จากเกษตรกรปลูกแก้วมังกรขายธรรมดาสู่การเป็นนักธุรกิจผู้ผลิตและแปรรูปแก้วมังกรเพื่อสุขภาพที่มีทั้งหมด 3 ผลิตภัณฑ์ คือ แก้วมังกรอบแห้ง น้ำแก้วมังกรและแยมแก้วมังกร 100% ดำเนินการมา 4 ปีตอนนี้ตีตลาดในประเทศไทยและพร้อมลุยต่างประเทศในอีกไม่ช้า ผลิตภัณฑ์แปรรูปแก้วมังกรนั้นตอบโจทย์คนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดีและเหมาะแก่การพกพาเพื่อความสะดวกเป็นอย่างมาก
นายฉัตรโสรฬ บุณยาคุมานนท์ เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์แก้วมังกรแปรรูปเพื่อสุขภาพ แบรนด์ Fruitaya เล่าว่า เดิมทีธุรกิจครอบครัวทำเกี่ยวกับการผลิตและส่งออกผลแก้วมังกรประมาณ 23 ปี ซึ่งเป็นเจ้าแรกๆ ที่ริเริ่มปลูกแก้วมังกรในประเทศไทยและได้มีการส่งออกไปยังต่างประเทศต่างๆ หลังจากนั้นแก้วมังกรก็ได้มีราคาตกต่ำจากกิโลกรัมละ 20-30 บาท เหลือเพียงกิโลกรัม 2-3 บาท ทำให้ทางแบรนด์คิดหาวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยปกติแล้วการส่งออกนั้นจะมีการคัดเกรดผลแก้วมังกรและแต่ละครั้งก็จะมีส่วนผลที่ไม่สวยหรือไม่สมบูรณ์ ส่วนผิวไม่สวย ทางแบรนด์จึงเกิดแนวความคิดนำเอาแก้วมังกรส่วนเหล่านี้มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นนอกจากเป็นผลสด
Fruitaya ดำเนินการมาได้ประมาณ 4 ปี ในช่วงแรกที่ริเริ่มแปรรูปนั้นทางแบรนด์ได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการแปรรูปแก้วมังกรว่าสามารถแปรรูปให้เป็นในรูปแบบของอะไรได้บ้างบวกกับในประเทศไทยยังไม่มีการแปรรูปแก้วมังกรมากนัก ทำให้ Fruitaya ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นแก้วมังกรแปรรูปเพื่อสุขภาพ โดยมีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ แก้วมังกรอบแห้ง น้ำแก้วมังกรและแยมแก้วมังกร ซึ่งทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทำจากแก้วมังกร 100% ตอบโจทย์คนรักสุขภาพเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ก่อนจะมาเป็นผลิตภัณฑ์แก้วมังกรแปรรูปเพื่อสุขภาพนั้นทางแบรนด์ได้มีการทำการวิจัยและปรึกษาร่วมกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เกี่ยวกับการแปรรูปแก้วมังกร โดยมีการให้คำแนะนำและคิดค้นสูตรการแปรรูปแก้วมังกรร่วมกัน ซึ่งสูตรการแปรรูปดังกล่าวในตอนนั้นยังเป็นสูตรทั่วไปโดยยังมีการใช้น้ำตาลเข้ามาเป็นส่วนผสมเพื่อเพิ่มความหวานซึ่งทางแบรนด์สามารถทำได้แต่ยังไม่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ตั้งเป้าไว้
เนื่องจากในยุคปัจจุบันคนไทยหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น การแปรรูแก้วมังกรที่มีส่วนผสมของน้ำตาลนั้นจึงยังไม่ตอบโจทย์ลูกค้ามากนัก หลังจากนั้นทางแบรนด์ได้ทำวิจัยและทดลองต่อโดยมีการปรับเปลี่ยนสูตรและวัตถุดิบเนื่องจากทางแบรนด์ปลูกแก้วมังกรเอง สามารถควบคุมได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำได้และจดสิทธิบัตรร่วมกับอาจารย์ที่ร่วมคิดค้นสูตรการแปรรูปแก้วมังกร
ปัจจุบันแก้วมังกรในประเทศไทยมีทั้งหมด 2 สายพันธุ์ คือแก้วมังกรสีขาวเวียดนาม และแก้วมังกรสีแดงไต้หวัน ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นฐานที่ขายตามตลาดทั่วไปโดยจะมีรสชาติที่ต่างกัน สีแดงจะมีรสชาติหวานกว่าสีขาว ส่วนสีขาวจะมีความหวานอมเปรี้ยว ทางแบรนด์จึงนำมาแปรรูปทั้งสองสายพันธุ์ นอกจากนี้ในท้องตลาดทั่วไปจะยังไม่นิยมนำเอาแก้วมังกรสีขาวมาแปรรูปเป็นแก้วมังกรอบกรอบเนื่องจากมีความเปรี้ยวมากกว่าสีแดงทำให้ไม่สามารถควบคุมรสชาติได้ดีมากนัก แต่ในทางกลับกันทางแบรนด์สามารถควบคุมรสชาติของแก้วมังกรสีขาวให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ รสชาติที่ออกมาก็จะเป็นเปรี้ยวหวานเป็นทางเลือกให้ลูกค้าอีกหนึ่งช่องทาง
นอกจากนี้ในส่วนของการทำการตลาดนั้นทางแบรนด์เริ่มต้นด้วยการขายในประเทศรวมถึงนำสินค้าไปออกบูธตามงานอีเว้นท์ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รักสุขภาพมากขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้าและกระจายผลิตภัณฑ์สู่กลุ่มลูกค้าให้กว้างมากขึ้น สำหรับแก้วมังกรแปรรูปอบแห้งของทางแบรนด์นั้นสามารถเก็บรักษาได้นานถึง 1 ปี ส่วนน้ำแก้วมังกรและแยมแก้วมังกรสามารถเก็บรักษาได้นาน 6 เดือนทางแบรนด์แนะนำให้เก็บไว้ในตู้เย็น แต่ถ้าวางนอกตู้เย็นก็ไม่เกิดการบูดหรือเน่าเสียแต่สีของตัวผลิตภัณฑ์จะเปลี่ยน เนื่องจากไม่ได้เกิดการปรุงแต่งเป็นธรรมชาติ 100% จึงจะมีการเปลี่ยนแปลงถ้าไม่เก็บไว้ในตู้เย็น
กลุ่มลูกค้าหลักในตอนนี้จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพเป็นหลัก 70% ส่วนกลุ่มอื่นๆ 30% โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีปัญหาการขับถ่าย ด้วยคุณสมบัติของแก้วมังกรนั้นมีไฟเบอร์สูงสามารถช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นรวมถึงช่วยปรับสมดุลในลำไส้ได้เป็นอย่างดี ทำให้ผลตอบรับในตอนนี้เติบโตไปในทิศทางที่ดีและต่อเนื่อง ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ได้รับมาตรฐาน อย. เป็นที่เรียบร้อยและกำลังอยู่ในขั้นตอนการขอมาตรฐาน GMP และฮาลาลเพื่อทำการแปรรูปและส่งไปยังต่างประเทศในอนาคต
ทั้งนี้การวางแผนที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศนั้นทางแบรนด์มองตลาดยุโรปและตะวันออกกลางไว้ เนื่องจากแก้วมังกรผลสดที่ทางแบรนด์ส่งออกประจำอยู่แล้วนั้นก็ส่งไปในโซนยุโรปและตะวันออกกลางเช่นเดียวกัน ซึ่งความต้องการของลูกค้าในโซนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปีและลูกค้าเลือกที่จะบริโภคแก้วมังกรเพราะคุณประโยชน์มากมาย ทำให้ทางแบรนด์ตั้งใจแปรรูปแก้วมังกรและส่งออกไปยังประเทศในโซนดังกล่าวเป็นหลัก
ในส่วนของกำลังการผลิตในตอนนี้สามารถผลิตได้ประมาณ 1,000 ชิ้นต่อครั้ง เนื่องจากยังไม่มีการสต็อคไว้จำนวนมากแต่ถ้ามีออเดอร์เข้ามาก็สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์แก้วมังกรแปรรูป Fruitaya นั้นส่วนมากลูกค้าจะนิยมซื้อน้ำแก้วมังกรสีแดงมากกว่าสินค้าอีก 2 ประเภท เหตุผลที่ลูกค้านิยมซื้อน้ำแก้วมังกรมากกว่าน้ำแก้วมังกรสีขาวนั้นเพราะว่าสีแดงจะมีรสชาติที่หวานมากกว่าสีขาว ส่วนสีขาวจะมีนำเอาอัญชัญและมะนาวเป็นส่วนผสมเพิ่มรสชาติและเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าอีกด้วย
สำหรับการคัดเกรดแก้วมังกรที่นำมาแปรรูปนั้น ส่วนผิวและเปลือกไม่ได้นำมาเป็นส่วนผสมอยู่แล้วเพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องควบคุมมากนัก แต่จะเน้นที่ค่าความหวานของแต่ละผลในการคัดเกรดจะนำเอาผลแก้วมังกรที่มีค่าความหวานมากกว่าปกติมาแปรรูปเพื่อที่จะชดเชยความหวานที่ไม่ต้องเติมน้ำตาลได้ นอกจากนี้เป้าหมายที่ทางแบรนด์ตั้งไว้จะไปในทิศทางของการพัฒนาเพื่อส่งออกต่างประเทศให้ได้เร็วที่สุดและหวังอยากให้คนไทยบริโภคแก้วมังกรเพิ่มมากขึ้นรวมถึงต้องการให้คนไทยที่ต้องการบริโภคแก้วมังกรแล้วให้นึกแบรนด์ Fruitaya ที่ขายทั้งผลสดและแปรรูปที่ปลอดสารเคมีดีต่อสุขภาพแน่นอน
แน่นอนว่าการทำธุรกิจย่อมมีอุปสรรคและปัญหาตามมาอย่างแน่นอนบวกกับเจ้าของแบรนด์ไม่เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับการแปรรูป ส่วนมากทำแปลงเกษตร ปลูกและส่งขาย พอผันตัวมาทำแก้วมังกรแปรรูปจะมีรายละเอียดและขั้นตอนมากมายให้ทดลองและศึกษา จำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจในมุมมองการทำธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงเข้าร่วมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจแปรรูปของภาครัฐฯ ต่างๆเพื่อนำเอาความรู้มาปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์แปรรูปแก้วมังกรจะมีวางขายที่หน้าสวน ร้านขายอาหารสุขภาพในกรุงเทพมหานครประมาณ 15 ร้าน และออนไลน์ในเพจเฟซบุ๊ค ไลน์แอด ออนไลน์แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น ช็อปปี้และลาซาด้า ซึ่งในตอนนี้กำลังวางแผนที่จะกระจายสินค้าให้ไปวางขายในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น ทั้งนี้ยอดขายในออนไลน์จะมากกว่าหน้าร้านประมาณ 80% และในอนาคตได้มีการวางแผนวิจัยเพิ่มประเภทสินค้าอีก 2 ประเภทที่ทำจากแก้วมังกร 100% รวมถึงจะมีการนำเอาแก้วมังกรสีทองมาแปรรูปเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้แก้วมังกรอบแห้งมีราคาชิ้นละ 69 บาท น้ำแก้วมังกร 69 บาท ส่วนแยมแก้วมังกรจะมีราคาอยู่ที่ 89 บาท ซึ่งน้ำแก้วมังกร 1 ขวด และแก้วมังกรอบแห้ง 1 ซอง เทียบเท่ากับการกินแก้วมังกรสดประมาณ 2 ลูก นอกจากนี้ตัวแก้วมังกรอบแห้งนั้นจะมีเนื้อสัมผัสที่หนึบและนิ่มจะไม่กรอบ เนื่องจากแก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีน้ำจำนวนมากและไม่ได้เข้าระบบฟรีซดราย เวลาอบแห้งแล้วจะทำให้เนื้อสัมผัสออกมานิ่มมากกว่ากรอบ
แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีผลผลิตตามฤดูกาลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี โดยจะมีประมาณ 14 รุ่นต่อฤดูกาล ซึ่งที่สวนของเจ้าของแบรนด์ได้มีการปลูกและผลิตแก้วมังกรนอกฤดูกาลขายแต่ปริมาณอาจจะไม่ได้มากเท่ากับช่วงในฤดูกาล แต่ก็สามารถเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้ถ้าพูดถึงเรื่องแก้วมังกรอบแห้งนั้นมีออกมาให้เห็นกันบ่อยแต่น้ำแก้วมังกรและแยมแก้วมังกรนั้น Fruitaya ถือว่าเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่ริเริ่มผลิตแปรรูปแก้วมังกรออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : Fruitaya ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากแก้วมังกร
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *