จากความชอบส่วนตัวในการมีสไตล์การแต่งตัวที่มาเหมือนใครทำให้ “หมูหยอง The Face Men” หันมาทำธุรกิจขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมมือสอง ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ เอาใจลูกค้าสายสะสมและชื่นชอบเสื้อผ้าแนววินเทจ ฮาวาย และอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบดีไซน์เสื้อผ้าให้แตกต่างและไม่เหมือนใคร เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี
นายบัญชา บุญสมสุข หรือ หมูหยอง The Face Men เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าวิจเทจและแบรนด์เนมของแท้มือสอง The Treasure เล่าว่า จุดเริ่มต้นและที่มาของการทำธุรกิจขายเสื้อผ้า นั้นเริ่มต้นจากความชอบส่วนตัว เดิมทีเป็นคนชอบใส่เสื้อผ้าสไตล์การแต่งตัวของตัวเอง และมีคนเข้ามาถามว่าเสื้อผ้าที่ตนใส่นั้นซื้อมาจากที่ไหน จากนั้นก็เริ่มเกิดไอเดียและความคิดที่ว่าเสื้อผ้าสไตล์แบบที่ตนใส่คนน่าจะชอบ ในตอนนั้นตนมีเงินเพียง 10,000 บาท ก็เลยทุ่มไปทั้งหมดเลย ทั้งนี้แนวเสื้อผ้าของทางร้านจะเป็นเสื้อผ้าแนววินเทจ เป็นเสื้อผ้ามือสองเกรดนำเข้าและส่งออก มีทั้งผู้หญิงและ ผู้ชาย หรือยูนิเซ็กส์ ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 สาขา ซึ่งทั้ง 3 สาชาถูกตั้งขายอยู่ที่ตลาดนัดรถไฟรัชดา และทั้ง 3 สาขาเสื้อผ้าจะแตกต่างกันไป แต่ละร้านจะมีเสื้อผ้าที่มีสไตล์ไม่เหมือนกันแต่เป็นเสื้อผ้ามือสองเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ในช่วงแรกทีเริ่มเปิดร้านขาย ในเงิน 10,000 บาทนั้นตนได้ขายแบบตั้งเต็นท์ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร เป็นเวลา 1 เดือนกว่าๆ หลังจากจึงได้เงินอีกจำนวนหนึ่งทำให้สามารถไปเช่าร้านได้ แต่อุปสรรคอยู่ตรงที่ว่าในการเช่าร้านนั้นค่าเช่า 5,000 บาท และค่ามัดจำล่วงหน้าอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ตนต้องขยันและตั้งใจขายเสื้อผ้าซึ่งเสื้อผ้าบางตัวที่ตนมีอยู่นั้นจะเป็นเสื้อผ้าที่มียี่ห้อและลูกค้าที่เป็นนักสะสมหรือชื่นชอบเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อตนนำมาขายก็จะได้จำนวนเงินที่สามารถนำไปเช่าร้านขายได้บวกกับความขยัน ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ตั้งใจขายเสื้อผ้าอย่างเดียว
นอกจากนี้ความยากง่ายในการทำงานในวงการบันเทิงกับงานขายเสื้อผ้ามือสอง หมูหยอง ให้ความเห็นว่า ในความเป็นจริงความยากง่ายสำหรับงานทั้งสองอย่างนั้นมีความยากคนละแบบเพราะว่า เสื้อผ้า การแต่งตัว มันเป็นความชอบส่วนบุคคล ส่วนงานทางด้านการบันเทิงจะเป็นการทำงานตามบทบาทที่ได้รับและสามารถตอบโจทย์ประชาชนได้ แต่ถ้าเป็นร้านเสื้อผ้าก็สามารถเลือกจากสไตล์ของตัวเองล้วนๆ ปัจจุบันหมูหยองเปิดร้านขายเสื้อผ้ามือสองมาได้ประมาณ 2 ปี สำหรับผลตอบรับอยู่ในระดับที่ดีมาก เนื่องจากตนได้มีการส่งออกเสื้อผ้าไปยังต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน อเมริกา และอังกฤษ
สำหรับในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมานั้น ผลกระทบที่ได้รับนั้นค่อนข้างกระทบมากพอสมควร แต่ตนเองก็ไม่ย่อท้อ พยายามหาลูกค้าให้ได้มากที่สุด ลูกค้าที่เคยซื้อเคยสนับสนุนทางร้านตนก็พยายามติดต่อไปอย่างต่อเนื่อง แต่ความยากอยู่ตรงที่ร้านค้าส่วนมากจำเป็นต้องปิดชั่วคราวการส่งออกไปยังต่างประเทศจึงเกิดการชะลอตัวบางส่วนทำให้รายได้บางส่วนก็หายไปเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ราคาเสื้อผ้ามือสองภายในร้านที่เป็นเสื้อฮาวาย วินเทจจะอยู่ที่ราคา 200 บาท ส่วนเสื้อแบรนด์เนมของแท้มือสองทางร้านขายในราคา 150 บาท ทั้งนี้ทางร้านยังมีเสื้อที่ออกแบดีไซน์เองมีความทันสมัย มีสไตล์มากยิ่งขึ้น โดยจะมีอย่างละ 1 ตัวเท่านั้น ทั้งนี้ราคาเสื้อผ้าจะแตกต่างกันออกไปเพราะมีทั้งแบรนด์เนมเกรดนำเข้าและส่งออกราคาจะอยู่ที่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ปัจจุบันทางร้านมีเสื้อผ้ามือสองหลากหลายรูปแบบ เช่น ฮาวาย เจแปนนิสวินเทจ แจ็คเก็ตยีนส์ เครซี่ปริ๊นส์
อย่างไรก็ตามเคล็ดลับในการทำให้ลูกค้าสนใจนั้นตนใช้วิธีการบริการลูกค้าให้ลูกค้าพอใจ เนื่องจากการบริการลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาสั่งซื้อสินค้าภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็นการพูดจา การอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งตนมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และทุกธุรกิจคืองานบริการ และนี่ก็เป็นส่วนสำคัญในการทำการตลาดของตน นอกจากนี้ร้านเสื้อผ้าถูกตั้งอยู่ในบริเวณตลาดนัดรถไฟรัชดา โกดังที่ 1 ห้องเลขที่ 25-26
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : Hawaii_favor
Instagram : astdepth_official
: the_treasure87
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *