ้นสุดในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับทุกสาขาอาชีพ บางอาชีพต้องหยุดพัก บางอาชีพได้เริ่มต้นใหม่ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การชีวิตแบบ New Normal และ“อาชีพพ่อค้าแม่ค้า” ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพในอันดับต้นๆ ที่ใครหลายคนเลือกที่จะเริ่มต้นในอาชีพนี้ และได้สร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคที่คาดเดาการตลาดได้ยากนี้ “Inhouse Coffee By B.lief” แบรนด์ขนมและกาแฟ ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เกิดขึ้นจากพนักงานออฟฟิศที่ได้ผันตัวมาเป็นแม่ค้า และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงจุด จนมียอดสั่งซื้อเข้ามาไม่ขาด


นางสาววันวิสาข์ ถนอมรักษ์ เจ้าของแบรนด์ “Inhouse Coffee By B.lief” ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า ก่อนจะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ได้ทำอาชีพเป็นพนักงานประจำ เมื่อมีการแพร่ระบาดของโรคโควิดเกิดขึ้น ทำให้บริษัทต้องมีการปรับการทำงาน และตนเองก็ปรับการใช้ชีวิตให้เข้ากับสถานการณ์ ซึ่งทำให้เกิดรู้สึกเกิดความเครียด ด้วยเหตุนี้จึงได้ตัดสินลองทำขนม เพราะเห็นว่าตัวเองก็มีความถนัดในเรื่องงานครัว เนื่องจากคุณแม่เป็นแม่ค้าขายอาหาร โดยได้เรียนรู้สูตรต่างๆ จากสื่อออนไลน์ต่างๆ และได้ปรับสูตรจนเบเกอรี่ต่างๆ ทำออกมามีรสชาติจนน่าพอใจ เลยได้นำไปให้เพื่อนๆ ชิม พร้อมกับมีการโพสต์รูปเบเกอรี่ต่างๆ ที่ทำลงสื่อโชเชียล เมื่อเพื่อนๆ ได้ลองชิมและได้เห็นรูปที่โพสต์จึงให้คำแนะให้ทำขาย จึงได้ทดลองทำขายตามคำแนะนำ ซึ่งผลตอบรับก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก


“เมื่อโควิด – 19 เริ่มระบาด ทำให้มีการปรับเปลี่ยนการทำงาน รายได้ในส่วนต่างๆ ก็ลดลง ทำให้เกิดความเครียด การทำขนมทำให้เรามีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ช่วยทำให้เราคิดถึงเรื่องเครียดน้อยลง เพราะขั้นตอนการทำขนมแต่ละชนิดนั้น เราต้องใส่ใจกับวัตถุดิบส่วนผสม และวิธีการทำมากๆ เพราะถ้าผิดสูตรนิดหน่อยก็ทำให้รสชาติหรือรูปทรงขนมเพี้ยนไปได้ จึงเป็นที่มาของแบรนด์ Inhouse Coffee By B.lief”  เจ้าของแบรนด์ กล่าวเสริม


ในช่วงแรกของการทำขนมขายนั้น ก็จะเน้นช่องทางดารนำเสนอผ่านสื่อโซเชียล โดยเน้นการสื่อสารด้วยรูปภาพและคำบรรยายเกี่ยวกับวัตถุดิบ เพื่อให้ลูกได้มั่นใจในส่วนผสมที่นำมาใช้ เพิ่มความต้องการสั่งซื้อมากขึ้น เมนูเริ่มแรกได้แก่ “Brownie cookies” , “Japanese cheese cake” หลังจากที่ลูกค้าได้สั่งซื้อไปกิน ก็มีหลายๆ คำชมตามมาในเรื่องรสชาติที่อร่อยถูกปาก และมีการบอกต่อๆ กัน จึงทำให้มียอดสั่งซื้อเข้ามาเรื่อยๆ และได้ตัดสินใจทำเมนูใหม่ๆ ออกมาเพิ่มมากขึ้น เช่น เค้กกล้วยหอม , Premium Dark Brownie box , Oreo Banoffee ซึ่งเมนูใหม่ๆ นี้ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน


ปัจจุบันนอกจากจะขายขนมผ่านทางออนไลน์แล้ว ก็ยังได้มีการเปิดร้านกาแฟขึ้นเพิ่มขึ้นมาด้วย จึงได้นำขนมมาวางขายหน้าร้านด้วย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะขนมขายหมดตลอด อีกทั้งเมนูกาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ ของทางร้าน ก็ยังคงเน้นการใช้วัตถุดิบที่ดีเป็นส่วนผสม เช่น เมล็ดกาแฟ ก็ใช้เมล็ดกาแฟจากแบรนด์ ที่ได้มีส่วนช่วยเกษตรกรจาก จังหวัดน่าน และทางแบรนด์ยังเน้นในเรื่องของราคาที่ไม่สูงมาก ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น


แม้ในช่วงนี้ยอดขายของทางร้านจะลดลง เนื่องจากต้องงดการให้บริการนั่งกินภายในร้านตามมาตรการของรัฐ เพราะร้านตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีแดง แต่ขนมและเครื่องดื่มก็ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะทางแบรนด์ได้เน้นการขายและมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อกลับบ้าน จึงตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงนี้ เพราะมาซื้อเครื่องดื่มก็สามารถซื้อขนมกลับไปได้พร้อมๆ กัน อีกทั้งราคาก็ไม่สูงมาก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ และทางร้านก็ยังได้ติดตามข่าวสารต่างๆ จากทางภาครัฐเสมอ มีการรักษาความสะอาดและเว้นระยะห่าง จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจที่จะมาซื้อกลับบ้านที่ร้านมากยิ่งขึ้น


Inhouse Coffee By B.lief จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจและน่าเป็นตัวอย่าง ที่เกิดขึ้นจากการปรับตัวในช่วงสถานการณ์การค้าขายที่ซบเซา นอกจากการตอบโจทย์ลูกค้าด้วยเมนูขนมและเครื่องดื่มที่หลายๆ และรสชาติอร่อยแล้ว ก็ยังต้องศึกษาวัตถุดิบสร้างเมนูใหม่ๆ ให้กับลูกค้า และก็ต้องศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าด้วย เพราะแต่คนจะมีความต้องการไม่เหมือนกัน การใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี้ จะทำให้ลูกค้าคิดว่าเราใส่ใจเค้า เค้าก็จะเชื่อมั่นในแบรนด์ในรับริการจากแบรนด์เราเสมอ


สนใจติดต่อ
โทร. 098 - 929 - 3835
FB : Inhouse Coffee by B.lief





กำลังโหลดความคิดเห็น