กรมการข้าว พาสื่อ ชมนาแปลงใหญ่ผลิตข้าวอินทรีย์ จ. กำแพงเพชร-นครสวรรค์ ต่อยอดผลิตภัณฑ์จากข้าว สร้างรายได้สู่ความเข้มแข็ง
นายทฤษฏี เพชรมะลิ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงนาสะอาด อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า วิสาหกิจชุมชนแปลงนาสะอาด ประกอบด้วยกลุ่มเกษตรกรที่ทำนาประณีตแบบแม่นยำ ใช้วิธีปักดำทั้งหมด คุมวัชพืชด้วยน้ำ มีกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ กรมการข้าวได้ให้การสนับสนุนโดยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง โดยเน้นการผลิตข้าวอินทรีย์ ยึดหลักซื่อสัตย์ ยุติธรรม สะอาด ปลอดภัย โดยพยายามฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไปให้กลับมามีระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์อย่างเช่นอดีต มีการจัดกิจกรรมให้กับกลุ่มแม่บ้าน และเด็กนักเรียนในท้องถิ่นให้มีส่วนร่วม จึงกลายเป็นแหล่งผลิตข้าวปลอดภัยโดยเฉพาะข้าวโภชนาการสูง เช่นข้าวทับทิมชุมแพ ข้าวมะลินิลสุรินทร์ แหล่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดกำแพงเพชร
สำหรับปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนแปลงนาสะอาด มีสมาชิกประมาณ 120 คน มีการเรียนรู้พัฒนากลุ่มมาอย่างต่อเนื่อง เพิ่มศักยภาพและขีดจำกัดของชุมชนอย่างเป็นระบบ สมาชิกมีการพยายามเรียนรู้ด้วยตนเองและจากแหล่งข้อมูลต่างๆ อย่างเช่น ประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ทั้งที่ได้รับมาจากกรมการข้าวและหน่วยงานภาคีที่เข้ามาส่งเสริมในเรื่องของนาแปลงใหญ่ ทางกลุ่มมีการบริหารจัดการสวัสดิการให้แก่สมาชิกอย่างยุติธรรม เช่นการประกันราคาข้าวให้แก่สมาชิกในราคาสูง เพื่อสร้างแรงจูงใจและมีความตั้งใจในการเพาะปลูก มีการดูแลอย่างถูกต้องตามหลักการ ทำให้สมาชิกมีความขยันหมั่นเพียร ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ต่อยอดมาถึงการทำวิสาหกิจในชุมชน โดยการนำทรัพยากรที่มีอยู่แล้วมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการแปรรูปเป็นน้ำมันรำข้าว สบู่ก้อน ครีมอาบน้ำ แชมพู โลชั่น ครีมบำรุงผิว นำปรายข้าวมาแปรรูปเป็นแป้งเพื่อทำเส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมครก คุกกี้ เป็นต้น
นอกจากนี้ นายทรรศนะ ลาภรวย ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการข้าว นำคณะสื่อมวลชนไปยังจุดที่ 2 เพื่อศึกษาการดำเนินงานโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรค โดยมีผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครสวรรค์ ประธานกลุ่มนาแปลงใหญ่ห้วยน้ำหอม และคณะให้การต้อนรับ ณ กลุ่มนาแปลงใหญ่ห้วยน้ำหอม ตำบลห้วยน้ำหอม อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์
ด้านนางสาวสมจิตร โพธิวิจิตร ประธานศูนย์นาแปลงใหญ่ห้วยน้ำหอม กล่าวว่า กลุ่มนาแปลงใหญ่บ้านห้วยน้ำหอม หมู่ 5 ตำบลห้วยน้ำหอม อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบันมีสมาชิก 169 ราย พื้นที่จำนวน 4,984 ไร่ มีการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ กข 41, พันธุ์ พิษณุโลก2 ชัยนาท 1, ขาวดอกมะลิ 105 และการผลิตข้าวเพื่อการแปรรูปพันธุ์ ชัยนาท 1, พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และการผลิตข้าวเพื่อการแปรรูปพันธุ์ ชัยนาท1 พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105
จากเดิมเกษตรกรตำบลห้วยน้ำหอมส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาข้าวเป็นอาชีพหลัก เมล็ดพันธุ์ที่ใช้ทำพันธ์ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ข้าวของทางราชการ บางส่วนใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวพื้นเมือง การใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ไม่มีการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ใหม่ เกษตรกรส่วนใหญ่เก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เองต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายฤดู ทำให้เมล็ดข้าวขาดคุณภาพและผลผลิตลดลง และใช้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น มีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้นได้ เนื่องจากพันธุ์ข้าวที่ใช้ปลูกเสื่อมคุณภาพ ซึ่งแต่ก่อนนั้นเกษตรกรมีการทำนา 3 ครั้งต่อปี เพราะคิดว่าน่าจะได้ผลผลิตข้าวในรอบปีมากกว่าการทำนาปีละ 2 ครั้ง ซึ่งขาดการพักดินหรือการเตรียมดินให้เหมาะสม ร่วมถึงการปลูกข้าวไม่ตรงตามช่วงเวลาที่เหมาะสม จึงส่งผลให้บางฤดูประสบปัญหาโรคแมลง ความเสื่อมถอยของศักยภาพการให้ผลผลิตของดินและพันธุ์ข้าวที่มีการปลูกอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าโครงการนาแปลงใหญ่ได้รับความนิยมจากชาวนาเป็นอย่างมาก โดยมีเกษตรกรสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งกรมการข้าว มุ่งหวังให้ชาวนามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และถ้ากลุ่มชาวนาไม่เข้มแข็ง เศรษฐกิจก็ไปไม่รอด ดังนั้น กรมฯ จะต้องคิดค้นและพัฒนาถ่ายทอดองค์ความรู้ สนับสนุนเครื่องมือเครื่องจักร เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิตพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพจำหน่ายให้กับกรมการข้าว และส่งเสริมให้ชาวนาทั่วประเทศผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้สำหรับใช้เอง โดยเริ่มต้นจากเมล็ดพันธุ์คุณภาพดี เพราะชาวนาคือเป้าหมายหลักของกรมฯ ซึ่งกรมการข้าว ยืนยันว่าพร้อมที่จะดูแลชาวนาทุกกลุ่มทั่วประเทศให้มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน