นับเป็นการเพิ่มมูลค่า “กล้วยไข่” ที่สามารถช่วยเหลือชุมชนได้อย่างมากมายสำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ ตำบลลำสินธุ์ อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ “กล้วยไข่กรอบแก้ว” จากกล้วยไข่ในสวนตอบโจทย์คนรักสุขภาพ พร้อมส่งสินค้าสู่ เซเว่นฯ กระจายไปกว่า 1,500 สาขา ล่าสุดได้ส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศเวียดนาม จีน สิงคโปร์ รวมถึงญี่ปุ่น
นางประทิ่น นาคมิตร วัย 64 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ เล่าว่า ปี พ.ศ.2540 เข้ามารับช่วงต่อเป็นประธานกลุ่ม ด้วยความตั้งใจหลัก คือ นำพากลุ่มให้อยู่รอด และช่วยเหลือเกษตรกรในท้องถิ่นให้มีรายได้ ซึ่งตอนนั้นเห็นกล้วยน้ำว้า และกล้วยไข่ ราคาตกต่ำมาก จากกิโลกรัมละ 40 บาท ลดลงเหลือเพียงกิโลกรัมละ 3 บาท สมาชิกทุกคนลงมติเป็นเสียงเดียวกันว่าควรนำมาแปรรูปเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กล้วยกลับมามีราคาอีกครั้ง
โดยพลิกโฉมกล้วยให้กลายเป็นขนมกินเล่นแบบสแน็ค โดยเลือกใช้กล้วยไข่ เปลี่ยนเมนูธรรมดาที่สามารถเห็นได้ทั่วๆ ไป เช่นกล้วยฉาบ กล้วยเชื่อม กล้วยกวน ให้กลายเป็น “กล้วยกรอบแก้ว” พร้อมทั้งปรุงรสแตกต่างจากท้องตลาดซึ่งมีทั้ง รสเค็ม รสหวาน รสปาปริก้า รสบาร์บีคิว ต้มยำ และรสสาหร่าย แข่งกับขนมสมัยใหม่ได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์กล้วยกรอบแก้ว มีให้เลือกทั้งแบบม้วน แบบแว่น แบบสไลด์ และแบบแท่ง หัวใจสำคัญอยู่ที่การเลือกกล้วยไข่ เนื่องจากจะต้องใช้กล้วยไข่ปลูก 7 เดือน และตัดก่อนกล้วยจะสุก 3 วัน ความแตกต่างของกล้วยภาคใต้ คือลูกเล็ก เนื้อแน่น กรอบ สาเหตุที่เลือกใช้กล้วยลักษณะนี้ รสชาติจะไม่หวาน แต่จะให้ความมัน ปรุงรสชาติแล้วเข้ากันดี
“สำหรับกรรมวิธีทำกล้วยกรอบแก้ว ขั้นตอนแรกนำกล้วยสดล้างน้ำสะอาด จากนั้นนำไปปอกเปลือก แช่ในน้ำมะนาวเพื่อไม่ให้ผิวกล้วยดำ ล้างน้ำสะอาดอีกที นำไปสไลด์เป็นแผ่นบางๆ ทอดลงกระทะน้ำมันความร้อน 160 องศา ประมาณ 5 นาที ปรุงรสชาติตามต้องการ จากนั้นเข้าตู้อบอีก 3 -10 นาที ซับน้ำมันและไล่ความชื้นเพื่อป้องกันเชื้อรา”
นอกจากนี้ ด้านการตลาดทางกลุ่ม ยังมุ่งพัฒนาสินค้ามาเรื่อยๆ ลงพื้นที่ออกบูธทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลตอบรับก็มีทั้งดีและไม่ดี กระทั่งปี พ.ศ. 2552 ขณะที่กำลังอยากเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายและยกระดับสินค้าให้เป็นที่รู้จัก มีผู้บริหารเซเว่นฯ เข้ามาสอบถามว่า ต้องการลองนำกล้วยกรอบแก้วมาขายในเซเว่นฯ หรือไม่ จึงไม่รอช้ารีบตอบตกลงทันที และมองว่าช่องทางร้านสะดวกซื้อนับเป็นโอกาสขยายตลาดค้าปลีกที่รวดเร็ว เลยตัดสินใจยกเครื่องโรงงานสร้างใหม่เพื่ออนาคต เปลี่ยนอุปกรณ์ตั้งแต่กระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์ เนื้อที่โรงงานใหม่ประมาณครึ่งไร่ ใช้ระยะเวลาพัฒนาสินค้าร่วมกับซีพี ออลล์ เกือบ 1 ปีเต็ม โดยทีมงานเซเว่นฯ เข้ามาแนะนำเรื่องของการตลาด การพัฒนาคุณภาพสินค้า และบรรจุหีบห่อให้น่าสนใจ สะดุดตาผู้บริโภค
“ปี พ.ศ. 2553 สินค้าถูกนำไปวางขายที่ร้านเซเว่นฯ เริ่มสาขาภาคใต้ก่อนจะกระจายไปภาคอื่นๆ ปัจจุบันกระจาย 1,500 สาขา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ เป็นชุมชนกลุ่มแรกของจังหวัดพัทลุง ที่สามารถเป็นคู่ค้ากับบริษัทค้าปลีกระดับประเทศ ส่งผลถึงยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์กล้วยเมืองลุงเริ่มเป็นที่รู้จัก ปัจจุบันทางกลุ่มฯ จะใช้กล้วยไข่ดิบรับซื้อจากเกษตรกรวันละ 300 กิโลกรัมนำมาแปรรูป มีการประกันราคาให้ด้วย เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7-12 บาท ออร์เดอร์จากร้านเซเว่นฯ ช่วยสร้างรอยยิ้มให้ชาวสวน ไม่ต้องโค่นต้นกล้วยในยามที่ราคาตกต่ำ”
สุดท้ายนี้ ตั้งแต่ได้มีโอกาสร่วมงานกับทางเซเว่นฯ สามารถสร้างยอดขายเติบโตต่อเนื่อง รายได้เฉลี่ยเดือนละ 300,000 – 400,000 บาท ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิก 15 ครอบครัวดีขึ้น ส่วนเกษตรกรต่างได้รับประโยชน์ เนื่องจากทางกลุ่มช่วยประกันราคากล้วย และมีเงินกองทุนฟื้นฟูพัฒนาเกษตรกร ดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อปี
ทั้งหมดนี้เป็นพลังความร่วมมือในการพัฒนาระหว่างผู้ผลิตสินค้า และทีมงานจำหน่ายสินค้าของเซเว่นฯ ทำให้ผลิตภัณฑ์ “กล้วยไข่กรอบแก้ว” ในวันนี้ ได้รับมาตรฐานมากมาย ทั้งมาตรฐาน มพช. โอทอป 5 ดาว อย. ฮาลาล และ HACCP และมีโอกาสขยายตลาดไปในต่างประเทศ ล่าสุดได้ส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศเวียดนาม จีน สิงคโปร์ รวมถึงญี่ปุ่น
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
