xs
xsm
sm
md
lg

สทน. ผนึก มรภ. หนุนสร้างมูลค่า “อาหารพื้นถิ่น” ด้วยนวัตกรรมฉายรังสี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) หรือ สทน. ร่วมกับ 3มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) ถ่ายทอดเทคโนโลยีอาหารฉายรังสีสู่ผู้ประกอบการSME กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตั้งเป้า 5 ปี ยกระดับคุณภาพ“อาหารพื้นถิ่น”
ให้ได้มาตรฐานความปลอดภัย มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสร้างโอกาสต่อยอดเชิงพาณิชย์ สู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ


รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์
รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเป็นประธานใน“พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพการวิจัยและพัฒนา เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการบริหารจัดการและบูรณาการ ด้านการวิจัยและพัฒนา สร้างนวัตกรรมใหม่ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีนิวเคลียร์” ซึ่งสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) จัดขึ้น ภายใต้โครงการ“การสร้างมูลค่าให้กับอาหารพื้นถิ่นด้วยการฉายรังสี” และ“โครงการคูปองยกระดับผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมฉายรังสี”

โดยมี รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการ สทน. และอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร มรภ. และ สทน. ร่วมงาน ณ อาคารพระจอมเกล้า ชั้น 1 สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม


​​​รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสินค้าโอทอป รู้จักปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาและยกระดับสินค้า แต่ยังคงคุณค่าและรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของท้องถิ่น เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ทั้งตลาดในประเทศและตลาดโลก 

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สทน.และมรภ. ในครั้งนี้ จึงถือได้ว่ามีความสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวง อว. ในยุทธศาสตร์ด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เรื่องการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ เรื่องการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม การส่งเสริมความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งตรงกับยุทธศาสตร์ในเรื่องการวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ของประเทศ และสร้างระบบนิเวศการวิจัย

 รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการ สทน.
​​​ด้าน รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการ สทน. กล่าวเพิ่มเติมว่า พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงฯในวันนี้ เกิดขึ้นเพื่อยกระดับการใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ด้วยวิธีการฉายรังสีให้เป็นที่รู้จัก เป็นที่ยอมรับและมีการใช้ประโยชน์แพร่หลายมากขึ้น มีโครงการที่ได้ดำเนินการร่วมกัน ได้แก่ โครงการการถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างมูลค่าให้กับอาหารพื้นถิ่นด้วยการฉายรังสี และ โครงการคูปองยกระดับผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมฉายรังสี เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการและผู้บริโภคบางส่วน ยังไม่ทราบถึงข้อมูลอาหารฉายรังสีที่ถูกต้อง จนเกิดความกังวลและเข้าใจผิด ทำให้อาหารฉายรังสีไม่เป็นที่รู้จักและไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร

ดังนั้น ทาง สทน.จึงได้ร่วมกับทางมหาวิทยาลัยราชภัฏ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่อยู่ใกล้ชิดกับชุมชน และคุ้นเคยกับผู้ประกอบการ เพื่อร่วมมือกันยกระดับการรับรู้เรื่องการฉายรังสีอาหารอย่างถูกต้องให้กับคนไทย โดยในปี 2564 นี้ สทน.ได้ร่วมกับ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏ ประกอบด้วย มรภ.ราชนครินทร์ มรภ.พระนครศรีอยุธยา และ มรภ.ธนบุรี โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันดำเนินการจัดฝึกอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจ สร้างการยอมรับ และสนับสนุนให้นำผลิตภัณฑ์อาหารที่มีศักยภาพของชุมชน และอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนจากเชื้อโรคต่างๆ มาฉายรังสี รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้มีศูนย์ประสานงาน ในการส่งผลิตภัณฑ์เพื่อมาฉายรังสี เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค มีอายุการจัดจำหน่ายที่ยาวนานขึ้น และช่วยเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ อันเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การขยายตัวของธุรกิจชุมชน รวมทั้งนำไปสู่การวิจัยและพัฒนาตัวสินค้า จนสามารถขยายไปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะนำไปจำหน่ายทั้งในประเทศ และส่งออกไปต่างประเทศในอนาคต


“ในฐานะนักวิจัยที่ทำงานทางด้านนี้มาตลอด และมีผลการวิจัยที่ยืนยันเป็นที่ยอมรับมากว่า 40 ปีแล้วว่า อาหารที่ผ่านการฉายรังสีนั้นไม่มีอันตรายและไม่เกิดผลกระทบกับร่างกายแต่อย่างใด โดยวัตถุประสงค์ส่วนใหญ่ของการฉายรังสีในอาหารคือ การลดปริมาณจุลินทรีย์ การฆ่าเชื้อปรสิต ฉะนั้น อยากขอเชิญชวนผู้ประกอบการSME กลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารแปรรูป อาหารแช่แข็ง และสมุนไพร สมัครเข้ามาร่วมโครงการฯ ฉายรังสีกับ สทน. ได้นะครับ ผมมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ท่านจะมีทางเลือก มีโอกาสในการทำตลาดเพิ่มมากขึ้น” ผอ.สทน.กล่าวในตอนท้าย


ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.ดวงพร ภู่ผะกา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 แห่ง มีพื้นที่บริการแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว อย่างมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์เราดูแล 3 จังหวัดในพื้นที่EEC คือ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระยอง และชลบุรี เพราะฉะนั้นแต่ละมหาวิทยาลัยมีพื้นที่บริการ การทำงานร่วมกับ สทน. คือ เราเน้นในเรื่องของการเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับชุมชนให้กับบุคลากรของมหาวิทยาลัย 

ทั้งนี้ การทำงานของมหาวิทยาราชภัฏทั้ง 38 แห่ง แบ่งออกเป็น 2 ช่องทางก็คือการสร้างtrain the trainer ให้กับบุคลากรของมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่ได้จาก สทน. ส่วนที่ 2 คือ การสร้างให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง เพราะฉะนั้นการสร้างให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ต้องดึงศักยภาพของชุมชนผ่านอาหารพื้นถิ่นหรือวัฒนธรรมพื้นถิ่น 


อย่างไรก็ตาม  การต่อยอดองค์ความรู้ที่ทาง สทน.มีคือการฉายรังสี ทำยังไงให้สินค้าเหล่านั้นยกเป็นPremium gradeเน้นถึงความคุ้มค่า ความปลอดภัยในการรับประทานของผู้บริโภค แล้วส่งต่อถึงSME หรือผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อยกระดับสินค้าให้สามารถตอบโจทย์ในประเทศหรือต่างประเทศได้  


* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *
SMEs manager



กำลังโหลดความคิดเห็น