ปิดฉากการประลองฝีมือกันไปแล้วสำหรับการแข่งขันหุ่นยนต์ในโครงการประกวดแข่งขันหุ่นยนต์ซีอาร์ยู โรบอทเกมส์ ระดับอุดมศึกษา ครั้งที่ 11 “Power for a better life” ประจำปี 2563 จัดโดยสาขาวิชาอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์อุตสาหกรรม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม สนับสนุนโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
โดยผลรางวัลชนะเลิศพร้อมเงินรางวัลและโล่เกียรติยศในปีนี้ตกเป็นของทีม ลูกเจ้าแม่คลองประปา “Lullaby” จากวิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ (CITE) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) ที่ฝ่าด่านสถาบันอุดมศึกษาคู่แข่งจากทั่วประเทศ ประกอบด้วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สถาบันจัดการปัญญาภิวัฒน์ และอื่นๆ อีกจำนวนกว่า 30 ทีม
กว่าจะคว้าแชมป์มาได้ 4 หนุ่มจากทีมลูกเจ้าแม่คลองประปา Lullaby ซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 สาขาวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของ CITE DPU ประกอบด้วย นายพีรพัฒน์ พลอยประเสริฐ (เจมส์) หัวหน้าทีม นายเอกราช เหล็งนุ้ย (มาน) นายนิติพนธ์ ผายรัศมี (ไนท์) และนายธนวัฒน์ พูพุ่ม (มิ้ง) ต่างเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องฝึกซ้อมกันอย่างหนักเลยทีเดียว โดยมีรุ่นพี่ที่คณะและ อ.ณพัฒน์ สุวรรณ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ที่คอยให้คำปรึกษาตลอดช่วงเวลาการเตรียมตัวและแข่งขัน
อาจารย์ณพัฒน์ สุวรรณ ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษา เล่าให้ฟังว่า ทุกๆ ปีจะมีการจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ในระดับมหาวิทยาลัย ดังนั้นก่อนเซตทีมรุ่นพี่ในชมรมหุ่นยนต์จะเรียกรุ่นน้องมาประชุมเพื่อทำการคัดเลือกผู้ร่วมทีม โดยปีนี้เราได้ส่งนักศึกษาลงแข่งขัน 2 ทีม ซึ่งแต่ละทีมมีประมาณ 7-8 คน และเมนหลักในทีม 3 คนต้องมีความรู้ด้านโปรแกรมเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ การออกแบบโครงสร้าง และการจัดการ หลังเปิดรับสมัครและรับโจทย์จากมหาวิทยาลัยที่จัดการแข่งขัน สิ่งแรกที่นักศึกษาจะต้องทำคือจำลองสนามแข่งให้เหมือนจริงมากที่สุด และออกแบบหุ่นยนต์ให้ตรงตามกติกา จากนั้นทุกคนในทีมต้องใช้ไอเดียออกแบบการแข่งขันในรูปแบบ 3D แล้วนำมาวิเคราะห์ในที่ประชุม เพื่อลงความเห็นว่าไอเดียไหนใช้ได้จริงมากที่สุด แล้วนำมาทดสอบความแม่นยำในสนามและฝึกซ้อมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันลงสนามจริง โดยรวมฝึกซ้อมประมาณ 3 เดือน
“การออกแบบโครงสร้างเชิงวิศวกรรม และการทำงานเป็นทีมคือจุดเด่นของทีม หลังได้รับรางวัลชนะเลิศเราได้วิเคราะห์ข้อได้เปรียบของหุ่นยนต์ DPU เมื่อเปรียบเทียบกับหุ่นของทีมอื่น พบว่าหุ่นยนต์อัตโนมัติของเราทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งมาจากปัจจัย 2 ส่วน คือ การใช้อุปกรณ์และบอร์ดอิเล็กทรอนิกส์เกรดอุตสาหกรรมมาใช้งาน และการออกแบบหุ่นยนต์ให้สามารถหยิบชิ้นงานที่ทำคะแนนสูงสุดและหยิบได้หลายรูปทรง”
นายพีรพัฒน์ พลอยประเสริฐ หรือเจมส์ นักศึกษาชั้นปี 4 หัวหน้าทีม กล่าวว่า การอยู่ในฐานะพี่ใหญ่ที่ต้องคอยดูแลน้องๆ และต้องรับฟังความคิดของทุกคนอยู่เสมอ ทำให้เห็นความสามารถที่โดดเด่นของน้องแต่ละคน จึงทำให้แบ่งการทำงานตามความถนัดให้ทุกคนได้อย่างลงตัว และเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จมาจากหลายปัจจัย เช่น การนำประสบการณ์จากการลงแข่งขันในสนามต่างๆ มาปรับใช้ในการแข่งขัน การฝึกฝนอยู่เสมอ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้หลอมรวมให้ทุกคนในทีมเป็นหนึ่งเดียวกันและคว้าชัยครั้งนี้มาได้ จึงอยากฝากน้องๆ ที่เรียนคณะวิศวกรรมต้องเตรียมตัวให้พร้อม ที่ DPU นอกจากเรียนในตำราแล้ว ยังมีกิจกรรมดีๆ ที่ช่วยฝึกฝนทักษะด้านอื่นๆ รวมไปถึงทักษะความเป็นผู้ประกอบการที่ถูกฝังไว้ใน DNA ของเด็ก DPU ทุกคน ซึ่งเมื่อจบออกไปนอกจากในฐานะของพนักงานแล้วจะช่วยให้เราคิดในมุมของผู้ประกอบการด้วย
ด้านนายธนวัฒน์ พูพุ่ม หรือมิ้ง นักศึกษาชั้นปีที่ 1 บอกว่า ส่วนตัวสนใจเรื่องการสร้างหุ่นยนต์มาตั้งแต่สมัยเรียน ปวช. เมื่อก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยจึงเลือกเรียนที่ DPU เพราะมหาวิทยาลัยนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงด้านการประกอบธุรกิจ ยังมีชื่อเสียงด้านการแข่งขันหุ่นยนต์ เมื่อถึงฤดูกาลแข่งขันจึงได้สมัครเข้าชมรมเพื่อลงแข่ง ซึ่งตนได้รับมอบหมายให้ออกแบบในส่วนของแมคคานิคหรือโครงสร้างของตัวหุ่น ถือเป็นส่วนสำคัญในการใช้งาน สำหรับสิ่งที่ทำให้นำมาสู่ชัยชนะในครั้งนี้มาจากการสร้างหุ่นยนต์ได้ตรงตามโจทย์และใช้เวลาแข่งน้อยกว่าทีมอื่น สิ่งที่ได้จากการแข่งขันครั้งนี้ คือ การมีพัฒนาการด้านการออกแบบการแข่งขัน การออกแบบหุ่นยนต์ รู้จักการวางเป้าหมาย และการคิดวิเคราะห์ ผมจะนำความรู้ทั้งหมดนี้ไปต่อยอดในการทำงานในอนาคต สำหรับผู้ที่สนใจทางด้านนี้ขอให้มุ่งมั่นและหมั่นฝึกซ้อมอยู่เสมอ เมื่อมีโอกาสลงแข่งขันจะได้เปรียบคู่แข่ง
นายเอกราช เหล็งนุ้ย หรือมาน และนายนิติพนธ์ ผายรัศมี หรือไนท์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ช่วยกันเล่าว่า ความสามัคคีถือเป็นจุดเด่นของทีม เพราะทุกคนในชมรมไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาหรือรุ่นพี่ ต่างมาช่วยให้คำปรึกษาตลอดระยะเวลาก่อนการแข่งขัน โดยเฉพาะเรื่องการออกแบบแขนหุ่นยนต์เพื่อให้หยิบจับอุปกรณ์ได้อย่างแม่นยำ ทำให้ชนะการแข่งขันมาได้ แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีอุปสรรคจากการระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลให้งานล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผน แต่ด้วยความทุ่มเทของทุกฝ่ายทำให้หุ่นยนต์ที่ออกแบบมีความสมบูรณ์ และมีความแม่นยำกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม รู้สึกภูมิใจมากที่เพิ่งเรียนชั้นปีหนึ่งแต่สามารถคว้าแชมป์ได้ สำหรับประสบการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปต่อยอดการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีในด้านอื่นๆ เพื่อนำมาช่วยเหลือสังคมต่อไป
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *
SMEs manager