ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ภาพรวมทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการดำเนินชีวิตของคนทั่วโลก เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แน่นอนว่านอกจากทุกคนจะต้องปรับตัวจากการดิสรัปชันในยุคดิจิทัลแล้ว ยังต้องปรับตัวต่อการแพร่ระบาดของไวรัสร้าย ชนิดที่ใครๆ ก็ไม่ทันคาดคิดอีกด้วย การปรับตัวเพื่อประกอบสัมมาชีพก็มีวิวัฒนาการตามสถานการณ์ เช่นเดียวกัน
คุณญตบนม หรือ คุณกุ้ง-เขมมิกา ณ สงขลา ผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกกับอาชีพที่โลกต้องทึ่ง และสไตล์การแต่งตัวที่ไม่เหมือนใคร จนเป็นเหตุให้สื่อมวลชนจากทั่วโลกเดินทางมาสัมภาษณ์เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของเธอ
กุ้ง เขมมิกา มีอาชีพตบนม ตบหน้า ตบปรับสรีระ แถมยังคลั่งไคล้ชูชก ซึ่งเธอทั้งรักและศรัทธา ดูแลอย่างดีหลายพันรูปปั้น เป็นคนแรกๆ ตั้งแต่ยังไม่มีการเช่าบูชากันจนฮิตติดลมบนเช่นทุกวันนี้ จนเรื่องราวของ “ชูชกบ้านตบนม” ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในพิพิธภัณฑ์ซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
36 ปี อาชีพแห่งภูมิปัญญา
ตลอด 36 ปีที่เธอใช้สองมือสร้างอาชีพ ต้องฝ่าด่านคำคนที่มาในรูปแบบความไม่หวังดีนับครั้งไม่ถ้วน ถ้าไม่ใช่ตัวจริงคงยืนไม่ได้ ที่สำคัญ เธอไม่เคยมีปัญหาการฟ้องร้องเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่มีหลายคนพยายามที่จะเลียนแบบ ทั้งด้วยตัววิชา ลีลาท่าทาง คำพูดคำจา และการแต่งตัว แต่ตัวจริงก็ยังคงเป็นตัวจริง เคล็ดวิชาที่ยายได้สอนไว้เป็นต้นตำรับที่ยากต่อการลอกเลียน จนเธอสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย จากการเดินทางมาถ่ายทำรายการของสื่อมวลชนร้อยกว่ารายการจากทั่วโลก อีกทั้งยังมีลูกศิษย์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่บินลัดฟ้ามาเล่าเรียนและนำไปประกอบอาชีพสร้างชื่อเสียงและสร้างรายได้ให้แก่หลายครอบครัว
ตรามนุษย์ ศาสตร์การตั้ง-เปลี่ยนชื่อ ถ่ายทอดมาจากยาย
นอกเหนือจากวิชาชีพที่สร้างชื่อให้ กุ้ง เขมมิกา ตามที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ในช่วงวิกฤตโควิด-19 แพร่ระบาด เกิดการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ อาชีพหลักของเธอเองก็ได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ชื่อของเธอกลับได้รับการกล่าวขานถึงอีกครั้งด้วยอาชีพที่ต้องทึ่ง คือ “ตรามนุษย์” ซึ่งเธอบอกว่าเป็นศาสตร์แรกและศาสตร์เดียวของโลกที่เธอพัฒนาขึ้นมาจากหลักคิดที่ยายให้ไว้เมื่อ 36 ปีก่อน
ยายบอกกับพี่กุ้งว่า “คนเราทุกคนคือตำราเรียนที่มีชีวิต” บางคนคือตำรา บางคนคือคัมภีร์ ตรามนุษย์คือ การตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ ในรูปแบบเฉพาะตัวที่มีวิถีชีวิตแตกต่างกันไป
แน่นอนว่าไม่เหมือนการตั้งชื่อตามศาสตร์ทั่วไป ทั้งของไทย จีน และตำราโบราณ ที่ยึดถือกันมา ส่วนใหญ่เน้นการรวมเลขเพื่อสร้างพลังให้กับชื่อ และนามสกุล แต่สำหรับตรามนุษย์ เป็นศาสตร์เฉพาะบุคคล ที่ไม่เหมือนใคร เหมือนเวลาคนป่วยก็ต้องให้ยาตามอาการ สมัยใหม่ให้ยาหรือจัดอาหารเป็นยารักษาตามยีนของแต่ละบุคคล
เธอบอกว่า ศาสตร์ตรามนุษย์ที่เหมือนกับศาสตร์ทั่วไปคือ ทุกคนต้องมีชื่อเอาไว้บ่งบอกความเป็นตัวตน แต่ที่ต่างกันคือ การตั้งชื่อตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล จะใช้หลักการเดียว ชื่อเดียวกันไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น ตั้งชื่อตามเอกลักษณ์ของอาชีพ เช่น ชื่อคุณญตบนม ก็เพราะ กุ้ง-เขมมิกา มีอาชีพตบนม เป็นอาชีพแรก และเป็นเอกลักษณ์ เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก อีกคนคือลูกศิษย์ที่ตั้งชื่อให้ เขาเป็นนักเขียนที่เก่งมาก ก็ตั้งชื่อว่า แพรประพันธ์ บางคนก็ตั้งตามพฤติกรรมและวิถีชีวิต เช่น ยอดพิมพ์ธิดา เด็กคนนี้เป็นคนกตัญญู ดูแลมารดาเป็นอย่างดีมานับสิบปี หรืออย่างชื่อ รักสรัลรักษ์ ก็หมายถึงคนที่มีความรักไม่มีที่สิ้นสุด เธอเป็นคนที่มีเสน่ห์และมีความรักให้แก่ทุกคน ชื่อนี้จึงเหมาะต่อเธอมาก
“พี่กุ้งจะให้ทุกคนที่ต้องการเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล เขียนเรื่องราวของตัวเองมาคนละ 1 หน้ากระดาษ จากนั้นก็จะมาประมวลผล และหาชื่อที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล เพราะฉะนั้นชื่อแต่ละคนจึงไม่ซ้ำกัน แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่คำนึงถึงพลังของตัวอักษร เราก็ต้องดูให้ไม่เป็นกาลกิณี ดูให้มีผู้อุปถัมภ์ เดช ศรี บารมี ครบถ้วนสมบูรณ์ ถ้าถามว่าชอบชื่อไหนที่สุดก็ต้องบอกว่าพี่กุ้งรักทุกชื่อที่พี่กุ้งตั้ง เพราะมันคือพลังของแต่ละบุคคลที่สื่อถึงกัน ทุกคนจึงรักชื่อที่ตั้งไป”
สำหรับสนนราคาต่อการให้บริการตั้งชื่อไว้คือ 15,000 บาท แน่นอนว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตำราอื่นๆ แต่เธอบอกว่ามันคือชื่อที่เป็นตัวตน และเป็นตรามนุษย์ที่เป็นหนึ่งเดียวติดตัวไปตลอดชีวิต จึงเป็นราคาที่เหมาะสมกับคุณค่าของชื่อที่ได้ไป
ด้วยสถานการณ์โควิด และสภาพร่างกายในวัย 54 ปีของเธอที่ยังคงป่วยด้วยโรคไต เธอจึงตัดสินใจเปิดสอนศาสตร์ตรามนุษย์ด้วย ซึ่งแม้ว่าเธอจะตั้งค่าเรียนไว้สูงถึง 1 ล้านบาท แต่ก็มีลูกศิษย์มาขอเรียนเป็นจำนวนมาก และที่เรียนจบไปแล้วสามารถประกอบอาชีพได้ทุกคน
หนึ่งในลูกศิษย์ที่ กุ้ง-เขมมิกา ภาคภูมิใจคือ ลูกศิษย์ผู้ชายคนหนึ่งที่มาเรียนศาสตร์ตรามนุษย์ ชื่อเดิมก่อนเปลี่ยนชื่อว่า “สานิตย์” ทำงานบริษัทเอกชน คนคนนี้เขียนบอกเล่าเรื่องราวความเป็นตัวตนของตัวเองได้อย่างชัดเจน เขามีความรัก เขามีความศรัทธาที่พี่กุ้งได้ตั้งชื่อให้คือ ภูมิศรัทธา หลังจากนั้นไม่ถึงปี ภูมิศรัทธาเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ตรามนุษย์ของพี่มีฉายาว่า “มหาเฮงตอง888มหาเฮงเศรษฐี”
“ศาสตร์ตรามนุษย์คือ “นามสมบัติ” การตั้งชื่อจากรูปร่างหน้าตา ในศาสตร์ตรามนุษย์คือ “รูปสมบัติ” และ การตั้งชื่อที่ดีจะนำมาซึ่ง “ทรัพย์สมบัติ” ซึ่งพี่กุ้งเองได้พิสูจน์มาตลอดแล้วว่าชื่อและนามสกุลที่พี่กุ้งตั้งไปทั้งหมดประสบความสำเร็จ และจะทรงพลังมากยิ่งขึ้นหากอยู่ในศีลธรรม และทำบุญให้กับชื่ออย่างสม่ำเสมอ”
“สำหรับการสอนศาสตร์ตรามนุษย์นั้น ลูกศิษย์หนึ่งคน ก็คือหนึ่งตำรา เพราะแต่ละคนจะมีความเหมือนและความแตกต่างกัน เราจะเขียนตำราเล่มเดียวสำหรับลูกศิษย์ทุกคนไม่ได้ เราต้องสอนแบบปลดล็อกชีวิตในแต่ละจุด และสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ โดยจะต้องสอนให้เขาเข้าใจตัวตนของตัวเองก่อน ถึงจะปลดล็อกคนอื่นได้ มีสติ คิดไตร่ตรองหลายๆ รอบบนพื้นฐานความเป็นจริง คิดแบบมีเหตุมีผล คิดแล้วคิดอีก กว่าจะได้ 1 ชื่อ 1 นามสกุลจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ใครได้สัมผัสตรามนุษย์จะหลงรักในความเป็นธรรมชาติ และเป็นสากล ขอเพียงแค่คุณเปิดมุมมองให้กว้าง มองให้ลึก ทุกอย่างจะมีคำตอบอยู่ในคำถามเสมอ” ครูกุ้ง เขมมิกา กล่าว
สนใจติดต่อ โทร. 08-6535-5999