ทุเรียนมีชื่อเรียกว่าเป็นราชาแห่งผลไม้ และเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงมากของไทย มีคนชื่นชอบมากมาย ไม่เฉพาะแค่ในไทย แต่ยังรวมไปถึงชาวต่างชาติที่ได้เคยลิ้มรส ส่วนใหญ่ต่างก็ชื่นชอบ ทุเรียน โดยเฉพาะชาวจีน ที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ปัจจุบันประเทศไทยก็มีพื้นที่ในการปลูกอย่างหลากหลาย รวมไปถึงพื้นที่ชุมพร หนึ่งในนั้นคือ “สวนทวีทรัพย์” ที่เรียกได้ว่าเป็นสวนแรกๆ ในชุมพร บนพื้นที่กว่า 100 ไร่
นายวีรวัฒน์ จีรวงส์ ประธานบริษัท สวนทวีทรัพย์ ฟู้ด จำกัด เล่าว่า บริษัท สวนทวีทรัพย์ ฟู้ด จำกัด เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยนายทวี จีรวงศ์ ซึ่งเป็นรุ่นปู่ของปัจจุบัน ภายในสวนก็เริ่มจากการปลูก มะพร้าว, กาแฟ, โกโก้, พริกไทย, หมาก, พืชสมุนไพร และทุเรียน ซึ่งถือว่าเป็นทุเรียนสวนแรกๆ ในชุมพรเลยก็ว่าได้ และเมื่อปี พ.ศ. 2530 ตนก็เข้ามาร่วมดูแลสวนช่วยพ่อ
ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2532 เกิดพายุไต้ฝุ่นเกย์ ประสบวาตาภัย ทำให้สวนที่มีอยู่ล้มทั้งหมด ไม่เหลือ ทำให้ต้องเริ่มต้นในการทำสวนใหม่ทั้งหมด และเมื่อปี พ.ศ. 2534 เริ่มปลูกทุเรียน ซึ่งที่สวนปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง เริ่มต้นที่ 50 ไร่ เพิ่มเติมเป็น 70 ไร่ และปัจจุบันอยู่ที่ 100 ไร่ นอกจากนี้ ภายในสวนยังปลูกผลไม้อื่นๆ อีก เช่น ปาล์มน้ำมัน 100 ไร่ ยางพารา 100 ไร่ พร้อมทั้งปลูก มังคุด, ส้มโชกุน, ลองกอง, มะละกอ, กล้วย, หมาก เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการทสวนแบบผสมผสานแทรกอยู่ในแปลงทุเรียน
อีกทั้งทางสวนทวีทรัพย์ยังได้รับการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากโปรแกรม ITAP สวทช. ในการดำเนินโครงการ “การลงพื้นที่แปลงเพื่อพัฒนาระบบการผลิตที่ปลอดภัยตามมาตรฐาน ThaiGAP ของ บริษัท สวนทวีทรัพย์ ฟู้ด จำกัด” โดย ศูนย์วิจัยและพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ในเรื่องให้คำปรึกษาแนะนำในเนื้อหาและแนวทางปฏิบัติที่กำหนดไว้ตามมาตรฐาน ThaiGAP การตรวจประเมินความเสี่ยงของฟาร์ม และชี้แนะข้อบกพร่องเพื่อให้สอดคล้องตามมาตรฐาน การจัดทำระบบเอกสารที่จำเป็นในการควบคุมความเสี่ยง และการปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องตามมาตรฐาน รวมถึงให้การรับรองมาตรฐาน ThaiGAP
โดยได้ขอตรวจประเมิน เพื่อขอการรับรองเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2562 ผลตรวจประเมินพบว่า ทำเกษตรได้สอดคล้องกับการทำมาตรฐานการผลิตผักและผลไม้ปลอดภัย (ThaiGAP) เป็นอย่างดี พร้อมทั้งคำนึงถึงการประเมินความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในแปลงปลูก เช่น การประเมินความเสี่ยงพื้นที่ปลูก การประเมินความเสี่ยงของน้ำ และไม่มีการใช้สารเคมีที่จะส่งผลต่อความปลอดภัยของผลผลิต และยังมีการอบรมการทำเกษตรปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงานในแปลงทุกคนได้เข้าใจ และได้ตรวจสารพิษตกค้างในเลือด สำหรับผู้ฉีดพ่นสารเคมี และมีอุปกรณ์ป้องกันอย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ ผลจากการได้รับรองมาตรฐาน ThaiGAP ทำให้พัฒนาศักยภาพ เพิ่มการเรียนรู้ระบบการผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดภัย ตั้งแต่ฟาร์มจนถึงโรงคัดบรรจุ รวมถึงได้ผลผลิตที่มีคุณภาพปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัยจากเคมี จุลินทรีย์ และสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีระบบตรวจสอบที่ตรวจย้อนกลับไปยังแหล่งผลิตได้ เพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ค้าและผู้บริโภคอีกด้วย
นอกจากนี้ สวนทวีทรัพย์ยังพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการทำแห้งเยือกแข็งแบบสุญญากาศ หรือ Freeze Dried (ฟรีซดราย) เพราะนอกจากจะทำธุรกิจขายส่งผลไม้แล้ว ยังมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น ทุเรียน, มังคุด, มะม่วง, สับปะรด และเงาะสอดไส้สับปะรด ซึ่งมีการสร้างโรงอบแห้งผลไม้ ประกอบด้วยส่วนรับผลไม้ คัดผล บ่ม แกะเปลือก ห้องแช่แข็งลมเย็นจัด (-40 องศาเซลเซียส) ห้องพักผลผลิตแช่แข็ง ห้องเย็นเก็บผลผลิต (-20 องศาเซลเซียส) ห้องหั่นผลผลิต เครื่องอบแห้งเยือกแข็งแบบสุญญากาศ (จากประเทศไทย) ห้องบรรจุผลิตภัณฑ์ และห้องล้างอุปกรณ์
โดยเทคโนโลยีที่ใช้ในกระบวนการแปรรูป คือ เทคโนโลยีการทำแห้งเยือกแข็งแบบสุญญากาศ หรือ ฟรีซดราย คือ การทำแห้ง (dehydration) ด้วยการแช่เยือกแข็ง (freezing) ทำให้น้ำเปลี่ยนสถานะเป็นผลึกน้ำแข็งก่อน แล้วจึงลดความดันเพื่อให้ผลึกน้ำแข็งระเหิด (sublimation) เป็นไอ ด้วยการลดความดันให้ต่ำกว่าบรรยากาศปกติ โดยมีขั้นตอนการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม เช่น การล้าง การปอกเปลือก การลดขนาดจากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการหลักซึ่งประกอบด้วย การแช่เยือกแข็ง (freezing) การทำแห้งขั้นต้น (primary drying) และการทำแห้งขั้นที่สอง (secondary drying) โดยผัก ผลไม้ หรืออาหารที่ผ่านกรรมวิธีการทำแห้งเยือกแข็งแบบสุญญากาศแล้วจะสามารถคงคุณภาพทั้งคุณค่าทางสารอาหาร กลิ่น รสชาติ ของอาหารหรือผลไม้สดจริงตามวัยของผลไม้ที่นำมาผ่านกระบวนการแปรรูปมากที่สุด โดยการแปรรูปดังกล่าวจะช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าให้บริษัทฯ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างความมั่นใจด้านคุณภาพ ความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสามารถส่งจำหน่ายยังต่างประเทศได้
ด้าน นางสาวศีลวัต จีรวงศ์ ลูกสาวยังเข้ามาช่วยในส่วนของการตลาดต่างๆ ให้กับสวนทวีทรัพย์ อีกด้วยโดยการทำการตลาดของสวน จะเน้นในส่วนของการแบ่งเกรดของทุเรียน ที่จะมีตั้งแต่ระดับ Premium AB C สำหรับช่องทางการจำหน่ายจะมีตั้งแต่ช่องทาง Modern Trade อย่าง ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต เพจเฟซบุ๊ก และพ่อค้า แม่ค้าที่มารับไปขายปลีก และจะมีบ้างที่ตนและครอบครัวออกไปขายเอง ส่วนทุเรียนที่ไม่ผ่านการคัดเกรดหรือมีตำหนิ ก็จะนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น แช่แข็ง ทำเป็นไอศกรีมทุเรียน, ฟรีซดราย, ทอด และกวน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีบริการจัดส่งออนไลน์ ทุเรียนเกรดพรีเมี่ยม ขนาด 3.5-4.5 กก. ราคาลูกละ800บาท, ทุเรียนเกรดพรีเมี่ยม ขนาด 4.5-5.5 กก. ราคาลูกละ 1,000 บาท สำหรับค่าจัดส่งอยู่ที่ 1 ลูก 150 บาท, 2 ลูก 250 บาท, 3-4 ลูก 350 บาท สำหรับทุเรียนตกไซส์ตกเกรด (ข้างนอกไม่ค่อยสวย มีราดำนิดหน่อย แต่ข้างในเนื้อดีอร่อย) ใน 1 กล่อง มีทุเรียน 4-5 ลูก น้ำหนัก 16 กก. ราคา 2,500 บาท (รวมค่าส่งแล้ว)
สนใจติดต่อ Line@ : @suantaweesup เฟซบุ๊ก : Suantaweesup หรือ โทร. 062 293 9898